"อดิศราช"ยันเป็นผอ.ศูนย์เลือกตั้งสุราษฏร์ฯตัวจริง ไม่ได้สั่งทำสื่อหาเสียงพลการ ปัดดิสเครดิตเพื่อไทย อัด"พร้อมพงศ์"กลับ"ปลิ้นปล้อนอย่างแรง" ข้องใจก่อนหน้านี้กระซิบเรื่องเงินไร้ปัญหาน้อง"แม้ว"จัดการ "เมธี"อ้าง"สมชาย"ชวนสมัครส.ส. ขอลงเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายบ้านเกิด นายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดงและสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ว่า ได้รับการชักชวนจากผู้ใหญ่ พท.หลายคนให้ลงสมัคร ส.ส. รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้แจ้งความจำนงกับ พท.ไปแล้วว่าต้องการลงสมัคร ส.ส.ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพราะบ้านเกิดอยู่บริเวณนั้น
"เหตุการณ์ที่ผมทำร้ายร่างกายนายอดิศราชไม่น่าจะเป็นอุปสรรคกับการก้าวสู่เส้นทางทางการเมืองของผมเพราะในด้านกฎหมาย โทษจากการกระทำก็เป็นเพียงลหุโทษ ซึ่งไม่เป็นปัญหากับการทำงานการเมือง ส่วนในเชิงของสังคมนั้นอาจจะมีบางส่วนสะใจ และคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง" นายเมธีกล่าว
ด้านนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการ (ผอ.) ศูนย์เลือกตั้งเขต 1 สุราษฎร์ธานี ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท.
ที่ระบุนายอดิศราชไม่ใช่ ผอ.ศูนย์เลือกตั้ง และจำนวนเงินที่ติดค้างค่าอุปกรณ์ สื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งก็เป็นเงินแค่ 2 แสนบาท ไม่ใช่ 7 แสนบาท ตามที่นายอดิศราชบุกทวงถาม กระทั่งถูกนายเมธี ทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าที่ทำการพรรคว่า ขอยืนยันว่านายสมพล วิชัยดิษฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 พท.น้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พท.ได้มาขอร้องแทบจะกราบไหว้วานให้ช่วยดำรงทำหน้าที่นี้ให้ โดยบอกว่าไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เพียงสมุหบัญชีเพียงตำแหน่งเดียวก็พอ โดย ผอ.กกต.สุราษฎร์ฯพร้อมที่จะยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
เมธีพร้อมสู้ศึกการเมือง ขอเพื่อไทยลงส.ส.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ระบุว่า พรรคไม่รู้เห็นการสั่งผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ และหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการสั่งการผลิตของนายอดิศราชเอง นั้นนายอดิศราชกล่าวว่า
ยืนยันได้ว่า น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค เดินทางลงไปสั่งการด้วยตัวเอง และมีหลักฐานยืนยันชัดเจนในการสั่งผลิตสื่อโฆษณาของ พท. โดยเป็นเอกสารเขียนด้วยลายมือของ ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พท.ซึ่งได้ร่วมเดินทางไปช่วยหาเสียงด้วย
"ก่อนหน้านี้มีการสั่งการให้ผมจัดศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ธานีให้ดี เพราะนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะเดินทางลงพื้นที่ ทั้งที่ตอนนั้นไม่มีการโอนเงินมาสักบาท พวกผมก็ทำให้จนเสร็จภายใน 3 วัน ส่วนเรื่องอื่นนั้นนายสมพลได้สั่งผมว่าให้จัดการได้เลยเพราะจะสู้เต็มที่" นายอดิศราชกล่าว
นายอดิศราชกล่าวว่า การบุกทวงเงินไม่ได้ดิสเครดิตพรรคตามที่นายพร้อมพงศ์ กล่าวหา เพราะถ้าไม่รักพรรคคงจะไม่ช่วยนายสมพล
ซึ่งบ้านตนทั้งบ้านดูพีเพิลชาแนล รวมถึงบางครั้งได้เดินทางมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯด้วย แล้วจะไปดิสเครดิตพรรคทำไม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรค เพราะหลายฝ่ายในพรรคไม่รู้เรื่องด้วย ประเด็นจึงอยู่ที่ตัวบุคคลเท่านั้น เมื่อเจ้าหนี้มาทวงถามเงินที่ค้างชำระอยู่ ก็เป็นหน้าที่ของ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งต้องรับผิดชอบ ซึ่งขอยืนยันว่าที่นายพร้อมพงศ์ระบุว่าแกนนำพรรคได้นัดหมายให้ไปพบเพื่อเคลียร์บัญชีก่อนที่จะเกิดเรื่องนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะหากตนและเจ้าหนี้ได้รับการมอบหมายจริงๆ คงไม่ต้องเดินทางขึ้นมาเช่นนี้ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนหน้านี้นายพร้อมพงศ์ได้ระบุกับพวกตนว่าเรื่องเงินไม่มีปัญหาเพราะนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ให้งบประมาณมา 5 แสนบาท แต่ปรากฏว่าพวกตนไม่ได้เห็นเงินเลย
นายอดิศราชกล่าวหานายพร้อมพงศ์ด้วยว่า "นายพร้อมพงศ์เป็นคนปลิ้นปล้อนอย่างแรง และจนถึงวันนี้ผมยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยให้ไปรับเงินเลย แต่ได้พูดคุยกับนายยงยุทธ ซึ่งนายยงยุทธก็บอกว่าไม่ทราบเรื่อง แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่สบายใจและไม่อยากกลับไปสุราษฎร์ธานีเพราะทนอายไม่ไหว เรื่องนี้ผมได้รับการติดต่อจากสื่อมวลชนท้องถิ่นและชาวสุราษฎร์ธานีเป็นจำนวนมากว่าให้ผมดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด" นายอดิศราชกล่าว
นายอดิศราชกล่าวว่า หลังจากถูกนายเมธีชกต่อย นอกจากแผลที่ศีรษะแล้วขณะนี้แผลฟกช้ำได้เกิดขึ้นตามตัวจำนวนมาก รวมถึงเกิดอาการหูอื้อ ซึ่งเรื่องนี้ตนและคณะได้เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความเพื่อให้ช่วยดำเนินการแล้ว