มาร์คปัดเกาเหลาเทพเทือก เด็กชวน-บัญญัติฮึ่มสุเทพกอดคอเนวินหักหน้านายกฯเลือก ผบ.ตร.

"โฆษก"มาร์ค"ดับข่าวยุบสภา

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวที่โรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ถึงการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลเตรียมจะยุบสภาว่า จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะรัฐบาลตระหนักถึงหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบที่มีอยู่จำนวนมาก วันนี้หากจะยุบสภาและเลือกตั้งเพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็ไม่รู้ว่าจะยุบสภาไปทำไม เพราะวันนี้สามารถทำหน้าที่เป็นรัฐบาลได้อยู่แล้ว ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาปล่อยข่าวนี้ก็เพื่อเป็นการหวังผลด้านจิตวิทยา และเป็นการสร้างความหวังให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ต่างหวังรอคอยจะเป็นรัฐบาล และจะเป็นการหวังกวาดต้อนคนเสื้อแดงที่เป็น ส.ส.ให้กลับเข้ามาสู่สภา ส่วนสาเหตุที่ปล่อยข่าวนี้ คาดว่าเกิดจากผลการประชุม ก.ต.ช. ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติตั้ง ผบ.ตร.ได้ แต่สามารถทำความเข้าใจได้

ชู"ปทีป"เหมาะเข้าได้"เหลือง-แดง"

นายเทพไทกล่าวว่า สำหรับนายกรัฐมนตรีไม่ได้ปิดโอกาส พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง ผบ.ตร. ที่พยายามพูดถึงความอาวุโสและเสนอตัวเองเข้ามา แต่จะต้องดูที่ความรู้ความสามารถ และความเหมาะสมของสถาการณ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่นายกรัฐมนตรีเสอนชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ซึ่งมีอาวุโสอันดับที่ 2 และเคยรักษาการ ผบ.ตร.ในช่วงสั้นๆ และเป็นที่ยอมรับของคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง จึงน่าจะเหมาะกับสถานการณ์ช่วงนี้ที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ นายเทพไทตอบว่า ไม่มีปัญหา เพราะจากที่ตนได้พูดคุยกับบุคคลทั้งสอง ทราบว่านายสุเทพไม่ติดใจและไม่ได้สนับสนุนใครเป็นพิเศษ โดยมองว่าเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่เลือกบุคคลที่เหมาะสม นายสุเทพไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ เพราะการตัดสินใจเป็นของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หากเลือกใครเข้ามาพร้อมที่จะทำงานด้วย

เดือดสาย"ชวน-บัญญัติ"ถล่ม"สุเทพ"    

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า ผลจากความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพที่ผนึกกำลังกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อ พล.ต.อ.จุมพล แข่งกับ พล.ต.อ.ปทีป ที่นายกฯอภิสิทธิ์สนับสนุน ได้ลุกลามเป็นความขัดแย้งภายในพรรค โดยระดับแกนนำกลุ่มในพรรคหลายคน ไม่พอใจนายสุเทพที่ร่วมมือกับคนนอก ถึงขนาดกล้าหักหน้าหัวหน้าพรรคตัวเอง รวมถึงผู้ใหญ่ในพรรค อย่างนายชวน โดยเริ่มสั่งการให้ ส.ส.ในกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองถล่มนายสุเทพแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า แม้เดิมแต่ละกลุ่มในพรรคจะแยกกันอยู่ แต่พอเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมา ทั้งกลุ่มของนายชวน กลุ่ม ส.ส.ใหม่ที่นิยมในตัวนายอภิสิทธิ์ รวมถึงกลุ่มที่เป็นคู่ขัดแย้งกับนายสุเทพอาทิ กลุ่มทศวรรษใหม่ ของนายบัญญติ บรรทัดฐาน กลุ่มอีสานซีกของนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน แม้กระทั่งกลุ่มของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เดิมที่ยังมีสมัครพรรคพวกอยู่ในพรรค นำโดยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.สงขลา ได้ผนึกกำลังต่อสู้เคียงข้างนายอภิสิทธิ์ รวมถึงต่อต้านนายสุเทพทำให้ขณะนี้นายสุเทพกำลังถูกโดดเดี่ยว ขณะที่มี ส.ส.บางคนไม่พอใจหนัก ถึงขนาดจี้ให้ปลดพ้นเลขาธิการพรรค อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายแล้วคงไม่ถึงขั้นแตกหัก เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมและวินัย จึงน่าจะทำความเข้าใจและเคลียร์กันได้ในที่สุด แต่จำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยระดับผู้ใหญ่คนสำคัญในพรรคเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการขนทีมชุดใหญ่ลงไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ภายในพรรค เพื่อให้เกิดภาพความเป็นเอกภาพภายหลังจากที่เกิดความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพจากปัญหาการเลือกตัว ผบ.ตร.คนใหม่ โดยคำสั่งที่ส่งมาถึง ส.ส.เป็นไปอย่างเร่งรีบ ทำให้เมื่อถึงเวลาจริงเครื่องบินที่ทางการบินไทยจัดไว้ให้ไม่เพียงพอต่อการรองรับ จนต้องเปลี่ยนเครื่องบินเป็นเครื่องบินแอร์บัส เอ 360 ที่ใหญ่กว่าเดิม

สะพัดถกลงตัวชง"ปทีป" 

สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ มีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้ช่วงจังหวะหนึ่งระหว่างการหาเสียง เปิดประชุมกลุ่มย่อยระดับแกนนำ ระหว่างนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายชวน และนายบัญญัติ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ เพราะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวภายในพรรคว่า นายสุเทพไปตกลงผลประโยชน์บางอย่างกับนายเนวิน จนทำให้กล้าหักหน้านายอภิสิทธิ์ในการเลือก ผบ.ตร.ส่วนการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ขณะนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว โดยนายอภิสิทธิ์จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ให้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ในที่ประชุม ก.ต.ช.อีกครั้ง หลังจากที่มอบหมายให้นายนิพนธ์ ไปคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม แต่นายอภิสิทธิ์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเรียกประชุม ก.ต.ช.เมื่อใด โดยให้จับตาสัญญาณการเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 26-27 สิงหาคม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ว่าเมื่อใดที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียกประชุมสภา แสดงว่ามีการเคลียร์ปัญหากันจบสิ้นแล้ว

"มท.1"ปัดหักหน้านายกฯ

ด้าน นายชวรัตน์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น โดยยอมรับว่าในการประชุม ก.ต.ช. เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เพื่อสรรหา ผบ.ตร.คนใหม่ ตนร่วมโหวตคัดค้านบุคคลที่นายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อให้ทำหน้าที่เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ แต่โดยส่วนตัวไม่ถือว่าเป็นการหักหน้า หรือเป็นความขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาในการทำงานที่ย่อมมีความเห็นแตกต่างกันบ้าง ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากการประชุม ก.ต.ช.นัดหน้า นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อบุคคลเดิมเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง จะโหวตคัดค้านอีกหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่อยากให้นายกรัฐมนตรี เสนอบุคคลเข้าร่วมการสรรหาหลายๆ คน เพื่อให้ทาง ก.ต.ช.ได้มีโอกาสคัดเลือกและรับฟังความเห็น

"ชัจจ์"ชัด"มาร์ค"คิดแบบเด็กๆ

ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีปขึ้นเป็น ผบ.ตร. ว่าเมื่อมติกรรมการส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบ โดยไม่เสนอรายชื่อบุคคลอื่นและอ้างว่าไม่ได้เตรียมข้อมูลบรรดารอง ผบ.ตร.คนอื่นไว้นั้นเป็นการกล่าวอ้างแบบเด็กๆ ที่ไม่ได้คนที่ตัวเองต้องการแล้วก็สั่งหยุดหรือเลื่อนประชุมออกไปก่อนเพื่อหาทางวิ่งเต้นล็อบบี้กรรมการคนอื่นๆ ให้มีเสียงข้างมากให้ได้ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่สง่างาม

"ซึ่งความจริงต้องเสนอชื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 ด้วย แต่ที่ไม่เสนอชื่อให้ ก.ต.ช.พิจารณาคงเป็นเพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เป็นพี่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ขอถามว่าอย่างนี้จะมีความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมากลั่นแกล้งกัน" พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว และว่า ต่อไปถ้าญาติพี่น้องนักการเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดขึ้นเป็นใหญ่ ก็จะเกิดการกลั่นแกล้งกันไม่รู้จบ ซึ่งเป็นความคิดแบบเด็กๆ ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ต้องบริหารประเทศชาติบ้านเมือง เพราะการพิจารณาทุกอย่างจะต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรม