ที่รัฐสภา นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงถึงกรณีกระแสข่าวที่ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเมินรับฟังปัญหาของลูกจ้างบริษัทบอดี้ แฟชั่น ว่า
ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวนายกฯ ติดประชุมเรื่องข้าวที่อาคาร 3 ของรัฐสภา ตนจึงได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานไปรับแกนนำคนงานเข้ามาพูดคุยด้วยแต่เมื่อนั่งรอก็ทราบว่าฝ่ายค้านชิงนำตัวคนงานไปคุยก่อนแล้ว ทั้งนี้ตนได้ตกลงกันกลุ่มลูกจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง ทราบว่าบริษัท ได้แจ้งล่วงหน้าถึงการปลดพนักงานและได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ถูกกฎหมาย เพียงแต่คนงานติดใจว่าบริษัทไม่ได้มียอดสั่งซื้อลดลงจริง เพราะได้มีการตั้งโรงงานเพิ่มที่จ.นครสวรรค์
นายไพฑูรย์กล่าวอีกว่า
ทางบริษัทรับปากว่าหากยอดสั่งซื้อกลับคืน จะเรียกพนักงานกลับมาจ้างงานต่อ ส่วนอีก 2 บริษัทคือเอนีออน อิเล็คทรอนิกส์ ที่เลิกกิจการและไม่ยอมจ่ายเงินทดแทน ทางกระทรวงแรงงานได้เข้าไปช่วยเหลือจ่ายเงินให้ก่อน 30 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งมอบหมายทนายให้ฟ้องร้องเจรจา จึงอยากชี้แจงว่านายกฯไม่ได้เมินตามที่เป็นข่าว
สำหรับกรณีคนไทยไปทำงานเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดนนั้น นายไพฑูรย์กล่าวว่า
ตนได้เดินทางไปประเทศสวีเดนแล้วพบว่ามีการออกวีซ่าให้คนงานไปเก็บผลไม้มากกว่าทุกปี ขณะที่ผลไม้ทางตอนเหนือมีปริมาณลดน้อยลง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนเพื่อหาคนงานไปต่างประเทศ แต่เป็นเพียงบริษัทธรรมดาขั้นตอนต่อไปจะเรียกนายจ้างมาเจรจาหาผู้รับผิดชอบต่อไป
นายไพฑูรย์กล่าวด้วยว่า
สำหรับปัญหาโครงการต้นกล้าอาชีพที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีการจ่ายเงินไปแล้วแต่มีผู้อบรมไม่ครบว่า ตนก็ได้รับการร้องเรียนมาเช่นกัน เชื่อว่าอาจมีการผิดพลาดในเรื่องการเบิกจ่ายไม่เกี่ยวข้องกับส.ส.หรือหัวคะแนนของพรรคที่เป็นผู้แนะนำและจัดหาคนมาเข้าร่วมโครงการแน่นอน ทั้งนี้คงจะต้องมีการติดตามต่อไปว่ามีกรณีเช่นนั้นจริงหรือไม่ หากผู้เข้าอบรมไม่ครบแล้วเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงมีการสั่งจ่ายเงินให้