ประธานวุฒิฯ หนุนทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ประสพสุข บุญเดช” หนุนให้ทำประชามติทั้ง 6 ประเด็น ก่อนจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม     นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่รัฐบาลเสนอแนวคิดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หรือการทำประชามติว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชน อย่างไรก็ตามการทำประชามติจะต้องมีกฎหมายก่อน ซึ่งวุฒิสภา จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ วันนี้ (28 ก.ย.) และเมื่อวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 141 บัญญัติว่า เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญแล้ว  ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ  เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ดังนั้น หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำประชามติจริง  ต้องรอไปอีก 1 เดือน กว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งคงไม่ช้าหากทุกฝ่ายจะทำงานคู่ขนานกันไป หากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าต้องทำประชามติ เพราะมีเงินมากก็ทำได้เมื่อถามว่ายังคงเห็นด้วยกับข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นหรือไม่ ประธานวุฒิสภา  กล่าวว่า ตนยังเห็นด้วยกับคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าข้อเสนอน่าจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ได้ แต่ตนขอย้ำว่าการดำเนินการอะไรประชาชนต้องมีส่วนร่วมและเห็นด้วย เพราะประชาชนมีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐธรรมนูญ เมื่อถามต่อว่าการทำประชามติควรทำก่อนหรือหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายประสพสุข กล่าวว่า ต้องทำก่อนร้อยเปอร์เซ็นต์ การทำประชาชามติควรทำพร้อมกันทั้ง 6 ประเด็น ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น หากเห็นด้วยให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดจึงยกร่างแก้ไขในประเด็นนั้นเมื่อถามต่อว่าเป็นห่วงร่างกฎหมายประชามติจะไม่ได้รับการยอมรับเพราะยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการแสดงความเห็นจากประชาชนมากพอ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนเชื่อว่าร่างกฎหมายได้รับการพิจารณาอย่างดีแล้วทั้งระยะเวลาก็เหมาะสม เชื่อว่าประชาชนและหน่วยงานในท้องที่สามารถเข้าใจกฎหมายได้ดีอยู่แล้ว