ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดการสัมมนาระดับชาติเรื่องอุบัติเหตุจราจรครั้งที่ 9 และบรรยายเรื่อง "ทิศทางนโยบายการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจร" ทั้งนี้พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษาสบ .10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เดินทางมาร่วมงานและต้อนรับนายอภิสิทธิ์ด้วย
ทั้งนี้ตัวแทนเด็กและเยาวชนยื่นข้อเสนอถึงนายอภิสิทธิ์ว่า ขอให้กำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชนเป็นวาระแห่งชาติ ควรมีหลักสูตรการเรียนการสอนในเรื่องนี้ สั่งการให้อบต.ให้มีมาตรการให้เด็กและเยาวชนใช้ถนนอย่างปลอดภัย ผลิตรถจักรยานยนต์ที่เหมาะกับเยาวชน ขอรถประจำทางที่ปลอดภัยราคาถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการทางกฎมายอย่างเข้มงวด และตั้งกองทุนเพื่อความปลออดภัยในการใช้รถและถนน
นายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดงานว่า ปัญหาความปลอดภัยจากการเดินทางนั้น เป็นปัญหาสำคัญของทั่วโลก แต่ละปีมีตัวเลขประมาณการว่า 400 ล้านคนเสียชีวิต และ 50 ล้านคนบาดเจ็บ โดยเป็นเด็กและเยาวชนจำนวนมาก สาเหตุนั้นมาจากระบบขนส่งมวลชนที่ไม่มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย คนเดินถนนและจักรยานยนต์เป็นหลัก โดยเสียหายร้อยละ 1-1.5 ของจีดีพี
ส่วนของประเทศไทยมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจในด้านนี้คือ 7 หมื่นล้านบาทต่อปี จากนั้นจะเพิ่มเป็น 1-2 แสนล้านบาทต่อปีในเร็วๆนี้โดยมันจะเกินร้อยละ 1-1.5 ของจีดีพี ซึ่งตนตั้งไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 1 ของจีดีพี นั้นทราบกันดีว่าแม้จะพยายามทำงานต่อเนื่องและอุบัติเหตุลดลงแต่มันค่อนข้างช้าตั้งเเต่ปี 2547 ความเสียหายก็น่าเป็นห่วง โดยสถิติคนเสียชีวิตในปี 2551 คือ 1.1 หมื่นคน ช่วงปีใหม่และสงกรานต์อัตราเสียชีวิตของประชาชาในช่วงนี้จะมากกว่าช่วงปกติ 2 เท่า
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขอให้ตระหนกตัวเลขข้างต้น แต่มันแปลกเพราะสังคมไทยให้ความสำคัญมากกับการเสียชีวิต เพราะเวลาเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในบางพื้นที่ การชุมนุมที่มีการปะทะและโรคระบาดนั้น สังคมให้ความสนใจกับการเสียชิวิตมาก แต่ความจริงนสถิติระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 30 คนต่อวัน แต่ไม่มีใครสนใจ และตัวเลขผู้เสียชีวิตในไทย 1.1 หมื่นคนต่อปีนั้นมากกว่าสงครามและโรคระบาดเสียอีก ตนไม่อยากให้เป็นสถิติในกระดาษและอยากให้สังคมให้ความสนใจกับค่าชีวิตคน เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายช่วยกันลดและบรรเทาได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนชื่นชมกับผู้ทำงานในทุกด้านของสังคม และหวังว่าทุกคนจะมีกำลังใจทำงานสำคัญนี้ต่อไป ตนเชื่อว่าสิ่งที่จะนำมาใช้ในการให้สำเร็จมากขึ้นคือการสำรวจข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับสาเหตุการสูญเสียที่เกิดขึ้น สังคมไทยมีหลายปัจจัยที่บ่งบอกว่าเป็นเหุตสำคัญในการสูญเสียคือ 1.จากระบบขนส่งสาธารณะ และภายในกทม.ประชาชนใช้ระบบนี้ร้อยละ 30-40 ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ระบบนี้มากกว่าไทยสองเท่าตัว เหตุที่ทำให้การเติบโตของขนส่งระบบสาธารณะล่าช้าและขาดประสิทธิภาพมาตรฐานความปลอดภัย
2. การบาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากจักรยานยนต์ โดย 2 ใน 3 ของจำนวนรถที่วิ่งบนนถนนคือจักรยานยนต์ โดยเป็นเด็กและเยาวชนเสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุด 3. ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายกับผู้มีมีพฤติกรรมเสี่ยง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ฉะนั้นการทำงานที่สำคัญที่ต้องกระทำโดยนำมาจากสถิติคืออุบัติเหตุจะเกิดในเวลาเเละสถานที่ซ้ำ ๆ กัน นอกจากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล อย่างน้อยสุดคือสร้างป้ายจราจรที่ลงทุนน้อยที่สุดแล้ว เมี่อสำรวจลึกในเรื่องนี้จะพบว่า มันมีความสำคัญในการลงทุนเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องรณรงค์โครงการเมาไม่ขับ การใส่หมวกกันน็อคและคาดเข็มขัดนิรภัย การปฏิบัติตามกฎจราจร จะลดอุบัติเหตุลงไปได้มาก
ส่วนมาตรการที่ตนคิดเละเร่งให้เป็นรูปธรรมคือ ต้องมีการปรับปรุงฐานข้อมูลจุดเกิดอุอุบัติเหตุ ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะและระบบราง ที่ปีหน้าต้องเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 30 แต่มาตรการเหล่านี้คงสู้การสร้างจิตสำนึกและความรับผิดชอบทางสังคมของประชาชนไม่ได้ เพราะมันมีความสำคัญในการรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองกระทำที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตามในเวลา 18.30 น. นายกฯมีกำหนดการไปดินเนอร์ทอล์กวันพาณิชย์ และร่วมงานมอบรางวัลรัฐวิส่าหกิจดีเด่น ที่โรงแรมเซนทราแกนด์ แต่นายกฯได้เลื่อนกำหนดไปงานดังกล่าว เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนี้นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นไปพบนายกฯที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว