ปทีปยังไม่เห็นคำสั่งมาร์คตั้งรรท.ผบ.ตร. เขินอาจเป็นตัวจริง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 15.45 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งที่ 211/2552 

ตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นรักษารการแทนผบ.ตร. ให้มีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้นั้น ปรากฏว่า เมื่อผู้สื่อข่าวขึ้นไปพบพล.ต.อ.ปทีป ที่สำนักงานได้รับแจ้งจากนายตำรวจประจำสำนักงานว่า พล.ต.อ.ปทีปออกไปประชุมข้างนอก ไม่แน่ใจว่าจะกลับเข้ามาตร.หรือไม่ 

สำหรับการตั้งพล.ต.อ.ปทีป ขึ้นเป็นรรท.ผบ.ตร.ทำให้ปิดโอกาส พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. พี่เขยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรองผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ทันที

ขณะที่มีแหล่งข่าวเปิดเผย ว่า ในวงการตำรวจวิเคราะห์กันว่า ทันทีที่พล.ต.อ.ปทีป ขึ้นรรท.ผบ.ตร. จะมีการดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เพื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) จนไปถึงระดับผู้บังคับการ(ผบก.) ในวาระประจำปี โดยจะเป็นการวางตัวผู้บังคับบัญชาหน่วยตำรวจในสายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไว้วางใจได้ เพื่อรับมือการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ แต่ก็ต้องจับตาว่าก.ตร.กลุ่มที่คัดค้าน จนการแต่งตั้งนายพลตำรวจวาระประชุมมีเมื่อการประชุมก.ตร.ครั้งที่ผ่านมา ในวันที่ 21 กันยายนต้งยุติการแต่งตั้ง  ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นก.ตร.ที่มีสายสัมพันธ์  ใกล้ชิดกับพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร.คนใหม่ขึ้นเป็นผบ.ตร.มาโดยตลอดจะออกมาเคลื่อนไหวในก.ตร. อย่างไรหากพล.ต.อ.ปทีป ทำการแต่งตั้ง และการแต่งตั้งจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากภารกิจนี้เสร็จสิ้นจึงจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)เพื่อแต่งตั้งผบ.ตร.ตัวจริงอีกต่อไป

ทั้งนี้  พล.ต.อ.ปทีป นั้น เคยดำรงตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร.แทนพล.ต.อ.พัชรวาท  มาแล้วครั้งหนึ่ง

ในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่  28 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2551 รวมเวลา 23 วัน ก่อนพล.ต.อ.พัชรวาท จะกลับเป็นผบ.ตร.อีกครั้งในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างรัฐบาลของนายสมชาย มาเป็นรัฐบาลที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งครั้งนี้ วันที่ 29 กันยายน พล.ต.อ.ปทีปก็ขึ้นรรท.ผบ.ตร.อีกครั้ง มีผลวันที่ 1 ตุลาคม

ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ปทีป กลับมายังตร. ให้สัมภาษณ์ ว่า  ตนเพิ่งกลับมาถึงยังไม่เห็นคำสั่ง

จากนั้นผู้สื่อข่าวยื่นสำเนาใบคำสั่งให้ พล.ต.อ.ปทีป จึงกล่าวว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า  เพิ่งได้รับคำสั่ง คงยังตอบไม่ได้ว่าจะทำอะไรบ้างต้องรอวันที่ 1 ตุลาคม เสียก่อน ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ ส่วนแนวทางในการดำเนินการกับการแต่งตั้งระดับรองผบ.ตร.ลงไปที่ว่างลงจากการเกษียณ นั้น ตนจะหารือกับรองผบ.ตร.ทั้งหมดเสียก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไปในห้วงที่ยังไม่มีการแต่งตั้งโดยก.ตร. ว่า จะออกคำสั่งให้รรท.หรือให้เป็นไปตามอัตโนมัติ  ส่วนเรื่องการประชุมก.ตร.เพื่อแต่งตั้งก็ยังไม่ได้คิด อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ (30กันยายน) ตนจะไปร่วมงานของพล.ต.อ.พัชรวาท ที่จะมีการสวนสนามที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

เมื่อถามว่าการเป็นรรท.ผบ.ตร.เป็นสัญญาณว่าจะเป็นผบ.ตร.ตัวจริงหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า  ตนไม่รู้ ต้องแล้วแต่คนที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง

ตนบอกอะไรไม่ได้หรอก เพราะไม่ใช่คนแต่งตั้ง เมื่อถามว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขณะนี้แตกแยกหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ไม่มีหรอก   เมื่อถามว่าตำรวจเกียร์ว่างหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจใส่เกียร์สโลว์และกำลังพุ่งฉิวเลย

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแต่งตั้งรักษาการผบ.ตร.จะไม่เกิดปัญหาสูญญากาศในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) อย่างแน่นอน

และจะดูแลสตช.ให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมยืนยันการแต่งตั้งทำถูกต้องตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ เพราะได้หารือเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)แล้ว สำหรับการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีปขึ้นมารักษาการผบ.ตร.สืบเนื่องจากกระบวนการพิจารณาคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ยังไม่เสร็จสิ้น และพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร.ในขณะนี้จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน