นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า
ก่อนที่จะมีการยื่นฎีกา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินมาเวลา 11.00-11.30 น.ที่ท้องสนามหลวง เพื่อกล่าวสุนทรพจน์นาน 40 นาที โดยจะพูดเกี่ยวกับสาเหตุที่ประชาชนจะต้องยื่นฎีกาและเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณจะนำร้องเพลงสดุดีมหาราชา โดยจะโฟนอินตรงมาจากดูไบ หลังจากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น.จะมีการจัดริ้วขบวน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย ขบวนธงชาติ ธงธรรมจักร ขบวนกลุ่มสังฆสามัคคี ขบวบผู้ถือฎีกา จำนวน 10 คน ซึ่งนำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ และอดีตข้าราชการชั้นสูง และตามด้วยขบวนประชาชนทั่วไป ซึ่งผู้นำขบวนที่จะยื่นฎีกา จะไม่มีครอบครัวชินวัตร
นายวีระ เปิดเผยว่า แกนนำที่จะเดินทางไปยื่นฎีกา จะมีตนนายมานิต จิตรจันทร์กลับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ พ.ต.ท.สมศักดิ์ สายบัว นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย เป็นต้น หลังจากที่มีการยื่นฎีกาแล้ว ก็จะมีการสลายตัวสนามหลวงแต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของเสื้อแดง ก็ยังมีอยู่ แต่จะไม่มีการพูดถึงเรื่องการยื่นถวายฎีกาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามหลวง เมื่อเวลา 08.00 น.
พบว่า ประชาชนทยอยเดินทางมาชุมนุมกันอย่างคึกคัก โดยผู้ที่มาจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะเดินทางมาโดยรถบัส สำหรับบริเวณหน้าเวทีมีการชุมนุม เริ่มมีประชาชนแน่นขนัดแล้ว ส่วนด้านซ้ายของเวที ฝ่ายจัดการชุมนุมได้นำรั้วมากั้น เพื่อจัดเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมขบวนถวายฎีกา ส่วนด้านหลังเวทีได้เตรียมรายชื่อใส่ห่อผ้าสีแดงไว้ ห่อละประมาณ 1 หมื่นชื่อ วางกองไว้จำนวนมาก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ประกาศบนเวทีว่า ในเวลา 08.30 น.จะมีขบวนเสด็จของสมเด็จพระเทพ ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมร่วมกันถวายบังคม
และงดใช้เสียงซักระยะหนึ่ง และขออย่าให้ผู้ชุมนุมข้ามไปบริเวณฝั่งศาลฎีกา เพราะมิฉะนั้น อาจถูกนำมาเป็นข้ออ้าง ในการเลื่อนพิจารณาคดีกล้ายาง และหากคนแน่นสนามหลวงจริง ขอให้ล้นไปทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์