มาร์คเตือนแพร่คลิปเก๊นายกฯมีผิด3ระดับ รับโกรธธรรมดามนุษย์

ปชป. เตรียมหาข้อมูลเพิ่ม เอาผิด พวกแพร่คลิปเสียงนายกรัฐมนตรี เสื้อแดง-สมาชิก 111-เพื่อไทย ต้องรับผิดชอบ เหตุมีเอี่ยว เรียกร้องประชาชนใช้วิจารณญาณ หลังคลิปแพร่ไปทั่วประเทศ


สำหรับความคืบหน้าภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบต้นตอเผยแพร่คลิปตัดต่อเสียงนายกฯ

ที่สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงใช้ความรุนแรงเข้าจัดการกับกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ทาง สทท. 11 ว่าทางผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ทั้งฝ่ายพิสูจน์หลักฐานของตำรวจ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้สรุปผลให้ทราบภายใน 1 วัน ทราบแน่ชัดแล้วว่าเป็นการตัดต่อ


"หากคนฟังแล้วเชื่อตามนั้น เรื่องนี้จะไม่ได้สร้างเสียหายเฉพาะผมเท่านั้น แต่จะสร้างความโกรธแค้น ความเกลียดชัง จึงถือเป็นเรื่องที่กระต่อความมั่นคง หากมีการนำคลิปดังกล่าวไปเปิดกลางเวทีชุมนุม รับรองว่ามีเรื่องกับผมแน่”นายกฯกล่าวและว่า มีบางฝ่ายพยายามบอกว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมา เป็นการแอบบันทึกไว้ในระหว่างการประชุม แต่ฟังแล้วคิดว่าเสียงชัดเกินไป สมมุติถ้าเป็นการประชุม หรือการพูดคุยกัน ต้องมีเสียงบรรยากาศด้วย แต่ในคลิปนี่เสียงเงียบ เหมือนเสียงในห้องสตูดิโอมากกว่า อย่างคำว่า “พัทยาเนี่ย” ก็เป็นสิ่งที่เคยพูดในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยฯ"


นายกฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับการจัดทำและเผยแพร่คลิปเสียง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ

1. คนตัดต่อคลิปเสียง
2. คนนำคลิปขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์
3. คนที่รับคลิปทางอีเมล์แล้วส่งต่อไปให้ผู้อื่น แต่ต้องดูเจตนารมณ์ก่อน สมมุติถ้าไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคลิปปลอม พอรับอีเมล์มาแล้วก็ส่งไปให้คนอื่นเพราะคิดว่าเป็นของจริง อันนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าตอนนี้ข่าวออกไปหมดแล้วว่า เป็นคลิปปลอม แล้วยังส่งต่ออีก ถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะคลิปที่ออกมาไม่ได้สร้างความเสียหายเฉพาะตนเท่านั้น แต่ถ้าเผยแพร่แล้วคนเชื่อ จะนำไปสู่ความแตกแยกได้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" เทปนี้ ได้เชิญผู้ดำเนินรายการ “แบบไต๋ไฮเทค”

ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นมาช่วยกันให้ข้อมูล และอธิบายการใช้โปรแกรม “ออดิโอ อิดิเตอร์” ซึ่งมีไว้ตัดต่อภาพยนตร์ เพลง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ มีการสาธิตการตัดต่อกราฟเสียงให้ดูด้วย ผู้ใช้โปรแกรมดังกล่าวสามารถตัดแต่งคลื่นเสียงสูง-เสียงต่ำ เสียงสั้น-เสียงยาว สลับกราฟเสียง ส่งผลให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไปได้ ผู้ดำเนินรายการยังถามว่า โกรธหรือไม่ที่มีคลิปออกมาในลักษณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ก็ธรรมดาของมนุษย์”


นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์หลังออกรายการว่า สรุปชัดเจนว่า เป็นการตัดต่อ แต่ปัญหาคือการตรวจสอบคนเผยแพร่คลิป ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องหาตัวต่อไป

ต่อไปถ้ายังมีใครนำคลิปนี้ไปใช้ประโยชน์ในการชุมนุมทางการเมือง ก็เป็นการฟ้องประจานตัวเองว่าเคลื่อนไหวในเรื่องที่เป็นเท็จ หลายเรื่องในอดีตก็เป็นเรื่องเท็จ ตนฟ้องดำเนินคดีไปแล้ว 2 คดี และอาจต้องฟ้องเพิ่มเติม ส่วนกรณีคลิปเสียงนี้ หากเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อหาความผิดต่อแผ่นดิน ตนอาจจะไม่ต้องฟ้องเอง





เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์