"เมธี"สวมบทบู๊นอกจอ ชกไม่ยั้ง เจ้าหนี้พรรคเลือดสาด หลังทวงเงินค่าผลิตลื่อเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เจ้าตัวเบี่ยงเบนประเด็นอ้างทนไม่ได้ "วรัญชัย"หยิบพานพุ่มราชินี ให้กำลังใจ "สมชาย" เผย เงิน 4 แสนล่องหน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา เสร็จสิ้นลง นายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้นำพานดอกไม้สักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษาที่วางอยู่หน้าพรรค มามอบให้นายสมชาย โดยระบุว่าเดินทางมาให้กำลังใจนายสมชาย
จากนั้นเมื่อเวลา 10.40 น.หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง ถ.พระรามสี่
กลุ่มผู้ประกอบการจัดทำสื่อหาเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดยนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์ธานี และนายรังสรรค์ มธุระเมธาวี เลขาศูนย์ พร้อมคณะจำนวน 15 คน นำรถตู้ติดเครื่องขยายเสียง พร้อมแขวนป้ายมีข้อความ"แพ้แล้วหนี้ไม่จ่าย"โดยนายอดิศราช พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อขอทวงเงินที่พรรคเพื่อไทยค้างจ่ายกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสื่อจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต1 สุราษฎรธานีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งนายสมพล วิชัยดิษฐ น้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว
เมธีแจงสวมบทบู๊ชกเจ้าหนี้ทวงเงินหาเสียง อ้างทนไม่ได้วรัญชัยหยิบพานพุ่มราชินี
นายรังสรรค์ เปิดเผยว่า การว่างจ้างจัดทำสื่อหาเสียงนั้น นส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค เป็นผู้เดินทางไปติดต่อด้วยตัวเอง
แต่หลังการเลือกตั้งทางผู้ได้รับว่าจ้างจากพรรคเพื่อไทย ตนพยายามประสานไป นส.สุนีย์ และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายสมพล ให้ดำเนินการจ่ายเงินที่พรรคค้างชำระผู้ประกอบการจำนวนรวมถึง 7 แสนบาท โดยเป็นค่าผลิตป้ายติดรถแห่ โปสเตอร์เล็ก ใบปลิว ค่าเวทีปราศรัยใหญ่ ค่าน้ำ ค่าไฟ จึงทำพวกตนได้รับความเดือดร้อนและต้องมาติดตามทวงหนี้ ซึ่งพวกตนเคยมาทวงถามที่พรรคแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอดิศราช ยืนทวงหนี้อยู่นั้นปรากฎว่านายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดง-นายแบบ ซึ่งเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงและเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยอยู่บ่อยครั้งได้เดินเข้าไปกระชากไมค์และจิ้มเข้าที่หน้าอกซ้ายของนายอิศราช พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า "มาทำแบบนี้ทำไม ใครจ้างมึงมา ถ้ามีปัญหากับใครควรทำเป็นรายบุคคล ไม่ควรมาด่าทั้งพรรค นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่" ซึ่งนายอดิศราชได้ชี้แจงว่า ตนและพวกไม่ได้มาก่อกวนแต่เป็นเจ้าหนี้เพื่อมาทวงเงินเท่านั้น อย่างไรก็ตามปรากฎว่านายเมธี ได้ใช้ไมค์ที่ถือไว้ในมือกระทุ้งเข้าที่ท้องของนายอดิศราชอย่างแรงจำนวน 2 ครั้ง ก่อนจะต่อด้วยหมัดซ้ายเข้าที่หน้านายอดิศราช ทำให้นายอดิศราชร่วงลงไปกองที่ข้างรถ แต่นายเมธียังไม่หยุดได้ตามเข้าไปรัวหมัดเข้าที่ท้องของนายอดิศราชอีกหลายมหมัดจนนายอดิศราชตัวงอก่อนที่จะเซและถอยออกไป ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ของพรรคและประชาชนระแวกนั้น
ข่าวแจ้งว่า จากนั้นนายเมธีได้เดินเข้าพรรคเพื่อไทยและเข้าไปสงบสติอารมณ์ที่ศูนย์สำนักงานปราบโกงของพรรคก่อนที่จะขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนของที่ทำการพรรค
นอกจากนี้ยังมีหญิงเลื้อแดงที่ไม่พอใจกลุ่มผู้ทวงหนี้เข้ามาชี้หน้าด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบสภาพของนายอดิศราชที่อยู่ในอาการตกใจ พบว่า มีเลือดไหลออกจากศรีษะ ข้อมือแขนด้านซ้ายมีรอยขูดขีดจนเลือดซิบ และนาฬิกาสูญหายไป 1 เรือน นายอดิศราช กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้เพราะตนช่วยเหลือพรรคมาโดยตลอด แม้ว่าเพิ่งจะเข้ามาดูแลการเลือกตั้งซ่อมสุราษฎรตนก็รักพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเมธี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางรักจำนวน 4 นายมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
นายพิเชษฐ สถิรชวาล รักษาการประธานคณะทำงานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ระหว่างเกิดเรื่อง นายสมพลกำลังเดินทางเพื่อเข้ามาชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายเลือกตั้งตามที่พรรคได้นัดหมาย
ในช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย. นี้ หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงไปเคลียร์ปัญหามาครั้งหนึ่งแล้วโดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อนจำนวน 195,000 บาท แต่ส่วนที่เหลือนายสมพลขอเวลาในการเตรียมเอกสารก่อนจะเคลียร์ค่าใช้จ่ายอีกครั้งให้เรียบร้อย เพราะหลังจากเลือกตั้งจะต้องแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ทางผู้ที่ช่วยหาเสียงก็คงใจร้อน ขณะเดียวกันก็รู้กันอยู่ว่ามีปัญหาเรื่องการเมืองในพื้นที่บ้างเล็กน้อย เพราะคนที่ลงเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายคนที่อยากจะลงในนามพรรคเพื่อไทย
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ชกต่อย เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค อย่างไรก็ตามหลังจากที่นายพิเชษฐ์ได้ดูเทปบันทึกของช่างภาพโทรทัศน์ก็ได้เปรยกับสื่อมวลชนว่า "นายอดิศราช เป็นเด็กนายภิญญา ช่วยปลอด อดีตส.ว.สุราษฎร์ธานี อย่างนี้มีเรื่องแน่ ที่จริงถ้าผมลงมาเร็วกว่านี้ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพราะผมก็รู้จักกับนายอดิศราชน่าจะพูดคุยกันได้อยู่แล้ว"