ความคืบหน้าการแต่งตั้งรักษาราชการแทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ที่ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง สั่งให้ไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 12-18 สิงหาคมนั้น ล่าสุดมีรายงานข่าว จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 188/2552 ลงวันที่ 11 สิงหาคม เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน
โดยระบุว่า โดยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีราชการสำคัญเกี่ยวกับการสืบสวนสอบคดีต่างๆ อันสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และเตรียมความพร้อมในการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยทั้งสองกรณีเป็นเรื่องที่อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ ความสงบและสวัสดิภาพของประชาชน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและต่างประเทศ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) มีบัญชาให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปกำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 12-18 สิงหาคม 2552
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
ในช่วงเวลาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่สามารถกลับมาปฏิบัติราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 72 (1) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็นรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามความในมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12-18 สิงหาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 75 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ใจความว่า ให้ผู้รักษาราชการแทนตามมาตรา 72 มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอำนาจหน้าที่อย่างใด ให้ผู้รักษาราชการแทนมีอำนาจและหน้าที่เป็นกรรมการหรือมีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งนั้นในระหว่างที่รักษาราชการแทน การสั่งให้รักษาราชการแทนให้มีผลนับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่และให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองหรือตำแหน่งผู้ช่วยพ้นจากความเป็นผู้รักษาราชการแทนนับแต่เวลาที่ผู้ได้รับแต่งตั้งเข้ารับหน้าที่ ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปแล้วในระหว่างเป็นผู้รักษาราชการแทน