สุเทพปลงปู่จิ้นขู่เอาคืนขุดอัลไพน์ ชี้ทำตามหน้าท

รองนายกฯ เหน็บ "ถาวร" นำทีมเด็ก ปชป.คุ้ยอัลไพน์ทำตามหน้าที่ แต่อาจพูดมากไปหน่อยเลยกระทบพรรคร่วม ยัน "ชวรัตน์" ขู่เอาคืนปชป.เป็นเรื่องธรรมดา เมิน จตุพร ประโคมสีเขียวจ่อปฏิวัติ หนุน ส.ส.หุ้นร้อนสู้ตายชั้นศาล ..

วันนี้ (10ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และ ส.ส.ของพรรรคประชาธิปัตย์จี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ จำเป็นต้องพูดคุยกับนายถาวรหรือไม่ว่า ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องไปพูดอะไรเป็นพิเศษ นายถาวรทำตามหน้าที่ของท่าน ที่จริงแค่ทำงานตามหน้าที่ก็ใช้ได้แล้ว แต่บังเอิญมีคนไปถามท่านมากท่านก็เลยเยอะ เมื่อพูดเยอะก็เลยกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา ถ้าต่างคนต่างพูดน้อยๆ ก็คงไม่มีปัญหา ที่ตนพูดไปก็รู้สึกว่าชักพูดมากเกินไปแล้วเหมือนกัน
 
เมื่อถามว่า ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลหนักใจหรือไม่เพราะพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชิปัตย์มีหลายเรื่องแล้วที่มีควาเมห็นไม่ตรงกัน นายุสเทพ กล่าวว่า
 
ธรรมดา พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมานานก็เลยลืมไปว่าตอนนี้เป็นรัฐบาล บางทีก็ค้านไปเรื่อยลืมไปว่าค้านพวกเดียวกันเองเข้าแล้ว ตนว่าคงจะต้องคุยกันในพรรคบ้างเป็นธรรมดา

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ค่อยพอใจระบุว่าถ้ามาบี้พรรคภูมิใจไทยมากเดี๋ยวจะบี้กลับคืนบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า
 
"ก็ธรรมดา ผมบังเอิญเคยบวชเรียนมา ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นธรรมดา" เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับแกนนำทุกพรรคอีกหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "เวลาเขามีอารมณ์เขาก็เรียกผมไปเฉ่งเอง มันก็เป็นธรรมอีกเหมือนกัน ไม่มีปัญหาอะไร พูดมากไปผมจะเป็นปัญหา"

นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ระบุว่า

จะมีการปฏิวัติจากกลุ่มพวกเดียวกัน และนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชติที่สหรัฐ ระหว่างวันที่ 20-27 ก.ย. จะไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย

โดยนายสุเทพ ย้อนถามว่า "คุณเชื่อคุณจตุพรหรือ ผมไม่เชื่อคุณจตุพร"

เมื่อถามว่า แสดงว่ามั่นใจว่าในช่วงที่นายกฯไม่อยู่ไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ ท่านจะดูแลสถานการณ์ได้เรียบร้อย นายสุเทพ กล่าวว่า
 
ตนจะรักษาการเป็นนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ดูแลบ้านเมือง เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ลงมติส.ว.และส.ส.ที่ถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญ เป็นจำนวนมาก จะก่อให้เกิดปัญหานำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าตนไปวิจารณ์คงจะไม่ดี เพราะตนก็เคยถูกชี้มูลไปแล้วเรื่องการถือหุ้น เอาเป็นว่าตนไม่วิจารณ์ กกต.ในส่วนนี้ แต่ถ้าถามว่าในฐานะประชาชนในระบอบประชาธิปไตยคาดหวังอะไรกับ กกต. ตนก็คาดหวังว่า กกต.จะเป็นผู้ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตถูกต้อง ไม่ให้คนซื้อเสียง ไม่ให้คนโกงการเลือกตั้ง ประชานคงไม่คาดหวังให้ กกต.มาคอบจับผิดใครว่าซื้อหุ้นหรือไม่ซื้อหุ้นตรงไหน

นายสุเทพ กล่าวว่า

ส่วนการทำหน้าที่ในสภาฯขณะนี้ก็ยังทำได้อยู่ ส.ส.ที่ถูก กกต.ชี้ว่าขาดคุณสมบัติก็ยังไม่ขาดคุณสมบัติทันที แต่จะขาดคุณสมบัติก็ต่อเมื่อเรื่องถึงที่สุด คือ กกต.ต้องทำเรื่องมาถึงสภาฯ และประธานสภาฯต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส.ส.เหล่านั้นก็ไปต่อสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นที่สุด ส่วนกรณีของตนๆ รำคาญก็เลยลาออกให้หมดเรื่องไป แล้วเลือกตั้งใหม่จะได้ทำงานสบายใจไป แต่ส.ส.คนอื่นๆ ตนสนับสนุนให้ไปสู้คดี ถ้าเขาชนะคดี กกต.แล้วจะไปฉลองที่ไหนตนก็จะไปด้วย แต่ถ้าแพ้ตนก็จะไปเลี้ยงปลอบขวัญพร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งซ่อม สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกชี้มูลเรื่องการถือหุ้นนั้น แม้จะถูกชี้ว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แต่ก็ถือว่ายังมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีได้ เพราะกรณีการซื้อหุ้นมาตั้งแต่เป็น ส.ส. ดังนั้นรัฐมนตรีเหล่านี้ก็ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ และสมควรจะอยู่ต่อไปอย่างยิ่ง