"พัชรวาท"ลงจากเก้าอี้ หลังถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอาญา-วินัยร้ายแรง ระบุลาออกเป็นความตั้งใจ หวังนายกฯจะทำงานไปด้วยดี "ธานี"พร้อมรับตำแหน่งรักษาการผบ.ตร.ขอทำงานเต็มที่ "ประวิตร"ลั่นไม่ใช่เรื่องของผม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งว่า ได้รับทราบคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งตนยอมรับโดยดี พร้อมยื่นหนังสือลาออกจากราชการไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แล้ว ส่วนที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนั้นคงต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
"การลาออกครั้งนี้เป็นความตั้งใจของผมไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และคิดว่าการลาออกในวันนี้น่าจะทำให้นายกรัฐมนตรีทำงานไปได้ด้วยดี" พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว
เมื่อถามว่า ถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ไม่อยากให้คิดกันไปต่างๆ นานา อยากให้คิดกันในทางบวกมากกว่า เพราะความจริงตลอดชีวิตราชการและมานั่งตำแหน่งเป็น ผบ.ตร.ประมาณปีกว่า ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่ชี้แจงหรือต่อสู้ทางคดี พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้น เราเป็นข้าราชการตำรวจหน้าที่รับใช้รัฐบาล
ดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์ ดูแลประชาชน และประเทศชาติให้เกิดความสงบเรียบร้อย อย่าไปคิดอะไรมาก คิดเสียว่าไปพักผ่อนก่อนเกษียณนับว่าเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเอง ส่วนข้อกล่าวหาที่มีการกล่าวหาในหลายกรณีนั้นปล่อยไปตามขั้นตอนกระบวนการ ซึ่งตนเชื่อว่าการทำงานที่ผ่านมาโปร่งใส ไม่มีการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
"ผมขอขอบคุณตำรวจทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจทำงานกันกว่า1 ปี สำหรับผมเห็นว่าทำงานมาพอสมควรแก่เวลาแล้ว เหลืออีกเพียง 21 วัน อยากพักผ่อนบ้าง เมื่อผมไปคนอื่นก็มาใหม่สานต่องานที่ทำอยู่คงไม่มีปัญหาอะไร" พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.ต.อ.พัชรวาทจะเดินทางขึ้นรถยนต์กลับไป ได้กล่าวทิ้งท้ายกับสื่อมวลชนด้วยท่าทีขบขันว่า ผมเริ่มประวัติศาสตร์ใหม่ถูกไล่ซ้ำ (ช่วยราชการ) ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
พัชรวาทถือฤกษ์ 09-09-09 ไขก๊อก ระบุลาออกให้นายกฯทำงานไปด้วยดี
ด้าน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. กล่าวหลังได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ว่า รับหนังสือแต่งตั้งให้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.แล้ว
ในวันที่ 10 กันยายน จะเดินทางไปรายงานตัวและรับนโยบายจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนเหลือเวลาราชการอีก 21 วัน จะตั้งใจทำหน้าที่เท่าที่จะสามารถทำได้ ยืนยันว่าไม่หนักใจที่มารับตำแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร. เมื่อถามว่าจะสามารถเข้าประชุม ก.ต.ช.ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ธานีกล่าวว่า รักษาราชการแทนก็มีอำนาจเหมือน ผบ.ตร.ตัวจริง เมื่อถามว่าจะเห็นชอบ ผบ.ตร.คนใหม่ตามที่นายกฯเสนอหรือไม่ พล.ต.อ.ธานีกล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯในวันที่ 11 กันยายน จะประชุมคณะทำงานอีกครั้ง ส่วนจะมีความคืบหน้าหรือไม่ ต้องดูว่างานที่ได้มอบหมายไปดำเนินการนั้นสำเร็จหรือไม่
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาท
ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญา และผิดวินัยร้ายแรงกรณีสั่งการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 7 ตุลาคม 2551 กับพล.ต.อ.พัชรวาทว่า "ไม่ใช่เรื่องของผม ผมไม่เกี่ยว ผมไม่ตอบ นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาคุยอะไรกับผม เพราะท่านคุยเฉพาะเรื่องงาน ท่านสั่งงานที่ผมรับผิดชอบคือ กระทรวงกลาโหม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ก.ย. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)
ได้ยื่นหนังสือถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เพื่อลาออกจากตำแหน่งผบ.ตร. เพื่อจะขอพักผ่อน และให้คนอื่นได้ทำงาน ยืนยันไม่มีการทุจริตจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่รายการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จำนวน 18,697,500 บาท ส่วนคดีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีสลายม็อบ 7 ตุลาคม ต้องว่าไปตามกระบวนการ
ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ได้ลงนามสั่งย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ให้ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และให้พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดี บุคคลทั้งสี่ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และมาตรา 70
นอกจากนั้ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และฐานละเว้นการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป