แดงยื่นฎีกาสนธิหวั่นสร้างสถานการณ์

คมชัดลึก : “สนธิ” ระบุคนเสื้อแดง-คนเสื้อน้ำเงินเชียร์เนวินล้วนจัดตั้งหวั่นสร้างสถานการณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย เตรียมตั้งเต้นท์ หน้าโรงหนังเมเจอร์ รังสิต – ปล่อยขบวนรถกะบะ กระจาย 7 อำเภอ ปทุมธานี รณรงค์ลงชื่อคัดค้านถวายฎีกา เที่ยงพรุ่งนี้ 15 ส.ค. มทภ.1 เชื่อตร.รับมือม็อบเสื้อแดงไหว ทหารพร้อมในที่ตั้ง มั่นใจไม่รุนแรง “สนธิ”พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่

(14 ส.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมยื่นรายชื่อประชาชนถวายฎีกาให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 ส.ค. วันเดียวกันจะมีการตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวิน ชิดชอบ แนวโน้มจะมีการปะทะกันระหว่างคนเสื้อแดงกับคนเสื้อสีน้ำเงินหรือไม่นั้น ว่า ตนไม่ทราบ ส่วนตัวมีความรู้สึกว่า เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินไปนี้ได้ถูกกำหนดวางแผนจากเสื้อแดง และเสื้อน้ำเงินไว้ด้วยกัน ดังนั้นจะไม่ประหลาดใจถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนจะเหมือนกับเหตุการปะทะที่เกิดขึ้นที่พัทยาหรือไม่นั้น ก็ไม่มีความเห็นเช่นกัน แต่สิ่งที่กลัวอาจจะมีการปะทะกันหรือมีการสร้างสถานการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น ทั้งนี้จะเพื่ออะไรนั้นก็ไม่ทราบ หรืออาจจะเป็นการล้างอะไรบางอย่างที่ยังคงค้างอยู่ในศาลหรือ ป.ป.ช.

ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภูมิใจไทยเตรียมรณรงค์ค้านวันพรุ่งนี้

  นายอธิวัฒน์ สอนเนย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 15 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ตนและประชาชน จ.ปทุมธานี ที่ไม่เห็นด้วยกับการรวบรวมรายชื่อประชาชนถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะตั้งเต้นท์ที่บริเวณ หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ฝั่งตรงข้ามตลาดรังสิต เพื่อให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง  ได้มาร่วมลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา โดยจะมีคนสวมเสื้อน้ำเงินปกป้องสถาบันประมาณ 500 คนมาร่วมรณรงค์ด้วย

 นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า การรณงค์จะมีการแจกเอกสารและสติ๊กเกอร์ 4 รูปที่พรรคภูมิใจไทยได้เคยนำไปแจกให้ประชาชนมาแล้ว ขณะที่การตั้งเต้นท์จะดำเนินการเพียง 1 วันเท่านั้น นอกจากนี้ในวันเดียวกัน เวลา 12.00 น. จะมีการปล่อยขบวนรถกะบะ ติดเครื่องขยายเสียง จำนวน 14 คัน เพื่อขับรณรงค์คัดค้านการถวายฎีกา ตามอำเภอในเขตจังหวัดปทุมธานี  7 อำเภอ ๆ ละ 2 คัน โดยจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในจังหวัดปทุมธานี ที่ไม่เห็นด้วย สามารถไปร่วมลงชื่อคัดค้านที่เต้นท์หน้า ที่ว่าการอำเภอแต่ละแห่ง  คาดว่าจะมีคนมาร่วมลงชื่อคัดค้านถวายฎีกาประมาณ 2,000 คน

 นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า การรณรงค์นี้กระทำในฐานะที่เป็นประชาชน จ.ปทุมธานี คนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา ซึ่งการรณรงค์ก็จะดำเนินไปเพื่อรวบรวมรายชื่อให้ฝ่ายที่ต้องการถวายฎีกา เห็นว่า ยังมีประชาชนใน จ.ปทุมธานี อีกส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย

มทภ.1 เชื่อตร.รับมือม็อบเสื้อแดงไหว

 พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเตรียมชุมนุมใหญ่และจะยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า หน้าที่หลักเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ได้มีการร้องขอกำลังมายังกองทัพมีเพียงแต่การประชุมร่วมกันเท่านั้น ทั้งนี้จากการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บชน.)มีการประชุมกัน ประเมินว่า ตำรวจสามารถรับมือและดูแลสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามหากตำรวจมีการร้องขอกำลังมา ทางทหารก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพราะเรามีการเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง ซึ่งเชื่อว่า เหตุการณ์การชุมนุมและยื่นถวายฎีกาครั้งนี้จะไม่บานปลาย

 “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ เพียงแต่ท่านให้ติดตามสถานการณ์เท่านั้น ทั้งนี้ เรามีการเตรียมแผนเผชิญเหตุเหมือนปกติที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินไม่น่ามีเหตุการณ์อะไรรุนแรง แต่ที่ยังมีความเป็นห่วงคือ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีการตัดสินพิพากษาคดีทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพาราที่มีนาย เนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นจำเลย เราจึงต้องดูว่า มีผู้ชุมนุมมาสมทบด้วยหรือไม่ หากไม่มีก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร ทั้งนี้เชื่อว่า จะไม่มีกลุ่มมือที่สามจะเข้ามาสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด” แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

"พท.”จวก พวกค้านถวายฎีกาเพราะกลัวเสียอำนาจ

 นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงกลายเป็นการล่ารายชื่อคัดค้านถวายฎีกาฯ ที่ไม่รู้ว่าจะนำไปยื่นที่หน่วนงานใด ทั้งนี้เชื่อว่าวันที่ 17 ส.ค.เหตุการณ์จะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะคนที่จะไปถวายฎีกาเมื่อเสร็จสิ้นจะแยกย้ายกันกลับ แต่ยังห่วงว่าจะมีคนบางกลุ่มจ้องสร้างสถานการณ์หรือไม่ ส่วนการล่ารายชื่อคัดค้านการถวายฎีกานั้น สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวที่จะเสียโอกาสทางการเมืองของคนบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความสงบในสังคม

“สนธิ”พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่

 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงโพลของพันธมิตรที่ระบุต้องการให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ว่า สุดแล้วแต่สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ เมื่อสมาชิกพรรคทำตามกฏหมาย หากมีสมาชิกพรรคครบ 5,000 คน ก็จะมีการจัดการประชุมเลือกหัวหน้าพรรค ถ้าจะเลือกตนย่อมเป็นสิทธิของสมาชิก เรื่องโพลถือว่า ไม่มีความหมาย ซึ่งตนได้ฝากชีวิตไว้ที่พี่น้องชาวพันธมิตรไปหมดแล้ว ถ้าต้องการจะให้ทำงานทางการเมืองให้ ก็เต็มใจที่จะทำให้ ถ้าพวกเขาต้องการ

พธม.สัมมนาพรรคเน้นซื่อสัตย์เสียสละกล้าหาญทำงานเป็น

 เมื่อเวลา 9.00 น. ที่โรงแรมริเวอร์ไซค์ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “จัดทัพการเมืองใหม่” มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่จาก 39 จังหวัด แบ่งเป็น 4 ภาค ประมาณ 200 คน ทั้งนี้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ โดยมีการแจกเอกสารข้อบังคับพรรคการเมืองใหม่ และกฎหมายที่ควรทราบให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน
 
 นายสมศักดิ์ หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ไม่เหมือนกับกรอบแนวทางที่พรรคการเมืองใหม่ได้วางไว้ คือ ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ ทำงานเป็น และมีพันธกิจที่จะขับเคลื่อนไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งคนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ต้องเป็นผู้ที่รู้กฎหมายและข้อบัญญัติของพรรคการเมืองใหม่ ถือได้ว่า พรรคการเมืองใหม่ เป็นพรรคที่มีความหลากหลายของประชาชนทุกระดับชั้น การคัดเลือกสมาชิกพรรคถือว่าเป็นการหล่อหลอมคนดีเข้าสู่พรรคการเมือง
 
 ด้านนายสนธิ กล่าวว่า หลังปี 2475 ภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พรรคประชาธิปัตย์ได้เกิดจากกลุ่มอำมาตย์ ระบบศักดินา ช่วยกันสร้างพรรคเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง ไม่ได้สร้างเพื่อมวลชน ขณะเดียวกันได้สร้างมโนภาพให้สังคมเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนชั้นกลาง จึงทำให้พรรคไทยรักไทย ต้องเน้นไปในชนชั้นรากหญ้าแทน แต่การก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่เป็นการหลอมรวมทุกชนชั้นเข้าด้วยกันขึ้นมาเป็นพรรคการเมืองใหม่ โดยมีกุญแจสำคัญของพรรคคือความเสียสละ ทั้งในเรื่องของเวลา และเงินบางส่วนเพื่อส่วนรวม
 
 “การเสียสละแล้วไม่เดือดร้อน เสียสละในการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เสียสละความขัดแย้งส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ส่วนความซื่อสัตย์ คือซื่อสัตย์กับตัวเองที่มาร่วมอุดมการณ์เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ และความกล้าหาญ เป็นความกล้าที่จะยืนอยู่บนความถูกต้อง โดยไม่หวั่นเกรง ซึ่งต้องมีความศรัทราเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ รวมถึงต้องทำงานเป็นดำรงวิสัยทัศน์ของพรรคการเมืองใหม่เอาไว้ในสายเลือด จึงขยับขยายวิสัยทัศน์นี้ออกสู่สังคมให้เป็นที่รู้จักทั่วกัน” นายสนธิ กล่าว
 
 นายสนธิ กล่าวต่อว่า สมาชิกของพรรคการเมืองใหม่ต้องความอดทน ถึงแม้ว่า พธม.จะเหลือแค่ 5 แกนนำ แต่จะยืนอยู่บนความเสียสละ และที่สำคัญต้องเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง จึงจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสังคมได้