สุเทพยันกล้ายางเทียบคดียึดทรัพย์ไม่ได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลกินละเอียดนั้นตนไม่อยากตอบโต้ แต่ทำงานมากว่า 9 เดือนตนไม่เคยกินและไม่ได้เป็นอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวหา ซึ่งการสื่อสารมายังประเทศหลายครั้งในขณะนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นวิธีการต่อสู้ทุกกระบวนการและต่อสู้เป็นวิถีชีวิต       อย่างไรก็ตาม กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นำคดียึดทรัพย์มาเทียบเคียงกับคดีกล้ายางพร้อมกับเรียกร้องเงินกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท คืนนั้นเทียบเคียงกันไม่ได้ ขณะเดียวกันคดีดังกล่าวมีกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเทียบเท่ากับทั่วโลกอยู่แล้ว

นอกจากนี้ รักษาการนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะเดินทางกลับมาต่อสู้ที่ประเทศไทย ว่า ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาทันทีไม่ว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไปแต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย


อสส.ยันทักษิณอ้างคดีกล้ายางขอทรัพย์สินสินคืนไม่ได้

นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่า ไม่สามารถนำคดียึดทรัพย์ จำนวน กว่า 7 หมื่นล้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเทียบเคียงกับคดีกล้ายางได้ หลังครอบครัวชินวัตร ออกมาเรียกร้องขอคืนทรัพย์สินนั้น ไม่สามารถนำมาอ้างอิงกันได้ เพราะต้องขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน ไม่ใช่ตามกระแส และการสืบพยานของ 2 คดีนี้ ก็ต่างกันกัน นอกจากนี้ อัยการ ยังได้ท้วงติงสำนวนคดีหวยบนดินด้วยว่า ยังไม่สมบูรณ์ ไป 5 ข้อ แต่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ก็ได้ดึงเรื่องกลับไปแล้ว

ทั้งนี้ ยอมรับ เคยท้วงติง เรื่องความไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดีทุจริตกล้ายางพาราในหลายประเด็น หลัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ พิพากษายกฟ้อง 44 จำเลย รวมทั้ง นายเนวิน ชิดชอบ โดยยืนยันว่า การออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่ได้ตอกย้ำความผิดพลาดของ คตส. ที่ใจร้อนส่งฟ้องเอง แต่เราต้องการเห็นความร่วมมือในการทำงาน ทั้ง อัยการ และ คตส. เพื่อให้สำนวนออกมาสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะประเด็นที่สมควรจะฟ้องใครบ้างและไม่ฟ้องใคร พร้อมยืนยัน คนที่ถูกกดดันมากที่สุดในช่วงนั้น คือ อัยการ ไม่ใช่ คตส. เพราะถูกกล่าวหาว่า ประวิงเวลาจนตกเป็นจำเลยของสังคม แต่ควรจะหาหลักฐานเพิ่มเติมให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกมาท้วงติงในครั้งนี้ ก็เพื่อเห็นความร่วมมือกันทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดบูรณาการ เพราะที่ผ่านมา มักเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะตำรวจ กับ อัยการ