"ชวรัตน์"ปลุกผู้นำท้องถิ่นต้าน"ฎีกา" รวบรวมรายชื่อต้าน"16 สิงหาคม"
"ชวรัตน์"ปลุกผู้นำท้องถิ่นต้าน"ฎีกา"หมิ่นเหม่ระคายเคืองพระยุคลบาท "บุญจง"คุยได้ชื่อ 3 ล้านคน ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการพัฒนาของประเทศ รวบรวมรายชื่อต้านปิดหีบ"16 สิงหาคม" ทัพภาค2 สนอง ผบ.ทบ.เร่งแจงปชช. อสม.ชัยนาทร่วมต้านถวายฎีกา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจาก ภท. กล่าวเปิดสัมมนา ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้องที่ รวมทั้งตัวแทนผู้นำศาสนา รุ่นที่ 25 ถือ หรือรุ่นสุดท้ายของการรณรงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมรัฐสภาว่า ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้องที่ทุกคนช่วยกันรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นแนวร่วมในการส่งเสริมและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องร่วมรณรงค์และไม่ยอมให้บุคคลใดหรือกลุ่มใดกระทำการก้าวล่วง หรือแอบอ้าง ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ ขณะนี้มีกลุ่มคนพยายามรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่รู้ดีว่ากระทำดังกล่าวไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2548 จึงขอให้ทุกคนกลับไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ของตนเองว่าไม่ควรสนับสนุนการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่กระทำการหมิ่นเหม่ สร้างความระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท
ซัดกลุ่มสร้างกระแสป่วน-ต้านรบ.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนสร้างความสามัคคีของพี่น้องประชาชน เพราะปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลได้สร้างกระแสก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ได้ลุกลามไปในหลายพื้นที่หากไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลต่อภาพลักษณ์และการพัฒนาของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า หลังจากที่รัฐสภาร่วมกับกระทรวงมหาดไทยได้จัดสัมมนาเพื่อโน้มน้าวตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้องที่ และผู้นำศาสนาครบทั่วประเทศแล้ว รัฐสภายังมีแผนที่จะจัดสัมมนาข้าราชการครูทั่วประเทศในลักษณะดังกล่าวอีกด้วย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวที่โรงแรมเอสดี อเวนิวว่า ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการเชิงรุกทำความเข้าใจกับประชาชนและให้บริการประชาชนในการตั้งโต๊ะรับลงชื่อ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อทั้งหมดภายในวันที่ 16 สิงหาคม โดยตอนนี้มีรายงานจำนวนผู้มาลงชื่อทั้งหมดประมาณ 3 ล้านคนแล้ว โดยเฉพาะที่บุรีรัมย์มีมากถึง 5 แสนคน และยังมีหลายจังหวัดที่มีตัวเลขนับแสนคน ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นรายชื่อผู้คัดค้านประกบกับรายชื่อที่กลุ่มเสื้อแดงถวายฎีกา จะตรวจสอบก่อนหรือไม่ว่าชื่อตรงกันหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะประชาชนลงชื่อด้วยความสมัครใจ จะถอนหรือต้านเป็นสิทธิของประชาชน ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะการจะลงชื่อมีการบันทึกเลขที่บัตรประชาชน ชื่อจริง นามสกุลจริง และที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายชื่อใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า การลงชื่อต่อต้านการถวายฎีกาจะทำให้ประชาชนแตกแยกมากขึ้นหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักคือไม่ต้องการให้ประชาชนแตกแยก แต่ประชาชนที่ร่วมลงชื่อไปแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ทำอาจกระทบต่อสถาบัน จึงเป็นหน้าที่ของข้าราชการในพื้นที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า มหาดไทยตั้งเป้าล่าชื่อต่อต้านให้ได้อำเภอละ 2 พันคนนั้น ขอยืนยันว่าไม่จริง แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานเชิงลึกของนายอำเภอ และยืนยันว่าตัวเลขการลงชื่อต้านและถอนฎีกาจะมีมากหรือไม่ ไม่มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทัพภาค2 สนอง ผบ.ทบ.เร่งแจงปชช.
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงการรับนโยบายจากรัฐบาล และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อให้กองทัพภาคต่างๆ ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการลงชื่อถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ทางกองทัพได้กำชับให้หน่วยทหารลงพื้นที่ไปให้ความรู้ทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศไทย เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เพื่อให้ทุกคนได้ทราบว่าที่ถูกต้องมันเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีของทุกชุมชน
อสม.ชัยนาทร่วมต้านถวายฎีกา
นายสหาย นิลคำแหง อายุ 70 ปี ประธาน อสม.จ.ชัยนาท กล่าวว่า มีโอกาสพูดคุยกับประธาน อสม.ในแต่ละอำเภอที่มีสมาชิกรวมกักนกว่า 9 พันคน ต่างไม่เห็นด้วยกับการร่วมลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในพื้นที่ และยังไม่มีส่วนราชการใดมาชี้นำให้ตั้งโต๊ะรับลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา โดยจะมีการประชุมในระดับจังหวัดกันอีกครั้งในวันที่ 12 สิงหาคม เพื่อหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยและพิจารณากันอีกว่า จะมีแนวทางหรือวิธีการใดเพื่อแสดงออกในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คาดว่าคงไม่ใช้วิธีตั้งโต๊ะล่ารายชื่ออย่างแน่นอน เพราะอาจจะไปซ้ำซ้อนกับฝ่ายปกครอง ซึ่งจะเกิดความยุ่งยากและเสียเวลาโดยใช่เหตุ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังประธาน อสม.ตามอำเภอต่างๆ อาทิ นายสมเจตณ์ สังข์ธูป ประธาน อสม.มโนรมย์ นายทองอินทร์ ธรรมวิชิต ประธาน อสม.วัดสิงห์ และนางเปรมฤดี สังขะโห ประธาน อสม.อำเภอเมือง ต่างยืนยันเหมือนกันว่า ยังไม่มีคำสั่งหรือคำชักชวนจากส่วนราการให้กระทำการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้านแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันคือ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนเสื้อแดง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และสร้างความแตกแยกของคนในชาติอย่างไม่น่าให้อภัย
ส่วนที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ประชาชนเขตเทศบาลเมืองชุมพร ประมาณ 200 คน นำรายชื่อประชาชน 20,000 ชื่อ เข้ายื่นต่อ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อคัดค้านการยื่นถวายฎีกา
ชวรัตน์ปลุกผู้นำท้องถิ่นต้านถวายฎีกา บุญจงคุยได้ชื่อ 3ล้านคนปิดหีบ 16 ส.ค. อสม.ชัยนาทร่วมค้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ชวรัตน์ปลุกผู้นำท้องถิ่นต้านถวายฎีกา บุญจงคุยได้ชื่อ 3ล้านคนปิดหีบ 16 ส.ค. อสม.ชัยนาทร่วมค้าน