------------------------
หมายเหตุ : คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 มีมติเห็นชอบให้ประกาศประกาศเรื่อง"พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร" ในท้องที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2552 โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 "มติชน" ขอนำรายละเอียดประกาศและข้อกำหนดข้างเคียงอีก 2 ฉบับ ซึ่งให้อำนาจหน้าที่พิเศษแก่เจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมสถานการณ์การชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงมานำเสนอ
-------------------------
ประกาศ เรื่อง "การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย"
ตามที่ได้ประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน พ.ศ.2552 และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 และมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 มาตรา 41 มาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้
โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2552
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมีอำนาจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติสั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟูหรือช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ที่มีการประกาศพื้นที่ และห้วงเวลา ปรากฏเหตุการณ์ อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ดังต่อไปนี้
1.พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551
2.พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547
3.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522
4.พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530
5.พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550
6.พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493
7.พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
8.พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522
9.พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535
10.พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490
11.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม
12.ประมวลกฎหมายอาญา
13.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติเกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
ทั้งนี้ ให้รวมถึงกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวข้างต้นด้วยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ให้มีอำนาจดำเนินการโดยให้ถือเสมือนเป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้น โดยการใช้กฎหมายดังกล่าวให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ในการนี้ การดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว มิได้เป็นการทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้รับผิดชอบเดิมหมดไป ซึ่งยังครอบคลุมหน้าที่ตามปกติ
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2552 ออกข้อกำหนด ดังนี้
1.ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน. และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ มีคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามแผนการดำเนินการ เพื่อป้องกันปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
2.ห้ามบุคคลใดเข้าหรือออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน. และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่มีประกาศของบุคคลดังกล่าวว่าเป็นบุคคลที่ได้รับยกเว้น
3.ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
4.ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการประกาศกำหนด
5.ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ในการนี้ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ จะกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุได้