"เนวิน"พร้อมรับคำตัดสินคดีกล้ายางแล้วแต่ศาล แกนนำพรรคร่วมจับตา"ขรก."จำเลยบางคนเผ่นกลัวโทษติดคุก ส่อทำเลื่อนอ่านคำพิพากษา องค์คณะศาลฎีกาฯ ประชุมลับก่อนตัดสินคดีแต่ละประเด็น ใช้มติเสียงส่วนใหญ่เขียนคำพิพากษากลาง
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา
คดีหมายเลขดำที่ อม.4/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเป็น คชก. นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มโครงการ, นายสรอรรถ กลิ่นปทุม รมว.เกษตรฯ ในฐานะเป็น คชก. และนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะเป็น คชก. และกลุ่มคณะกรรมการบริหารโครงการกำหนดทีโออาร์ และคณะกรรมการพิจารณาผลประกวดราคา, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ในเครือซีพี, บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด และบริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-44 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการ ทรัพย์สินใดใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตเสียหาย แก่รัฐ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.151, 157, 341 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าวันที่ 17 สิงหาคม นายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา
เจ้าของสำนวนคดีพร้อมองค์คณะผู้พิพากษาจะประชุมลับเพื่อพิจารณาลงมติในแต่ละประเด็นว่าผู้พิพากษาแต่ละคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาตามฟ้องหรือไม่ อย่างไร ซึ่งผู้พิพากษาแต่ละคนจะเขียนคำพิพากษาส่วนตัวมาเสนอต่อที่ประชุม แล้วพิจารณาลงคะแนนแล้วเขียนคำพิพากษากลางซึ่งเป็นมติเสียงส่วนใหญ่ขององค์ประชุม และจะอ่านในช่วงบ่ายวันเดียวกันทันที อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีจำเลยคนใดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอเลื่อนฟังคำพิพากษา แต่หากจะมีจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาในช่วงเช้าวันที่ 17 สิงหาคม ก่อนอ่านคำพิพากษา เป็นดุลพินิจขององค์คณะที่จะพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่
รายงานข่าวระดับสูงจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลระบุถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯนักการเมืองจะตัดสินคดีทุจริตกล้ายางที่มีนายเนวิน หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย และแกนนำพรรคภูมิใจไทย
หลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวนั้นว่า มีการประเมินว่าศาลอาจจะเลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยมาฟังคำพิพากษาไม่ครบ 44 คน เพราะอาจจะมี 1 ใน 44 คน หนีการตัดสิน คาดว่าจะเป็นข้าราชการระดับล่างหรือข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เนื่องจากกลัวโทษจำคุก หากศาลตัดสินว่าผิด ทั้งนี้ อาจจะมีการล็อบบี้จากนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่จะให้คนดังกล่าวหนีเพื่อหวังให้ศาลต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปอีก 1 เดือน
เนวินพร้อมรับคำตัดสินคดีกล้ายางไม่หนี
เวลา 17.30 น. ที่ศูนย์ประสานที่ทำการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) จ.นนทบุรี ของนายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ส.ส.นนทบุรี พรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานในพิธีเปิดที่ทำการพรรคและร่วมงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 56 ปี ของนางพิมพา จันทร์ประสงค์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มารดาของนายมานะศักดิ์ นายชวรัตน์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณี หากนายเนวินถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีทุจริตกล้ายางว่า พรรคเตรียมการพร้อมไว้อยู่แล้ว จะเดินเป็นก้าวๆไป ด้านนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันว่าหากนายเนวินติดคุกจะมีการขออภัยโทษหรือไม่ เบื้องต้นคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่านายเนวินจะไปรับฟังคำตัดสินคดีทุจริตกล้ายางในวันที่ 17 สิงหาคมอย่างแน่นอน
เวลา 18.00 น. นายเนวินมาร่วมงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยนายเนวินตรงเข้าสวมกอดนางพิมพาพร้อมทั้งอวยพรวันเกิด
จากนั้นกล่าวว่า ตนไปไหนไม่ได้ เพราะศาลมีคำสั่งมาแล้วให้ไปฟังคำพิพากษาและผู้ต้องหาทั้งคดีหวยบนดินและคดีกล้ายางจะไปต่างประเทศต้องขออนุญาตศาล หากศาลมีคำสั่งจึงจะออกนอกประเทศได้ ดังนั้นข่าวที่ปรากฏว่า ไปโน่นนี้จึงไม่เป็นความจริง ในวันที่ 17 สิงหาคมจะไปตามคำสั่งศาลในเวลา 14.00 น.
เมื่อถามว่า หากศาลตัดสินจำคุกจริงๆ ได้หารือแนวทางขอยื่นถวายฎีกาหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ไม่เคยคุย เพราะจะทำทุกอย่างด้วยความสุจริต ทุกอย่างแล้วแต่คำพิพากษา
เมื่อถามว่า เกรงว่าผู้มาให้กำลังใจจะปะทะกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ไม่มีการจัดตั้งใดๆทั้งสิ้น ส่วนใครจะมาไม่ทราบคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อศาลพิพากษาผลจะออกมาเป็นอย่างไร คนที่สนิทกันสามารถฟังคำตัดสินของศาลที่บ้านได้ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองไม่ต้องมาก็ได้
“ใครที่รักผม เป็นพรรคพวกของผมไม่ต้องมาเพื่อความสงบของบ้านเมือง หลายๆฝ่ายจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะตำรวจจะได้ไม่ต้องมาดูแลหรือทุกข์ใจ ส่วนการที่เสื้อแดงจะมายื่นฎีกาวันเดียวกันผมไม่รู้สึกอะไร เจตนาเป็นอย่างไรเชื่อว่าสาธารณชนตัดสินเองได้ ”นายเนวินกล่าว
เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุพรรคภูมิใจไทยจะเดินต่อไปอย่างไร นายเนวิน กล่าวว่า อะไรคืออุบัติเหตุ เมื่อถามย้ำว่าหากศาลตัดสินจำคุกพรรคจะเดินต่อได้หรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด
ด้านนายเจษฎา อนุจารีย์ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการสภาทนายความ ซึ่งเป็นทนาย ความ ป.ป.ช.รับผิดชอบยื่นฟ้องคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายาง กล่าวว่า ไม่เป็นห่วง และไม่รู้สึกกังวล ส่วนจำเลยทั้ง 44 คน จะเดินทางมาครบหรือไม่ ก็ต้องรอดู อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ นายเจษฎากล่าวว่า มั่นใจ 100% ที่จะชนะคดี อย่างไรก็ดี
ถ้าแม้ศาลจะพิพากษายกฟ้อง ก็ไม่กระทบกับคดีอื่นที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สรุปสำนวนและยื่นฟ้องคดีเอง เพราะแต่ละคดีมีพฤติการณ์ ข้อเท็จจริงที่แตกต่าง เมื่อถามถึงการยื่นอุทธรณ์หากศาลพิพากษายกฟ้อง นายเจษฎากล่าวว่า แม้ตามรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติให้ยื่นอุทธรณ์คดีได้ แต่ตามกฎหมายระบุไว้ว่าต้องเป็นกรณีที่มีพยานหลักฐานใหม่ และหากศาลพิพากษายกฟ้อง แล้วจะมีจำเลยใช้สิทธิยื่นฟ้องกลับคดีอาญาและแพ่งกับ คตส. หรือ ป.ป.ช.นั้น ก็ไม่ห่วง เนื่องจากทำตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายขณะนั้นให้อำนาจไว้
"ปัจจุบันการทุจริตคอร์รัปชั่น พัฒนาเปลี่ยนวิธีการแตกต่างจากเดิมที่นักการเมือง เคยใช้อำนาจบริหารกินค่าหัวคิว หักเปอร์เซ็นต์ จากโครงการเป็นการทุจริตเชิงนโยนบาย ที่ใช้อำนาจออกนโยบาย ออกกฎหมาย เปลี่ยนแปลงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มารองรับการทุจริต ซึ่งหากกระบวนการยุติธรรมตามเรื่องนี้ไม่ทัน ก็คงจะตามจับนักการเมืองที่ทุจริตไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าผลคดีจะออกมาในทางใด ก็จะนำมาศึกษาเป็นบรรทัดฐานได้ เช่นเดียวกับหากมีนักการเมืองหลบหนีคดี ก็ช่วยให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัว สร้างพัฒนาการในการหาวิธีการและช่องทาง ตามจับตัวมาได้" นายเจษฎากล่าว