มาร์คแจงขั้นตอน ตั้งผบ.ตร.คนใหม่

หมายเหตุ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถึงขั้นตอนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้

สัปดาห์ที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนได้รับรู้ข่าวสารมากที่สุด คงหนี้ไม่พ้นปัญหาในเรื่องของการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)


จึงอยากจะขอเรียนว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องของการบริหารงานตำรวจ ซึ่งในกฎหมายนั้นก็กำหนดเอาไว้ว่า นายกฯจะเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อ ผบ.ตร.เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ที่เรียกสั้นๆ ว่า ก.ต.ช. เพื่อให้ความเห็นชอบ เพราะฉะนั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เราก็เริ่มต้นกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎหมาย นั่นก็หมายความว่า ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่เป็นประธาน ก.ต.ช. ก็เสนอชื่อที่ผมเห็นว่ามีความเหมาะสมให้ทางคณะ ก.ต.ช.ได้ให้ความเห็นชอบ แต่ปรากฏว่าในการลงมติในวันนั้นยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบ เพราะฉะนั้นกระบวนการนี้ก็ถือว่ายังไม่ยุติ

มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีการสอบถามว่าเป็นอย่างไร ทำไมการเสนอชื่อ เสนอชื่อได้กี่ชื่อ อยากจะย้ำอย่างนี้ว่า

ที่จริงในการดำเนินการในเรื่องนี้ ตั้งแต่ก่อนที่จะมีกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะมีคณะกรรมการเช่นเดียวกันเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ ผู้มีอำนาจเสนอชื่อเข้าไปจะเสนอชื่อเดียว ทั้งเป็นประเพณีปฏิบัติ และที่สำคัญคือถ้าตามกฎหมายปัจจุบัน การที่กฎหมายใช้ถ้อยคำว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ในขณะที่นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่จะเป็นคนคัดเลือกชื่อ หมายความว่าเสนอไปเพื่อขอความเห็นชอบ ถ้าเสนอหลายชื่อเขาจะไม่เรียกเห็นชอบ เขาจะเรียกว่าเป็นการคัดเลือก เป็นการเลือกตั้ง ส่วนกระบวนการคัดเลือกนั้นเป็นหน้าที่ของผมในฐานะนายกรัฐมนตรี สำหรับการคัดเลือกและการที่จะขอความเห็นชอบในครั้งนี้

ผมก็เรียนสั้นๆ นะครับว่า ไม่ได้หมายความว่าผมก็คิดอะไรของผมเอง

ผมได้มีการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านตำรวจก็ทราบว่า มีบุคคลหลายคนที่คิดว่ามีความสามารถที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ได้ และมีการเชิญบุคคลหลายท่านมาพูดคุยสอบถามความคิดความอ่านต่างๆ สุดท้ายผมยืนยันครับว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมต้องการจะเห็นเกิดขึ้นคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการที่จะต้องรักษากฎหมาย ดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยเป็นที่วางใจ มั่นใจและศรัทธาของประชาชน โดยเฉพาะในยามที่ปัญหาของการเมือง ปัญหาความขัดแย้งมีมาก และปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ที่พี่น้องบ่นมาจะเป็นเรื่องยาเสพติด จะเป็นเรื่องอะไรก็ตามมีมาก ฉะนั้นสิ่งที่ผมต้องการให้เห็นเกิดขึ้นก็คือประสิทธิภาพสูงสุด

ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในวันนี้ สิ่งที่เราต้องการก็คือ ทำอย่างไรให้ ตร.ก้าวเข้าสู่ความเป็นตำรวจอาชีพ ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องของการเมืองเข้าไปแทรกแซง

และระบบคุณธรรมในตำรวจได้รับผลกระทบอย่างค่อนข้างรุนแรง เพราะฉะนั้นบุคคลที่ผมเสนอชื่อ ผมมองว่าจะต้องมีคุณสมบัติ 2 อย่าง อย่างแรก คือ สามารถที่จะทำให้ความขัดแย้งภายในลดลงได้ เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยอมรับนับถือและมีบุคลิกในลักษณะที่จะสามารถประสานความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อให้การทำงานของทางตำรวจมีประสิทธิภาพ ประการที่ 2 ในภายนอกต้องมีความยอมรับนับถือในลักษณะของความเป็นกลางทางการเมือง และสามารถที่จะเดินหน้าคดีต่างๆ ได้อย่างตรงไปตรงมา

ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อาจจะมีข้อมูล อาจจะมีความเห็นที่ยังไม่ตรงกัน ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา

เพราะในอดีตกระบวนการที่จะได้ ผบ.ตร. หรืออธิบดีกรมตำรวจ (อ.ตร.) ในอดีตก็มีอย่างนี้ที่เคยเกิดขึ้นเหมือนกันว่า เสนอไปครั้งแรกก็ยังไม่เรียบร้อย ก็มีการเสนอครั้งที่ 2 แม้กระทั่งครั้งที่ 3 เข้าใจว่าก็ยังเคยมีเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ผมก็ทำงานต่อไป เพื่อที่จะได้เฟ้นตัว ผบ.ตร.ที่ผมคิดว่าจะมีคุณสมบัติในลักษณะที่ผมได้กล่าวมาแล้ว เพื่อที่จะให้ ตร.สามารถที่จะเป็นที่พึ่ง ที่หวังของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือ สนองนโยบายของรัฐบาลในการที่จะให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไป ตรงมา และมีประสิทธิภาพ

ถามว่าจะดำเนินการได้เสร็จเมื่อไร ก็อยากจะเรียนว่า ที่จริงก็เป็นความตั้งใจดีว่าอยากจะเสร็จก่อนเดือนสิงหาคม

เพราะว่าในกฎหมายกฎระเบียบต่างๆ ในส่วนของตำรวจจะมีนิดหนึ่งก็คือว่า ในส่วนตำแหน่งรองลงไปจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นอำนาจของ ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ซึ่งมีท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธานอยู่ ผมพยายามที่จะผลักดันว่าจะเสร็จก่อนเดือนสิงหาคม เพื่อที่จะให้ทาง ก.ตร.ได้ทราบว่าใครเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ น่าจะดีกว่า แต่ว่าท่าน ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ท่านได้บอกกับผมว่าที่จริงแล้ว ก็ไม่จำเป็น แม้ว่ากระบวนการของ ก.ต.ช. เรื่อง ผบ.ตร.คนใหม่ยังไม่เรียบร้อย ก.ตร.ก็สามารถที่จะพิจารณาในส่วนของ ก.ตร.ก่อนหรือทำต่อก็ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้พี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล อาจจะต้องใช้เวลายาวกว่าที่ผมคิดนิดหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ว่าสิ่งที่ผมต้องการให้เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ของตัวองค์กรตำรวจเอง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนนั้น ผมมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มที่ และเชื่อครับว่าจะก้าวพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้นะครับ

นอกเหนือจากเรื่องของ ผบ.ตร. ซึ่งดูจะกลายเป็นเรื่องราวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์

อยากจะเรียนว่า แท้ที่จริงแล้วเรื่องปัญหาของบ้านเมืองอีกหลายปัญหามีมาก และตัวเองก็ยังเดินหน้าทุ่มเทในการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นปัญหาหลักๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นนโยบายสำคัญ หรือที่เคยมีการพูดจากับพี่น้องประชาชนไว้ตั้งแต่ในช่วงของการเลือกตั้ง เราก็เดินหน้าต่ออย่างเต็มที่หลายสัปดาห์ที่ผ่าน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์