คมชัดลึก :ปลด "ปณิธาน" พ้นโฆษกรัฐบาล เหลือตำแหน่งรองเลขาฯ นายกฯ ทาบ "อภิรักษ์" เสียบแทน ด้าน กกต.นัดลงมติเชือด 44 ส.ส.ถือหุ้น 18 ส.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร เข้ามาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ซึ่งขณะนี้ผ่านมาเกือบ 8 เดือน การทำหน้าที่ในฐานะโฆษกรัฐบาลไม่ได้ช่วยรัฐบาลประชาสัมพันธ์ผลงานได้เท่าที่ควรจะเป็น นอกจากนั้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับการตอบโต้และชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองต่างๆ ให้แก่รัฐบาล ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการหารือกันจนกระทั่งตัดสินใจที่จะปลดนายปณิธานออกจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหลือเพียงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ปรึกษากับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่นายอภิสิทธิ์ได้ขอให้นายชวนดึงตัวนายปณิธานมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ที่มีนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายปณิธาน ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่สามารถตอบโต้และชี้แจงทางการเมืองได้ ทั้งนี้นายปณิธานยอมรับที่จะออกจากตำแหน่งดังกล่าว เหลือเพียงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ขณะที่นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รับจะเป็นผู้ไปทาบทามนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตผู้ว่าฯ กทม.
มารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่นายอภิรักษ์ขอเวลาตัดสินใจระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากนายอภิรักษ์ไม่สนใจตำแหน่งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับปากกับนายปณิธานว่า จะขอความเห็นจากนายปณิธานเพื่อให้เสนอชื่อบุคคลอื่นมาพิจารณา
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนคำร้องการถือครองหุ้นสื่อและหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐของ 44 ส.ส.ว่า
คณะกรรมการไต่สวนฯ ได้พิจารณาและสรุปสำนวนก่อนที่จะส่งมาให้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยจะนำสำนวนดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในวันที่ 11 สิงหาคม ก่อนที่จะสำเนาสำนวนผลการสอบสวนแจกให้ กกต.อีก 4 คน ไปศึกษาเป็นเวลา 7 วัน หากไม่มีปัญหาขัดข้อง ก็คาดว่าจะสามารถลงมติได้ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ แต่หากมีอะไรเพิ่มเติม กกต.อาจเลื่อนวันลงมติออกไป แต่จะใช้เวลาให้น้อยที่สุดเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญจึงต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว
"ยืนยันว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับการพิจารณา 16 ส.ว. และ 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่าดำเนินการสองมาตรฐาน" ประธาน กกต.กล่าว