จตุพรซัดอำพนการกระทำไม่ควรเป็นองคมนตรีต่อไป

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง

ตอบโต้นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ที่กล่าวถึงการทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานโทษ ในการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และความโปร่งใสในภาครัฐ" ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา


โดยนายจตุพรแถลงที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 3 กันยายน โดยอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงบทบาทและหน้าที่ขององคมนตรี

ที่พระราชทานแก่องคมนตรีในโอกาสที่เสด็จฯไปทรงเปิดทำเนียบองคมนตรี ณ พระราชอุทยานสราญรมย์ เมื่อวันอังคารที่ 20 มกราคม 2547 มาอ่านประกอบการแถลงข่าวว่า เมื่ออ่านถ้อยคำการบรรยาย ถ้าไม่มีบอกไว้ว่า นายอำพลซึ่งมีตำแหน่งเป็นองคมนตรีพูด คงจะคิดไปว่าเป็นคำพูดสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่เป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะการหยิบยกพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แม้จะไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ คนอ่านก็รู้ดีว่าหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น นายอำพลไม่สมควรที่จะเป็นองคมนตรีอีกต่อไป


"อยากให้นายอำพลย้อนกลับไปดูกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีแ ละอดีตนายกรัฐมนตรี ในการครอบครองที่ดินป่าสงวนฯ แต่ไม่ถูกดำเนินคดีนั้นเป็นเพราะ พล.อ.สุรยุทธ์เป็นองคมนตรีหรือไม่ หรือแม้แต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถ้าบอกว่าไม่มีกิเลส ไม่อยากร่ำรวย ถามว่าไปรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทซีพี ธนาคารกรุงเทพ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ทำไม เงินตอบแทนที่ได้นำมาเสียภาษีหรือไม่ และคนที่เป็นองคมนตรีควรจะไปรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่" นายจตุพรกล่าว


นายจตุพรกล่าวว่า จากการที่ไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทซีพี จะมีผลดีต่อคดีทุจริตกล้ายางหรือไม่ องคมนตรีได้สำเหนียกในเรื่องเหล่านี้หรือไม่

องคมนตรีเคยได้ทบทวนตัวเองในสิ่งที่เคยปฏิญาณว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าปกป้องรัฐธรรมนูญแล้วเข้าไปปลุกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเพื่อนำคณะรัฐประหารเข้าเฝ้าฯสมควรหรือไม่ วันนี้ทำเนียบองคมนตรีถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่รู้ว่านายอำพลจงใจอะไร


"คำพูดของนายอำพล ไม่สมควรทั้งความคิดและวาจา ที่ผ่านมาไม่ว่า พล.อ.เปรม และ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ก็ช้ำมาหมดแล้ว นายอำพล จึงต้องออกมาบ้าง แต่การกระทำของนายอำพลไม่ต่างจากนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งทางการเมือง และถ้านายอำพลออกมากล้าพูดว่าทรงรับสั่งมาก็ให้พูดออกมา แต่ทราบว่าหลังรัฐประการ 19 กันยายน 2549 พล.อ.เปรมไม่เคยได้เข้าเฝ้าฯ" นายจตุพรกล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์