"พิชิต"เผย "หญิงอ้อ" ปฏิเสธส่งคืนที่ดินรัชดามูลค่า 772 ล้านบาท หลังกองทุนฯอ้างนิติกรรมเป็นโมฆะ ยันซื้อขายสุจริต ชี้กองทุนฯ ถูกการเมืองแทรกแซง ด้านรอง อสส. ระบุ กองทุนฯประสานเตรียมฟ้องแพ่งเรียกคืนที่ดินก่อนหมดอายุความ 21 ตุลาคมนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพิชิต กล่าวอีกว่า หากกองทุน ฯ จะนำเรื่องไปฟ้องคดีแพ่งโดยอ้างว่านิติกรรมเป็นโมฆะเพื่อบังคับคดีในการยึดคืนที่ดิน คุณหญิงพจมานก็พร้อมจะต่อสู้คดี ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตในการทำหนังสือของกองทุนฯ แจ้งยึดที่ดินคืนว่า ผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการ ( บอร์ด) กองทุน ฯ แล้วหรือไม่ และมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงครอบงำ สั่งการให้กองทุนทำหนังสือดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้หากกองทุนฯจะอ้างนิติกรรมเป็นโมฆะจริงแล้ว ตามหลักกฎหมายจะต้องถือว่าผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องกลับไปสู่ฐานะเดิมตามหลักกฎหมายของลาภที่มิควรได้คือกองทุนต้องคืนเงินซื้อขายที่ดินให้กับคุณหญิงพจมานก่อนที่จะให้ส่งคืนที่ดิน แต่การดำเนินการเรื่องนี้ของกองทุนฯ ยังมีข้อผิดปกติและสงสัยที่จะไม่เป็นธรรมต่อคุณหญิงว่าจะเรียกคืนที่ดินเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คืนเงินซื้อขายหรือไม่ นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ
ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายให้คุณหญิงพจมานและ รับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน มูลค่า 772 ล้านบาทเศษ กล่าวถึงกรณีที่ นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ส่งหนังสือถึง คุณหญิงพจมาน ทวงที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่คืน หลังสำนักงานอัยการสูงสุด ตีความว่าสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีหรือภรรยาไม่สามารถเป็นคู่สัญญากับรัฐได้ ว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือจากกองทุนฯ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา คุณหญิงพจมานได้ส่งหนังสือปฏิเสธการคืนที่ดินดังกล่าวให้กับกองทุนฟื้นฟูแล้ว ซึ่งการซื้อขายที่ดินยืนยันว่าคุณหญิงพจมาน ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กองทุนฯ จัดการประมูลทุกประการ โดยได้ชำระค่าธรรมเนียมซื้อที่ดิน 772 ล้านบาทเศษ และมีการจดทะเบียนนิติกรรม มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์เรียบร้อย
ส่วนที่กองทุน ฯ อ้างว่า หารือข้อกฎหมายกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดยอัยการให้นิติกรรมเป็นโมฆะนั้น
เนื้อหาคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีดังกล่าว ก็ไม่ได้ระบุว่า นิติกรรมเป็นโมฆะ รวมทั้งศาลไม่มีคำสั่งให้ยึดที่ดินและยึดเงินแต่อย่างใด และคำพิพากษาฟังได้ว่ากองทุน ฯ ผู้ขาย และคุณหญิงพจมาน ผู้ซื้อไม่มีความผิด โดยการจะมายึดที่คืนนั้นไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นเรื่องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา เพราะการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกพิพากษา เป็นเรื่องการตัดสินฝ่าฝืน พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 100 ในการเซ็นยินยอมคู่สมรสซื้อขายที่ดินขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้ง นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และในฐานะประธานกรรมการ(บอร์ด)กองทุนฯ โดยตำแหน่งเคยทำหนังสือถึง ป.ป.ช.รวมทั้งให้การว่า กองทุนไม่ใช่ผู้เสียหายและกองทุนมีอำนาจซื้อขายที่ดิน
กล่าวถึงกรณีที่อัยการได้รับการประสานให้ฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกที่ดินคืนจากคุณหญิงพจมานว่า ตนได้มอบหมายให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงานอัยการในคดีดังกล่าวรับผิดชอบดูรายละเอียดในเรื่องนี้ โดยการฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกคืนที่ดินนั้นจะเป็นการฟ้องในลักษณะว่าเป็นลาภที่มิควรได้ ซึ่งหากฟ้องแล้วคุณหญิงพจมาน ผู้ซื้อที่ดินยอมคืนที่ดินดังกล่าว กองทุนจะต้องคืนเงิน 772 ล้านบาทเศษ ซึ่งคดีแพ่งมีอายุความ 1 ปี และคดีนี้ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ต.ค.2551 ดังนั้นตนจึงได้เร่งให้นายเศกสรรค์ พิจารณาเรื่องนี้ให้ทันเวลา เบื้องต้นทราบว่ายังรอเอกสารจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องอยู่
หญิงอ้อปัดส่งคืนที่ดินรัชดา772ล้าน พิชิตหวั่นไม่คืนเงิน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง หญิงอ้อปัดส่งคืนที่ดินรัชดา772ล้าน พิชิตหวั่นไม่คืนเงิน