เนวินตัดสัญญาณตัวใครตัวมัน รีบแจงแค่พูดเล่น

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกสำนักนายกรฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรคภูมิใจไทย
กล่าววันนี้ (16 ก.ย.) ถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยออกมาพูดเป็นนัยถึงการเลือก ผบ.ตร.โดยระบุว่า ตัวใคร ตัวมันว่า เรื่องนี้เมื่อนายเนวินได้ฟังข่าวแล้ว เห็นว่าทิศทางของข่าวจะเป็นไปในลักษณะทีเล่นทีจริง ทั้งนี้นายเนวินมอบให้ตนมาชี้แจงว่า เป็นการพูดหยอกล้อ พูดเล่น ๆ กับสื่อที่พรรคภูมิใจไทย สิ่งที่นายเนวินพูดความหมายก็คือ การเลือกผบ.ตร.โดย ก.ต.ช.เป็นการทำหน้าที่ของ ก.ต.ช.ในการที่จะเลือกผบ.ตร. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็มีหัวหน้าพรรคไปในฐานะ รมว.มหาดไทยที่จะต้องไปดำเนินการเลือก ไม่ว่าผลการเลือกหรือแต่งตั้ง ผบ.ตร.ออกมาจะเป็นใคร ความหมายก็คือ เมื่อเลือกเสร็จทุกอย่างก็จบ เลือกจบก็จบ ภท.ร่วมรัฐบาลต่อ

“ส่วนคำว่า ตัวใคร ตัวมัน ก็คือ หลังจากรมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นกรรมการ ก.ต.ช.เมื่อเลือกจบแล้ว ก็กลับไปทำหน้าที่ รมว.มหาดไทยที่ตัวเองรับผิดชอบต่อไป รวมถึงกรรมการคนอื่น ๆ ก็กลับไปทำหน้าที่ของท่านต่อไป เรื่องนี้ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวว่า เลือก ผบ.ตร.แล้ว เป็นเรื่องที่เป็นความแตกหัก ไม่มี หลังจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังร่วมรัฐบาลกันอยู่ต่อไป พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ยึดติดว่า การเลือก ผบ.ตร.จะเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่ เป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งที่ต้องไปทำ เมื่อเสร็จภารกิจก็เป็นเรื่องภารกิจอื่นที่ต้องทำงานอื่นต่อไป” นายศุภชัย กล่าว

เมื่อถามว่า แต่ก่อนหน้านี้มีสัญญาณออกมาว่าอยากจะได้พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร.เป็นผบ.ตร.นายศุภชัย กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะเรียนสื่อมวลชนก็คือ

เมื่อวานนี้มีการสรรหา ก.ต.ช.คนใหม่ ก็ไม่ได้มีสัญญาพิเศษแจ้งมาจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี หรือนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าจะเป็นอย่างอื่น รมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็เลือกไปอย่างที่ท่านคิดว่าท่านต้องเลือก ถึงวันนี้การที่จะต้องเลือกผบ.ตร.ก็ไม่ได้มีปัญหาพิเศษ ท่านก็ดำเนินการไป ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่ได้เป็นปัญหาว่าจะต้องเป็นแบบตัวใคร ตัวมัน ไม่มี

และเมื่อถามย้ำว่า มีสัญญาณอย่างอื่นเข้ามาหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณอะไร

นายชวรัตน์ ก็ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นบอร์ดกรรมการ ก.ต.ช.ก็ทำไปตามกติกา ข้อตกลงที่เคยมีมากันในฐานะพรรคร่วมว่า มีผู้ประสานงานในช่องทางไหนที่ประสานมาก็ทำตามเป็นเรื่องปกติ ตัวใคร ตัวมัน ไม่ได้หมายความว่า การเลือก ก.ต.ช.เป็นประเด็นหลักที่มีผลกระทบกับการอยู่ร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำ เมื่อเสร็จก็จบ ไม่ว่าจะต้องโหวตเลือกใคร และจะเป็นใครก็ตามทุกอย่างก็จบ