สุเทพ เสนอความเห็นให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาออก

ทำเนียบฯ 10 ก.ย.- รองนายกรัฐมนตรี ทำบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี เห็นควรให้ “พล.ต.อ.พัชรวาท”ลาออก ระบุขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะให้ลาออกหรือไม่ หากไม่เซ็นอนุมัติ ต้องกลับมาทำงานที่ทำเนียบฯ

นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แล้ว ตั้งแต่วานนี้ (9 ก.ย.)

ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้บันทึกความเห็นสมควรให้ลาออก และส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องปกติเมื่อมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี  แต่ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาออก ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาอย่างไร อยู่ที่ดุลพินิจ เรื่องดังกล่าวไม่กระทบข้อ

กฎหมาย เพราะการเอาผิดทางวินัย หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ยังคงมีผลต่อไป และการที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการ

เพราะเกรงว่าหากยังคงทำหน้าที่ต่อไป จะเกิดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย และฟ้องร้องภายหลังได้ จึงย้ายให้มาช่วยราชการ  ซึ่งวิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม หากนายกรัฐมนตรี ไม่เซ็นให้ลาออก พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ต้องกลับมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล

ต่อข้อถามว่าเหตุผลที่เห็นชอบให้ลาออกเพราะอะไร เพราะก่อนหน้านี้สนับสนุนการทำงานของ พล.ต.อ.พัชรวาทมาตลอด

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายคนมักกล่าวหาว่าตนอุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท ทั้งที่ความจริงที่ผ่านมาสนับสนุนข้าราชการทุกคน และต้องเคารพความเป็นมืออาชีพของแต่ละฝ่าย การเป็นนักการเมืองอาชีพ ต้องให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ไม่เอาความชอบไม่ชอบส่วนตัวมาพัวพันการทำงาน

“กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท จะลาออกด้วยเหตุผลอะไร เขาไม่ได้มาบอกผม ผมไม่มีความผูกพันอะไรกับเขาเป็นพิเศษ แต่ตลอดเวลาที่เป็น ผบ.ตร.ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านก็ทำหน้าที่เป็นอย่างดี แม้วันนี้สังคมจะเห็นว่าเป็นอย่างไรก็ตาม ผมยืนยันว่าท่านเป็นคนดีในสายตาผม เป็นตำรวจที่ดีคนหนึ่งเท่าที่ผมรู้จัก ผมจะพูดอย่างนี้ต่อไป จนกระทั่งมีหลักฐานชัดเจนว่าท่านไปทำอะไรที่ไม่ดี ก็สามารถพูดใหม่ได้” นายสุเทพ กล่าว และว่า พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจกับ พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะไม่มีปัญหาอะไรกัน การน้อยใจถือเป็นเรื่องปกติของคนเป็นข้าราชการ แต่ตำรวจต้องอดทน น้อยใจไม่ได้

ต่อข้อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ พล.ต.อ.พัชรวาท สอดคล้องกับสิ่งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พูดไว้ทุกอย่าง

นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ฟังที่นายสนธิพูด  แต่นายกรัฐมนตรี บอกกับตนว่าได้ตัดสินใจเอง ไม่มีใครมามีอิทธิพล และการตั้ง พล.ต.อ.ธานี  สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. มาปฎิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ไม่ใช่เพราะเป็นเพื่อนของนายสนธิ แต่พิจารณาเห็นว่าเหมาะสมที่จะทำงานในสถานการณ์ขณะนี้

ต่อข้อถามว่า พล.ต.อ.ธานี เหมาะสมจะมาทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ตช.) เพื่อเลือก ผบ.ตร.ใหม่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เหมาะสมในการรักษาราชการแทนเพราะต้องทำได้ทุกอย่าง

และในระยะเวลาที่เหลือก็ให้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่ได้เร่งรัดคดีใดเป็นพิเศษ ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์  แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ระบุจะมีการปฏิวัติจากคนในรัฐบาลช่วงที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ทำให้ไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตนไม่เชื่อที่นายจตุพรพูด และช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ ตนรักษาการแทน จะดูแลบ้านเมืองให้ดี.-สำนักข่าวไทย