ข้อหามุ่งฆ่าทักษิณ

ตำรวจตั้งข้อหาฉกรรจ์แก๊งคาร์บอมบ์


มีทั้งซ่องโจรและเจตนามุ่งสังหารนายกฯ ออกหนังสือเชิญ 4 ทหาร ไล่ตั้งแต่ยศระดับ จ่า จนถึงระดับ พลตรี มาสอบปากคำ ขณะที่ พันโทมนัส เข้ามอบตัว ยันขอให้การในชั้นศาล ส่วน พลตรีไพโรจน์ ยืนกรานไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ย้ำไม่เคยคิดหลบหนีไปไหน ด้าน ร้อยโทธวัชชัย ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พลเอกพัลลภ ลั่นไม่เคยนึกหวั่น ชี้ความจริงคือความจริง

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ก.ย.49


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ นายทหารช่วยราชการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ผู้ต้องหามีวัตถุระเบิด ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตว่า พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก.,พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รองผบช.ก.,พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดย พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนนอกจากได้พยานวัตถุในคดีนี้เข้ามาหลายอย่างแล้ว ทางคณะพนักงานสอบสวนก็ยังได้เร่งรัดทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่มีวันหยุด เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป โดยการรวบรวบพยานบุคคล พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ สามารถที่จะทำหนังสือถึงข้าราชการทหารที่เกี่ยวข้องกับคดีอีก 4 นาย โดยจะนัดให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 7 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น.ในข้อหามีการร่วมกระทำผิดกับ ร.ท.ธวัชชัย โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน กับพวกโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน จะทำหนังสือถึงต้นสังกัดเพื่อให้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 มาดำเนินคดีต่อไป


ผู้สื่อข่าวถามว่า


เมื่อมีการเชิญตัวทหารทั้ง 4 นายแล้วจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ ร.ท.ธวัชชัย ด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมด้วยอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในที่นี้หมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯใช่หรือไม่ พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่าเป็นอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าผู้ร่วมขบวนการครั้งนี้ทำกันมาหลายวัน และจุดที่มีความเคลื่อนไหวเป็นเส้นทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และชุดรักษาความปลอดภัยต้องเดินทางผ่านทุกครั้ง เจ้าพนักงานก็หมายถึงนายกฯกับพวก

การออกหมายเรียกทหารทั้ง 4 นาย


ได้ประชุมคณะทำงานแล้ว ซึ่งในฐานะที่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดยังรับราชการทหารอยู่ ตามระเบียบจึงต้องทำหนังสือถึงต้นสังกัด แต่ถ้าเชิญตัวแล้วไม่มาพนักงานสอบสวน จึงจะขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป พล.ต.ท.มนตรี กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อัศวิน กล่าวว่า ขณะนี้ต้องทำตามขั้นตอนคือทำหนังสือถึงต้นสังกัดให้ส่งตัวทหารทั้งหมดมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ นายทหารช่วยราชการสังกัด กอ.รมน.จะเข้าพบพนักงานสอบสวน โดย พล.ต.ต.จักรทิพย์ชัยจินดา ผบก.ตม.ทอช.เดินทางไปรับตัวที่ จ.ลพบุรี

ด้าน พล.ต.ต.เจตน์ ได้กล่าวอีกว่า


พยาน หลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมไว้แล้วนั้นไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้แต่มั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนกรณีการเชิญตัวนั้นเป็นไปตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ทหารถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดคดีอาญา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากพยาน หลักฐาน


ที่มีในขณะนี้สามารถจะเชื่อมโยงไปถึงผู้ที่บงการรายอื่นได้อีกหรือไม่ พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวว่า ในชั้นนี้มีเพียงเท่านี้ ยังไม่ถึงผู้ต้องหารายอื่นๆ ส่วนเรื่อง ร.ท.ธวัชชัย จะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ก็คงจะนำไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป โดยจะต้องขอรับตัวกลับมาที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับทหารทั้ง 4 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ไพโรจน์ ธีรภาพ พ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ และ จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ ทั้งหมดเป็นนายทหารช่วยราชการที่ กอ.รมน.

ต่อมาเมื่อเวลา 13.20 น.วันเดียวกัน


พนักงานสอบสวนได้มาเบิกตัว ร.ท.ธวัชชัยไปทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีนายนิธิกร นนทสวัสดิ์ นายสิริชัย ภักดี และนายประภาสคงเมือง ทนายความของ ร.ท.ธวัชชัย เดินทางเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย

จากนั้นพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตม.ทอช.พร้อมด้วยกำลังอีกจำนวนหนึ่งได้นำตัว พ.ท.มนัส ผู้ต้องสงสัยมารับทราบข้อกล่าวหาคดี ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและมีวัตถุระเบิด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากจ.ลพบุรี โดยพ.ท.มนัส ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ จึงนำ พ.ท.มนัสไปสอบสวนทันที

ต่อมาเวลา 17.45 น.นายนิธิกร


เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำ ร.ท.ธวัชชัยว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม 5 ข้อหาคือร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน,ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง,ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้โดยไม่ได้รับอนญาตและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมและซ่องโจร ซึ่งร.ท.ธวัชชัยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัว ร.ท.ธวัชชัยไปผลัดฟ้องในวันที่ 5 ก.ย.นี้ และขออำนาจศาลฝากขังอีก 12 วัน ซึ่งอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่าจะให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ใด เนื่องจากร.ท.ธวัชชัย ได้ร้องคัดค้านการควบคุมที่กองปราบปราม แต่ถ้าคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารก็น่าจะควบคุมตัวที่เรือนจำทหาร จ.นครปฐม

ทางด้าน พล.ต.ไพโรจน์ ธีระภาพ


ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนออกหมายเชิญตัวว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับคดีคาร์บอมบ์ว่า ตนเป็นนายทหารในสังกัดของกองทัพบกไม่ได้หนีไปไหนและไม่เคยคิดหนี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

ส่วน พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก


กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหนังสือเชิญตัว พ.อ.สุรพลและ จ.ส.ต.ชาคริต เพื่อไปให้ปากคำต่อเจ้าพนักงานสอบสวน ส่วนขั้นตอนต่อไปทางต้นสังกัด คือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะแจ้งไปยังทหารทั้ง 2 นาย เพื่อรับทราบและไปตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเตรียมจัดส่งนายทหารพระธรรมนูญจากกรมพระธรรมนูญไปร่วมฟังการสอบสวนด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำสั่งพักราชการนายทหารทั้ง 2 นาย เนื่องจากยังไม่ได้ถูกกล่าวหา

ขณะเดียวกัน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.


กล่าวถึงกรณีที่ ตำรวจกองปราบปราม บุกตรวจค้นบ้านพักของพ.ท.มนัส สุขประเสริฐ ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพบรูปถ่ายของ พ.ท.มนัส ถ่ายคู่กับพล.อ.พัลลภ ว่า เรื่องรูปถ่ายคู่กัน ถ้าจะมีคงมีเป็นหมื่นรูป เพราะถ้ามีการติดยศ เขาก็จะถ่ายคู่กับตนทั้งนั้น ถ้าเอาเรื่องแค่นี้มาเป็นหลักฐานก็ไม่เป็นไรและไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแล้ว

ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับคดี


เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว ความจริงก็คือความจริง ซึ่งในวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ผมก็มาออกรอบเล่นกอล์ฟที่สนามกองทัพบก ไม่ได้มีความเครียด หรือวิตกกังวลแต่อย่างใด พล.อ.พัลลภ กล่าว



ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่มีการเตรียมออกหมายเรียก 4 นายทหารต้องสงสัยว่า พรรคขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ สืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนว่าผู้ที่ได้ออกหมายเรียกมาสอบสวนนั้น มีส่วนพัวพันจริงหรือไม่และฝากไปถึงคนในรัฐบาลว่าไม่ควรมีใบสั่งใดๆ ไปกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท. ทักษิณ การดำเนินการทุกอย่างต้องยึดหลักของกฎหมาย มากกว่าข้อมูลที่ปั้นแต่งขึ้นมา

แห่ลงที่มา สยามรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์