นายกฯดับฝันตั้งรบ.สูตร1+1 ยันจุดยืนแตกต่างกัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ปฎิเสธกระแสข่าวจัดตั้งรัฐบาลแบบสูตรตั้งรัฐบาล 1 บวก 1

โดยพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยว่า "ไม่มี" เมื่อถามว่า แต่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนไปพูดกับนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่าอนาคต 2 พรรคใหญ่น่าจะรวมกันตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวตัดบทว่า "หมอท็อปเป็นโฆษกพรรคขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าว"

เมื่อถามว่า จะให้คำมั่นกับสังคมได้อย่างไรว่าคนที่ยืนกันคนละขั้วทางการเมืองจะไม่มีวันมารวมกันได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมพูดไปชัดเจนแล้วว่า เราจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมากับพรรคร่วมรัฐบาล มีความตั้งใจร่วมกันจะมาทำอะไรขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม"

เมื่อถามว่า แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ที่ระบุว่าพร้อมจะพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าอย่าเอาเรื่องนั้นมาชนกับเรื่องนี้ ที่สำคัญตนยังไม่ทราบเรื่องไปเจรจาเปลี่ยนแปลงอะไรในรัฐบาล เพราะรัฐบาลยังไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวถามว่า วิเคราะห์หรือไม่ทำไมถึงมีข่าวลักษณะนี้ออกมา เพราะจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มั่นคงใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า "ไม่จริง การประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 1 กันยายน ส.ส.ของพรรคมีความมั่นคงมาก เลขาธิการพรรค ประธานที่ปรึกษาฯ ส.ส.อยู่กันพร้อม ผมก็อยู่ ถือว่าชัดเจนมาก เราตั้งใจที่จะเดินหน้าทำงาน อีกทั้งการกระทบกระทั่งกันในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องปกติของรัฐบาลผสม ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจกัน ถือว่าชัดเจนมาก"

เมื่อถามว่า จุดยืนระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ที่แตกต่างกันคืออะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีความแตกต่างอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

เห็นได้จากในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจุดยืนมันแตกต่างกัน พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาลก็ทำงานต่อไป เมื่อถามว่า มองข่าวนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครพูด เมื่อถามว่า จะสอบถาม นพ.บุรณัชย์หรือไม่ เพราะเป็นคนที่ไปพูดคุยกับนายคณวัฒน์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมไม่รู้จักเลยครับ"

ด้านนายสุเทพกล่าวว่า "ใครเป็นผู้จัดการรัฐบาล ถ้าวันนี้ผมยังเป็นผู้จัดการรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้ ถ้ามีเรื่องนี้แสดงว่า ต้องเปลี่ยนตัวผู้จัดการรัฐบาล"