มาร์คยังตามแม้ว

ไม่รู้เป็น ความล้มเหลวของฝ่ายพีอาร์ หรือบุคคลที่มีบทบาทจัดการด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลภายใต้การนำของ “นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ยังมือไม่ถึง หรือเป็นเพราะนายกฯ อยากให้รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ออกมาในลักษณะเรียบ ๆ เน้นพูดแต่เรื่องการทำงาน ไม่คำนึงถึงการ ตอบโต้ทางการเมือง
   
ทำให้ระยะหลังผมได้ยินเสียงบ่นปนความรู้สึกผิดหวังจากหลายคนในทำนองว่า

รายการที่มีบุคคลระดับผู้นำประเทศออกมาใช้สื่อของรัฐทุกเช้าวันอาทิตย์ เป็นรายการน่าเบื่อแห่งปี เรตติ้งและความนิยมไม่พุ่งกระฉูดเหมือนกับรายการ “สนทนาประสาสมัคร” หรือ รายการ “นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน” ผมว่าทีมงานของนายกฯ ต้องลองกลับไปคิดดูแล้วละครับว่า สมควรต้องมีการปรับปรุงรูปแบบรายการหรือไม่ หรือทำอย่างไรให้ชาวบ้านกลับมาให้ความสนใจ
   
แถมผลสำรวจของ “เอแบคโพล” ในหัวข้อ “เสียงของสาธารณชนต่อดัชนีความเป็นผู้นำ” ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกับ “พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ยังสอดคล้องกับความเห็นแกนนำ พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเคยทำงานร่วมกับอดีตนายกฯ และผู้นำรัฐบาลคนปัจจุบัน โดยบอกกับผมตรง ๆ ว่า 6 เดือนที่ผ่านมา “หนุ่มมาร์ค” ยังสู้ “ผู้ใหญ่แม้ว” ไม่ได้
   
ทั้งเรื่องการตัดสินใจและความรวดเร็วในการทำงาน เพราะบุคคลที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ต้องมีทีเด็ดทีขาดในการตัดสินใจ หรือมีความรวดเร็วในการทำงาน
   
ฟังอย่างนี้นายกฯ ของผมอย่าเพิ่งท้อนะครับ ยังมีเวลาพอที่จะปรับตัว เชื่อเถอะบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่กล้าเทสำรับข้าวทิ้ง หรอกครับ งบประมาณกำลังจะคลอดออกมา เดือน ส.ค.-ก.ย. จะมีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ใครเป็นรัฐบาลก็อยากมีอำนาจจัดการเรื่องนี้ทั้งนั้นละครับ
   


ลองมาดูซิครับ “เอแบคโพล” ว่าอย่างไร ความจริงเขาสำรวจ ดัชนีความเป็นผู้นำของนายกฯ อภิสิทธิ์กับอดีตนายกฯ ทักษิณทั้งหมด 18 ประเด็น ผมขอหยิบยกมาแค่สองหัวข้อ และดูเหมือน จะตรงกับความเห็นของ “ตัวจริง เสียงจริง” ที่มีอำนาจอยู่ในฝ่ายบริหารขณะนี้ จากการเปรียบเทียบระหว่างคนอยู่ในอำนาจ กับคนอยากจะหวนคืนสู่อำนาจ
   
ในหัวข้อ “การบริหารจัดการแบบมืออาชีพ”

นายกฯ ได้คะแนนการยอมรับจากประชาชนร้อยละ 40.2 และ พ.ต.ท.ทักษิณได้คะแนนการยอมรับร้อยละ 76.0 ส่วนความรวดเร็วฉับไว แก้ไขปัญหา นายกฯ ได้ร้อยละ 37.9 และอดีตนายกฯ ที่กำลังร่อนเร่พเนจรอยู่ต่างประเทศได้คะแนนการยอมรับ 73.5 ผมว่าข้อมูลนี้ช่วย สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และมีส่วนทำให้คนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่ในใจของหลาย คนเลยละครับ
   
ดูง่าย ๆ อย่างเรื่อง การระบายสินค้าเกษตร ออกสู่ตลาด  ผมก็ไม่เข้าใจว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เห็นเถียงกันไปมาจนยังไม่ได้ข้อ ยุติซะที

ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ผมกลัวว่ากว่าจะ  ขายพืชผลเหล่านี้ไม่ได้ ผลผลิตจะเน่าเสียทั้งหมด อย่าลืมว่าประเทศเราไม่ได้ขายสินค้าเกษตรเพียงประเทศเดียว เรื่องอย่างนี้ นายกฯ ต้อง  กล้าตัดสินใจ จะขายหรือมีนโยบายอย่างไร พูดออกมาให้ชัด ฟันธง ไปเลยมันจะได้จบ
   
ความเสียหายจากการแทรกแซงสินค้าเกษตรเราก็ได้เห็นกันชัด ๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือลำไย นอกจากจะเจ๊งเป็นพัน ๆ ล้าน เวลาจะนำไปทำลายยังต้องเสียงบประมาณในการดำเนินการอีกด้วย

   
ผมว่าใครก้าวเข้าขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ก็อยากทำตัวเป็น  “นายสะอาด” หรือ “นายสุจริต” กันทั้งนั้นละครับ แต่ถ้าให้ดีที่สุด ต้องไม่ให้คุณสมบัติสองประการ มาเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ผลงานของรัฐบาลปรากฏออกมา เดี๋ยวจะไปช่วยกระตุ้นให้ชาวบ้านกลับไปคิดว่า ผู้นำโกงได้ แต่ขอให้เก่งก็พอแล้ว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์