มาร์คโต้ครหาจุ้นโผโยกย้ายตร.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ ซ.สวัสดี สุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรีเข้ามายุ่งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมากเกินไป ว่า

ตนไม่ได้ยุ่งอะไรกับโผตำรวจเลย ตนมีหน้าที่เดียวคือให้คดีมันเดินได้ ตรงนี้ชัดเจน เรื่องตำรวจมี2ประเด็นเป็นเชิงนโยบาย ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล คือ การโยกย้ายแต่งตั้งเนื่องจากมีความคาบเกี่ยวกับเรื่องของการปรับโครงสร้างของส.ตช.ใหม่ ตนได้ให้เขาระมัดระวังเรื่องข้อกฎหมาย

     “เหตุผลที่ผมต้องทำอันนี้ผมบอกตรงๆเลย เพราะว่าที่ผ่านมาผมนั่งเป็นประธานก.ตช.อยู่ หลายครั้งเห็นความไม่รอบคอบในเรื่องของกฎหมาย เสนอเรื่องเข้ามาในก.ตช. 2 ครั้งที่ผมเห็นว่าขัดต่อกฎหมาย และสุดท้ายก็ต้องยับยั้งไป เพราะฉะนั้นไม่อยากให้เกิดปัญหาอย่างนี้ เพราะรัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย และอีกเรื่องคือมาซ้อนกับการโยกย้ายแต่งตั้งประจำปี จุดของผมก็คือว่าต้องคิดถึงอนาคต เรากำลังจะมีผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของสำนักงานตำรวจ ถ้าเราไปทำอะไรไว้และคนที่เขาเป็นผู้บริหารใหม่เข้ามาและเขาบริหารงานไม่ได้ งานมันก็เสียหายเท่านั้นเองครับ ผมไม่ได้ไปดูเลยว่าตัวบุคคลใครเป็นใคร สองเรื่องนี้เท่านั้นที่ผมดูแลให้เรียบร้อย และไม่ต้องการให้กระบวนการตรงนี้ไปข่มขวัญคนที่เขาทำคดี เพราะคนที่เขาทำคดีเขากลัวเรื่องนี้ ว่าถ้าทำคดีไปแล้วว่ามีเสียงพูดกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ว่าเขาจะถูกลงโทษอะไรต่างๆ ผมก็บอกว่าต้องไม่มีของพวกนี้ แต่ผมไม่ได้ไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคลครับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

     ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ดูเหมือนกับว่านายกฯใส่ใจกับคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะมากเกินไป นายกฯ กล่าวว่า

ไม่หรอก เพราะตนมีความสนใจอยู่ 3-4 คดีที่ตนติดตาม แต่บังเอิญสื่อสนใจคดีนั้นเป็นพิเศษ มีคดีเรื่องอื่นอีกที่ตนต้องติดตามเนื่องจากเป็นผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งถ้าไม่สามารถเดินหน้าได้เป็นอย่างดีแล้วมันจะเสียหายต่อส่วนรวม

     เมื่อถามว่า คดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพธม.คืบหน้ามาก นายกฯพอใจกับการทำงานของทีมพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า
 
ตนพอใจในระดับหนึ่ง เพราะคิดว่ามันยังมีมากกว่านี้ เมื่อมีมากกว่านี้ก็ต้องให้เขาเดินต่อ เมื่อถามว่า มีการออกหมายจับแล้วแต่ยังไม่สามารถจับกุมได้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องพยายามจับให้ได้ และต้องพยายามขยายผล

     ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องตำรวจนั้นนายกฯจะกำชับคนรอบข้างไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แทรกแซง หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า

ก็ชัดเจนว่าอย่าเข้าไปยุ่ง หรือเรื่องการเมืองจะเข้าไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคลนั้นไม่สมควร แต่ตนดูในเชิงนโยบายเท่านั้นว่าอย่าไปทำอะไรผิดกฎหมาย ต้องท้วงติงกัน เช่น เรื่องคุณสมบัติก็ต้องท้วงติงกันไปว่า ไปยกเว้นรวมๆไม่ได้ กฎหมายเขาบอกให้ยกเว้นเฉพาะราย