มาร์คย้ำอีกแก้รธน.เสร็จยุบสภาเลือกตั้ง

คมชัดลึก : “อภิสิทธิ์” ให้เวลา 1 สัปดาห์ ให้ทุกฝ่ายเคาะโต๊ะแก้รธน.แบบง่ายและเร็ว 2 แนวทาง คือตั้งส.ส.ร. สัดส่วนเท่าๆกันร้อยละ 25 หรือเดินหน้าแก้ 6 มาตราตามกรอบ” กก.สมานฉันท์ “ก่อนลงประชามติ ล็อคคอทุกพรรคต้อง"ยื่นร่างเดียว -ห้ามแนบแก้ไขเพิ่มเติม" และต้องทำประชามติ" ลั่นไม่คิดเป็นทรราชย์ แก้เสร็จพร้อมยุบสภาเลือกตั้งใหม่

(18ก.ย.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสุดท้ายของการประชุมร่วมรัฐสภาเป็นวันที่สอง

ในการพิจารณาผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรธน. นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ปฎิรูปการเมืองและศึกษาแก้ไขรธน.ได้ลุกขึ้นชี้แจงการดำเนินการที่ผ่านมาว่ายึดหลักสร้างความสมานฉันท์กับทุกฝ่ายแม้ว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ฯจะตั้งขึ้นในภาวะวิกฤตการเมือง และล่าสุดก็มีข้อสรุปจากการแสดงความเห็นของทุกฝ่ายซึ่งสามารถดูได้ในรายงานของคณะกรรมการฯเพื่อดำเนินการต่อไป

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยรัฐมนตรี กล่าวปิดการอภิปรายขอบคุณสมาชิกรัฐสภา

พร้อมระบุว่า ตลอดเวลาของการอภิปรายมีทั้งข้อเสนอแนะข้อคิดเห็นและมีคำถาม แต่ช่วงหนึ่งต้องพูดคือกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์  ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวพาดพิงเรื่องความไม่จงรักภักดี เพราะไม่ได้เข้าเฝ้าฯ ในพิธีติดยศนายทหารพลใหม่ 19 พฤษภา 2552 หรือกรณีอื่นๆ เช่น กรณีเหตุการณ์หน้ากระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนก็ได้ฟ้องร้องตามกระบวนการของศาลแล้ว ปรากฎว่าระหว่างนายกฯกำลังอภิปรายนายจตุพร ได้ประท้วงว่านายกฯตัดสินแทนศาล ทำให้นายอภิสิทธิ์โต้กลับว่างเพียงแต่บอกว่าหากกล่าวเท็จก็ไปว่ากันในศาล

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้อภิปรายต่อว่า เรื่องการแก้ไขรธน.ตนพูดมาตลอดว่า สมควรแก้ไขแต่ประเด็นที่จะแก้ไขมองต่างกัน

และบางประเด็นที่ถูกหยิบยกมาถูกตั้งคำถามว่าแก้เพื่อใคร ซึ่งตนบอกว่าทุกคนช่วยกันคิดหน่อย ทั้งเรื่องของเวลา หรือแนวทาง แต่จะให้รัฐบาลเริ่มทำเองก็อาจถูกครหาว่า ลำเอียงก็เลยต้องอาศัยระบบของสภาฯคณะกรรมสมานฉันท์ ตนขอยืนยันว่าไม่มีตรงไหนไปเปลี่ยนแปลงเบี่ยงเบนคำพูดที่ว่า ผมจะทำ ส่วนที่มีส.ส.ฝ่ายค้านบอกว่า ตนต้องเลือกระหว่างจะเป็นทรราชย์หรือวีรบุรุษ ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนพร้อมรับฟังทุกฝ่าย และให้ความสำคัญกับกระบวนการของรัฐสภามากที่สุดคนหนี่ง และไม่ได้เป็นทรราชย์ รวมทั้งไม่ใฝ่ฝันจะเป็นวีรบุรุษ

“ เรื่องนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปัจจัยหนึ่งคือพวกเราเห็นไม่ตรงกันและยังมีกลุ่มประชาชน กลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ต่างมองอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดี คือ เรื่องนี้ต้องคิดว่าผ่านมา 2 ปีทำไมยังแก้ไม่ได้ เพราะอาจกลายเป็นการสร้างปมความขัดแย้งขึ้นมาอีก ที่ผ่านมาผมก็ได้คุณดิเรกไปว่าต้องยึดหลัดคือ จะต้องไม่มีร่างแก้ไขเพิ่มเติมจากพรรคการเมืองใด และทุกพรรคจะต้องเข้าชื่อยื่นเป็นร่างเดียวกันยึดตามกรอบ 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่สำคัญจะต้องมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างชัดเจน

ส่วนที่บอกว่าผมจะตั้งส.ส.ร.เพื่อซื้อเวลา ไม่จริงแน่นอน

จึงเสนอผ่านสภาฯตรงนี้ว่า หลังจากนี้ 1 สัปดาห์ ในช่วงผมเดินทางไปต่างประเทศขอให้วิปฯทั้ง 3 ฝ่ายมาตกลงกันในแนวทางเดิม 6 ประเด็น หากฝ่ายค้านขัดข้องอยากให้สภาฯเป็นเจ้าภาพก็ยินดี แต่ขอเสนอ 2 แนวทางว่า หากต้องการเอาแบบเร็ว ก็คือ มาคุยกันตกลงสัดส่วนองค์ประกอบของส.ส.ร.อย่างละร้อยละ 25 ของแต่ละฝ่าย หรือยกร่างแก้ไขฯเลย 6 ประเด็นทันที โดยแต่ละประเด็นจะต้องลงประชามติรับหรือไม่รับแต่ละร่างด้วย เพื่อให้ตอบคำถามสังคมได้โดยยึดหลักอิงคณะกรรมการสมานฉันท์ และให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ง่ายที่สุด

และสุดท้ายเมื่อแก้เสร็จบอกว่า ต้องไปเริ่มเลือกตั้งใหม่ ผมก็ยินดี ระยะเวลาก็คงเป็นเดือนตามระยะเวลา และกระบวนการของส.ส.ร.

ซึ่งหลังจากตนกลับมาจากต่างประเทศหากรับข้อเสนอนี้ก็เดินหน้า รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ หากไม่รับก็ต้องพึ่งท่านประธานสภาฯ “นายกรัฐมนตรีกล่าว จากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 24.00 น.ทันที โดยไม่สนใจฟังเสียงของส.ส.ฝ่ายค้านที่จะลุกขึ้นขออภิปราย