วันนี้(10 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง และในฐานะ อดีต ส.ส.ร.
แสดงความเห็นถึงการแก้รัฐธรรมนูญตามความเห็นของกรรมการสมานฉันท์ ว่า ประเด็นที่นำเสนอมานั้นเห็นว่า เป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเองเท่านั้น เช่น มาตรา 237 ที่ให้กรรมการบริหารพรรคไม่ต้องรับผิดชอบ หากมีการซื้อเสียง ซึ่งจริงๆแล้วมาตราดังกล่าว เขียนขึ้นเพื่อตั้งใจแก้การซื้อสิทธิขายเสียงและให้พรรคดูแลกันเอง ดังนั้น หากแก้มาตรานี้พรรคก็ไม่ต้องมีความรับผิดชอบ หรืออย่างการแก้ไขเรื่องเขตเลือกตั้ง ซึ่งตอนที่ร่าง ก็ได้ถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียของระบบเขตเดียวเบอร์เดียวและเขตเดียวสามเบอร์ โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและเห็นว่าระบบเขตเดียว 3 เบอร์นี้ดีที่สุดในการป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง
นางสดศรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่ต้องการจะแก้ไขอำนาจการแจกใบเหลืองแดงให้ไปอยู่กับศาลแทน กกต. นั้น ตนก็มองว่าทุกวันนี้ อำนาจทุกอย่างก็แทบจะไปอยู่ที่ศาลอยู่แล้วเว้นแต่เรื่องก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ที่เหลือเราก็มีหน้าที่ทำความเห็นส่งต่อศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเองจะเข้าชื่อเพื่อถอดถอนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 122 หรือไม่
นางสดศรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนตีความและถอดถอน โดยเรื่องนี้ กกต.จะไม่เกี่ยวข้อง เพราะมีหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อเท่านั้น 'หากแก้แล้วจะทำให้บ้านเมืองสมาฉันท์ก็แก้ไป แต่แก้แล้วก็มองไม่เห็นว่าจะเกิดการสมานฉันท์อย่างไร เพราะก็ยังคงมีสีเหลือง สีแดง อีกทั้งการสมานฉันท์ก็ไม่ได้เกิดขึ้น จากการเลือกตั้งเท่านั้น ถ้าตราบใดยังจัดการเรื่องความขัดแย้งไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่มีประโยชน์นอกจากแก้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง' นางสดศรี กล่าว.