นายกฯยันไทยพร้อมประชุมสุดยอดอาเซียน รปภ.เข้มรักษาภาพลักษณ์ปท.

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น จะพยายามให้เกิดกระทบต่อสิทธิการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้น้อยที่สุด แต่แน่นอนว่าอาจมีความไม่สะดวกบ้าง เพราะจะมีการตั้งด่านตรวจอาวุธและเข้มงวดเรื่องการสัญจรไปมา อย่างที่ตนเดินทางไปประชุมผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรม 20 ประเทศ (จี 20) ที่เมืองพิตสเบิร์ก ประเทศสหรัฐ ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาก บริเวณรอบสถานที่ประชุมแทบจะปิดพื้นที่เลย ไม่ให้มีใครเข้า-ออกได้เลย ยกเว้นผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งห้างร้านต่างๆ ก็ต้องหยุดทำธุรกิจในช่วง 1-2 วันนั้น ของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ต้องขออภัยหากมีความไม่สะดวกอยู่บ้างในส่วนของประชาชนที่ อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน แต่ว่าการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมากในแง่ภาพลักษณ์ของประเทศ

"หลังจากการประชุมที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ต้องจบลง หรือถูกเลื่อนออกไป เพราะมีเหตุจลาจล เป็นเรื่องที่ทำให้ต่างชาติจับตามองอย่างมาก หากว่าเราสามารถจัดการประชุมครั้งนี้ให้ราบรื่น ประสบความสำเร็จ ก็จะมีส่วนสำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นและฟื้นภาพลักษณ์ของประเทศของเรา ในทางตรงกันข้ามถ้ามีปัญหา ผมบอกเลยว่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของเราเสียหายอย่างมาก และมีผลกระทบไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือคนไทยที่จะเสียโอกาสจากการที่เศรษฐกิจจะสามารถเติบโตและขยายตัวได้จากความร่วมมือระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศให้ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี สร้างความประทับใจให้กับบรรดาผู้นำทั้ง 16 ประเทศ"นายกฯกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมรับเสด็จเจ้าชายแอนดรูว์ อัลเบิร์ต คริสเตียน เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งยอร์กแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเสด็จมาในฐานะพระราชอาคันตุกะและในฐานะเป็นผู้แทนพิเศษทางการค้าการลงทุนของสหราชอาณาจักรด้วย ในการเสด็จมาที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น มีนักธุรกิจชั้นนำของสหราชอาณาจักรร่วมคณะมาด้วย ในภาพรวมสหราชอาณาจักรสนใจจะขยายการลงทุนในไทยเพิ่ม แต่มีข้อห่วงใยในสถานการณ์ภายในของไทย โดยอยากเห็นความมีเสถียรภาพและความสงบในไทย ตนจึงอธิบายแนวทางของรัฐบาลในการที่จะสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และการทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จากกองพลพัฒนาที่ 1 ยังคงเปิดจุดรับลงทะเบียนยานพาหนะเป็นจุดสุดท้าย ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน พร้อมกันนี้ยังส่งกำลังพลส่วนหนึ่งลงพื้นที่สำรวจยานพาหนะของประชาชนตามบ้านเรือนในพื้นที่ ต.หัวหิน ต.หนองแก และ ต.ทับไต้ ซึ่งขณะนี้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้ลงทะเบียนยานพาหนะแล้ว และกองพลพัฒนาที่ 1 จะเริ่มแจกสติ๊กเกอร์ประจำยานพาหนะให้กับประชาชนในวันที่ 12 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยประชาชนสามารถมารับได้ที่จุดลงทะเบียนที่เคยมาจดแจ้งลงทะเบียนไว้ และที่ทำการตามชุมชนต่างๆ

เจ้าหน้าที่กองพลพัฒนาคนหนึ่งกล่าวว่า ประชาชนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนยานพาหนะ ขอให้เร่งดำเนินการโดยด่วน กองพลพัฒนาจะรับลงทะเบียนที่โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย โดยผู้ที่มาลงทะเบียนภายหลังจะได้รับสติ๊กเกอร์ล่าช้ากว่าประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ในช่วงแรก สำหรับสติ๊กเกอร์ที่แจกจ่ายให้กับประชาชนนั้น จะต้องติดไว้ที่ด้านหน้ารถ หรือจุดที่มองเห็นชัดเจน เช่น รถยนต์จะต้องติดไว้ที่กระจกด้านหน้า ส่วนรถจักรยานยนต์จะต้องติดไว้ที่ส่วนหน้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจตราได้โดยสะดวก นอกจากนี้ยังมีการแบ่งสีสติ๊กเกอร์ออกเป็น 5 สี ตามลำดับความสำคัญของบุคคลด้วย เช่น ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ผู้สื่อข่าว และประชาชนจากนอกพื้นที่