กรุงเทพธุรกิจ
28 สิงหาคม 2549 19:00 น.
ตำรวจแถลงข่าวความคืบหน้าคดี ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ผู้ต้องหามีวัตถุระเบิด หวังลอบสังหารนายกรัฐมนตรี โชว์เทปบันทึกภาพการสอบปากคำ แต่เสียงขาดๆหายๆ ลั่นอีก 10 วันจับผู้บงการ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ในวันนี้ (28 ส.ค.) พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ที่มี ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ผู้ต้องหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยการนำวัตถุระเบิดชนิดต่าง ๆ บรรทุกไว้ในรถแดวู และจอดทิ้งไว้บริเวณห่างจากแยกบางพลัด ประมาณ 300 เมตร มุ่งหน้าขึ้นสะพานกรุงธนบุรี หมายสังหารระหว่างขบวนรถ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขับผ่าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ ได้เบิกตัว ร.ท.ธวัชชัย ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าทนายความ และนายทหารพระธรรมนูญ โดยมีการสอบถามถึงความเป็นอยู่ภายในห้องคุมขัง โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขับรถคันก่อเหตุจริง ซึ่งรถคันดังกล่าวแนวทางการสืบสวนพบแล้วว่าผ่านผู้ครอบครองมาแล้ว 4 คน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญสาวไปถึงผู้บงการได้แล้ว เชื่อว่าจะขออนุมัติหมายค้นและหมายจับได้ภายใน 10 วันนี้
พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความละเอียดรัดกุมที่สุด และขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงคำรับสารภาพของผู้ต้องหาว่า ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อแดวู หมายเลขทะเบียน ฐฉ 3085 ตั้งแต่วันที่ 22-24 สิงหาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งยังขับไปที่ บน.6 ระหว่างวันที่ 9 และ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่รถนำขบวนของนายกรัฐมนตรีเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา คงต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการแถลงข่าว พนักงานสอบสวนได้นำเทปบันทึกภาพการสอบสวนผู้ต้องหาต่อหน้าทนายความ นายทหารพระธรรมนูญ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 ส.ค.) มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เสียงของผู้ต้องหาขาดหายไปบางช่วง ซึ่งเป็นคำพูดที่สำคัญ เช่น คำตอบว่าในรถมีวัตถุระเบิดหรือไม่
ส่วนเสียงคำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ได้ยินชัดเจนก็คือ รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าอานุภาพของแรงระเบิดจะรุนแรงระดับไหน มารู้ก็ต่อเมื่อถูกจับกุมและตำรวจบอกให้ทราบ พร้อมยอมรับผิดและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้ถูกบังคับให้พูดหรือรับสารภาพ