ชาติไทยวอนวุฒิสภาอย่าบล็อกโหวต

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย


กล่าวถึงกระบวนการสรรหา กกต.ว่า พรรคชาติไทยอยากเห็นกระบวนการสรรหา กกต.เป็นไปอย่างอิสระ เพราะข่าวที่ออกมาทุกวันนี้ ระบุว่ามีการบล็อกโหวต ไม่อยากเห็นปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะมันจะถ่างความแตกแยกออกไปอีก กกต.ชุดใหม่ถือเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของการแก้วิกฤตการเมืองอย่างแท้จริง เพราะ กกต.ชุดใหม่จะต้องมาทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งประเทศ ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาบ้านเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ แต่เป็นการเลือกตั้งเพื่อเข้ามาปฏิรูปการเมือง เพื่อนำไปสู่การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาลเข้มแข็ง ตนอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำรัฐบาล กรุณาอย่าเข้ามาแทรกแซงหรือกำหนดวันเลือกตั้ง ว่าจะต้องเป็นวันนั้นวันนี้ อยากให้ทุกอย่างเป็นอิสระ ให้อยู่ภายใต้การพิจารณาของ กกต.ชุดใหม่ ไม่อยากเห็นการชี้นำเกิดขึ้น และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับ เพราะไม่อยากเห็น กกต.ถูกแทรกแซงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ตีปี๊บปฏิรูปเชิญทุกพรรคลงสัตยาบัน


นายสมศักดิ์กล่าวว่า พรรคชาติไทยได้กำหนดทิศทางที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง โดยในวันปฐมนิเทศของพรรคชาติไทย เราจะประกาศให้สังคมรู้ว่าจะใช้สโลแกน ปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่นำสังคมไทยสู่คุณธรรม เราต้องการจะตอกย้ำให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมือง เพราะพรรคชาติไทยเห็นความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง มีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเมือง

พรรคชาติไทยขอเชิญชวนทุกพรรคการเมืองหลังมี


กกต.แล้ว มาร่วมลงสัตยาบันก่อนวันสมัครรับเลือกตั้ง เราอยากเห็นทุกพรรคการเมืองมาจับมือกัน ประกาศสัตยาบัน เพื่อเป็นสัญญาประชาคมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ เพราะทุกพรรคจะต้องร่วมมือร่วมใจในการผลักดันปฏิรูปการเมือง ให้สำเร็จภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน เพราะการปฏิรูปการเมืองทำเพียงพรรคเดียวให้สำเร็จเป็นไปไม่ได้ ทุกพรรคต้องร่วมมือกัน รวมทั้งวุฒิสมาชิกด้วย นายสมศักดิ์กล่าว

หันหน้าหากันไม่เกี่ยวรัฐบาลฝ่ายค้าน


เมื่อถามว่า ในการลงสัตยาบันจะเพิ่มความขัดแย้งหรือไม่ เพราะในอดีตก็เคยได้มีการเสนอแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่ ถ้าทุกฝ่ายของการเมืองหันหน้าเข้าหากัน มาร่วมกันให้สัญญาต่อประชาคมในการกำหนดบทบาทหน้าที่ทางการเมือง รัฐสภามีบทบาทในการแก้ และถ้าทุกฝ่ายหัวหน้าเข้าหากัน ก็จะสำเร็จ ก็จะเชิญ ส.ว.เข้ามาร่วมด้วย เป็นแนวทางที่ชัดเจนของพรรค ดังนั้น หากพรรคไหนจะต้องการปฏิรูปการเมือง ก็ให้มาร่วมกันลงสัตยาบันร่วมกัน แต่ทั้งนี้พรรคชาติไทยก็ไม่ได้เป็นผู้ถือธงนำ เพราะเราเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอ เราไม่ใช่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ แต่เราต้องการแก้วิกฤตการเมืองขณะนี้ แต่ถ้าเราไม่เริ่มก็จะไม่มีใครเริ่ม ดังนั้น พรรคชาติไทยขอขันอาสา อย่างไรก็ตาม ทางพรรคชาติไทยก็จะไปคุยกับพรรคร่วมอีก 3 พรรคอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีการพูดคุยกันบ้างแล้วนอกรอบ

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทย


กล่าวว่า เมื่อทุกพรรคจะประกาศปฏิรูปการเมืองเหมือนกันระยะเวลาการปฏิรูปก็ประกาศไว้ใกล้ๆกัน แม้รายละเอียดจะต่างกันบ้าง ก็ควรมารวมกันเพื่อให้ประชาชนทราบสาระหลัก ในการเข้าไปปฏิรูปการเมืองและกำหนดระยะเวลาให้ชัด เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ส่วนรายละเอียดใครจะไปแก้ในมาตราไหน ก็ไปว่ากันของแต่ละพรรค

นายกฯเข้าจุดอับในการบริหารประเทศ


นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า พรรคชาติไทยมีความเป็นห่วงในตัว พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้กำลังเดินไปสู่หลักว่าบริหารประเทศได้แต่ปกครองไม่ได้ และกำลังจะไปถึงจุดอับว่าบริหารประเทศไม่ได้ ปกครองประเทศก็ไม่ได้ นายกฯเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ถือเป็นอันตรายต่อประเทศและประชาชนมาก วันนี้จะเห็นว่าการแพร่ขยายตัวของกลุ่มที่ไม่ยอมรับในตัวนายกฯไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดวงแคบ แต่ได้แพร่ขยายไปทุกวงการ และล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. กลุ่มนักวิชาการจากสถาบันทางการศึกษาที่มีชื่อเสียงได้เข้าชื่อกันจำนวนมาก ขอให้นายกฯถอยออกจากทางการเมืองหรือเว้นวรรค จึงขอให้นายกฯได้นำเรื่องเหล่านี้มาพิจารณา อย่าเห็นเสียงเหล่านี้ว่าเป็นเสียงของเจ้าประจำหรือขาเก่า หรือขาเดิมที่จ้องโค่นล้มรัฐบาล แต่อยากให้มองด้วยสายตาบริสุทธิ์ว่ากลุ่มนักวิชาการเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มพันธมิตร แต่เป็นนักวิชาการที่ทำหน้าที่อย่างสงบเสงี่ยมมาโดยตลอด

ขอให้นายกฯตระหนักว่านี่คือเสียงสวรรค์ อย่าเห็นว่าเสียงเหล่านี้เป็นเสียงเงียบ นำสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจปรับวิถีชีวิตของตนเองและวิถีชีวิตของประเทศอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าว


แย่งกันเสนอนโยบายลดแลกแจกแถม


นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองกำลังแก่งแย่งกันออกนโยบาย สร้างความแออัดให้แก่คน กทม. คือการสร้างสาธารณูปโภคแบบลดแลกแจกแถม เพื่อหวังผลให้คน กทม.เพียง 6 ล้านคน ตนเห็นว่าคน 6 ล้านนั้นเป็นคนส่วนน้อย แล้วคนส่วนใหญ่ในชนบทจะคิดอย่างไร ที่เอางบประมาณ 2 แสนล้านบาท มาระดมกระจุกให้คนกลุ่มหนึ่ง ทำไมไม่เอามากระจายให้ความเจริญไปสู่ภูมิภาคเป็นหัวใจสำคัญ ทำไมกระจุกเฉพาะคนใน กทม. การดำเนินการเหล่านี้ไม่ยุติธรรม เพราะเป็นการนำภาษีอากรของคนทั้งประเทศมาสนับสนุนคนกลุ่มเดียวเท่านั้น

ผมคิดว่าต้องกระจายโดยสร้างเมืองหลักในแต่ละภาค เหมือนอย่างอเมริกา เป็นการลดความแออัด ทำให้แต่ละเมืองมีความสำคัญ และกระจายความเจริญไปสู่เมืองต่างๆด้วย เป็นการปกครองที่เป็นธรรมที่เงินกระจายไปสู่ภูมิภาค พรรคจึงขอประกาศนโยบายทั้งภาคเมือง 5 ข้อ และภาคชนบท 8 ข้อ โดยภาคเมืองจะมีการปฏิรูปการเมือง ส่วนภาคชนบทพรรคจะเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้แถลงเอง นายสมศักดิ์กล่าว

เรียกร้อง กกต.ชุดใหม่ควบคุมนโยบาย


เมื่อถามว่า ขณะนี้ไม่มี กกต. แต่พรรคการเมืองก็ได้มีการออกนโยบายในการลดแลกแจกแถม ทางพรรคชาติไทยจะเก็บข้อมูลไว้ให้ กกต.ชุดใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า จะไม่เก็บ เพราะทุกพรรคก็ได้มีการประกาศกันอย่างโจ่งแจ้ง ดังนั้น เห็นว่าน่าจะให้ กกต.ใหม่เป็นผู้พิจารณา อย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎระเบียบ ในการดำเนินการว่าอะไรสามารถทำได้หรือไม่ได้ อาจจะแตกต่างไปจาก กกต.ชุดที่ผ่านมา ที่เห็นว่าการประกาศนโยบายแบบนี้ทำได้

นายนิกรกล่าวว่า พรรคชาติไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการวิชาการและการเมือง โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นประธานกรรมการ ตน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์และนายเกษม สรศักดิ์เกษม เป็นกรรมการ ทั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นและการเสวนา อันเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง ทั้งด้านวิชาการ ด้านเมือง เศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งชี้แจงแนวนโยบายของพรรค

พรรคมหาชนยินดีร่วมลงสัตยาบัน


พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังอ้างมีประชาชน 16 ล้านเสียงสนับสนุนว่า ภาวการณ์อย่างนี้จะอ้างไม่ได้แล้วถึงเวลาที่ต้องทบทวนความคิดและความต้องการของประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณต้องฟังเสียงคนส่วนใหญ่ว่าอย่างไร เคยพูดว่ารัฐบาลอยู่ไม่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับคนเมือง

ผู้สื่อข่าวถามกรณีพรรคชาติไทยเสนอให้พรรค การเมืองและ ส.ว.ชุดใหม่ลงสัตยาบัน ภายหลังการกล่าวคำปฏิญาณตนเข้าทำหน้าที่ พล.ต.สนั่นตอบว่า พรรคมหาชนพร้อมให้ความร่วมมือ ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทยและมหาชน เคยเชิญให้พรรคไทยรักไทยมาลงสัตยาบันเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 49 แต่พรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มา ทั้งนี้ หากมีการลงสัตยาบันกันอีก ทุกอย่างต้องไม่มีเงื่อนไข และการลงสัตยาบันหมายความว่า หลังเลือกตั้งต้องปฏิรูปการเมืองทันที ถ้ามีเงื่อนไขก็ไม่สามารถเจรจาได้ ส่วนกรอบเวลาในการปฏิรูปการเมืองเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เวลาที่เหมาะสมคือ 1-1 ปีครึ่ง และต้องทำประชาพิจารณ์ด้วยว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขประเด็นใด

แห่งที่มา ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์