อภิสิทธิ์สั่งวิเชียรคุมเข้มม็อบเสื้อแดง

คมชัดลึก :นายกฯ"อภิสิทธิ์" สั่ง "วิเชียร" ดูแล "ม็อบแดง-เหลือง" หวั่นปะทะ ย้ำฎีกาไม่เข้าข่ายก็หมดสิทธิ


(15ส.ค.) เวลา 11.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความเรียบร้อยวันที่ 17 สิงหาคม ที่กลุ่มเสื้อแดงจะยื่นถวายฎีกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจะตัดสินคดีกล้ายาง ว่า ได้คุยกับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร.เพื่อประสานให้ดูเรื่องเวลาและสถานที่ไม่ให้เกิดการปะทะกัน อย่างไรก็ตามต้องยืนยันกับทุกกลุ่มว่าอย่าทำอะไรให้เกิดความรุนแรง ให้เกิดปัญหากับบ้านเมือง เพราะสุดท้ายประชาชนและประเทศจะเดือดร้อน การมาใช้สิทธิอะไรต่างๆ ในขอบเขตของกฎหมายก็ทำได้อยู่แล้ว แต่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มอื่นๆ
 
 เมื่อถามว่ามีรายงานอะไรหรือไม่ เพราะสถานที่ของทั้งสองกลุ่มใกล้กันมาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ติดตามอยู่ ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามประสานว่าจะทำอย่างไร ซึ่งเข้าใจว่าเวลาของทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกันเสียทีเดียว ดังนั้นก็ต้องพยายามทำอย่างไรไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน เมื่อถามว่าจากการประสานกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมรับปากหรือไม่ว่าจะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำงานในการที่จะพูดคุยอยู่
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า รักษาการ ผบ.ตร.ให้คำยืนยันหรือไม่ว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป และในเบื้องต้นรักษาการ ผบ.ตร.บอกว่ายังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนมาที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ตนต้องขอย้ำอีกครั้งว่าขอให้การเคลื่อนไหวอยู่ในขอบเขต ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินไปข้างหน้าอย่าให้มีปัญหาที่จะต้องสะดุด ทุกอย่างในทางการเมืองขอให้อยู่ในกรอบขอบเขตของกฎหมาย
 
 เมื่อถามถึงข้อเท็จจริงที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าได้ประสานกับทางสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องเวลาในการยื่นคงเป็นเรื่องที่เขาเป็นคนประสานกัน ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการโดยปกติแล้วทางสำนักราชเลขาธิการก็จะพิจารณาเบื้องต้นก่อนจากนั้นก็จะส่งมาที่รัฐบาล โดยให้กระทรวงยุติธรรมดูในเรื่องของข้อกฎหมาย เนื้อหาของฎีกาและเรื่องต่างๆ
 
 เมื่อถามว่ากลุ่มบ้านเลขที่ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะมาเป็นผู้นำการยื่นถวายฎีกาให้คนเสื้อแดงจะมีผลอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าถ้าเป็นการขออภัยโทษก็ต้องเป็นเจ้าตัวหรือครอบครัว ที่มีความเดือดร้อนโดยตรง หากไม่เข้าเกณฑ์ตามนี้ก็จบ ไม่ได้เกี่ยวว่าจะมีจำนวนคนมากน้อยแค่ไหนที่มาลงชื่อถวายฎีกา หรือคนที่มายื่นมีชื่อเสียงหรือไม่ ส่วนถ้าเป็นเรื่องฎีกาอื่นๆ ที่เป็นความเดือนร้อนก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันคือพิจารณาตามข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์
 
 เมื่อถามว่า หากการถวายฎีกามาถึงขั้นตอนของรัฐบาลแล้ว จะใช้เวลาดำเนินการมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลคงต้องขอดูเนื้อหาสาระ วิธีการยื่นถวายฎีกาและรายละเอียดทั้งหมดก่อน อย่างไรก็ตามเท่าที่ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย เพราะต้องเป็นเจ้าตัวหรือครอบครัวเป็นผู้ยื่นถวายฎีกา แต่ถ้าเป็นเรื่องถวายฎีกาความเดือดร้อนทั่วไป เหมือนกับที่เวลาชาวบ้านมีปัญหาเราก็จะมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 
 เมื่อถามว่า การถวายฎีกาไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาและดำเนินการใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็จะชี้แจงกลับไปว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งปกติแล้วเมื่อสำนักราชเลขาธิการรับฎีกามาแล้วจะทำเรื่องของความคิดเห็นจากรัฐบาล
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาจะทำให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกว่าถ้าแต่ละฝ่ายหรือใครก็ตามที่อยากแสดงออก แสดงความคิดเห็น ขอให้อยู่ในขอบเขตก็จะไม่เป็นปัญหา เมื่อถามว่าข้าราชการบางคนอึดอัดที่ถูกบังคับมีการตั้งโต๊ะลงชื้อคัดค้านการ ถวายฎีกาและอาจจะมีผลกับการแต่งตั้งโยกย้ายด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของความสมัครใจของประชาชน คงไม่มีการไปทำอย่างนั้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์