ก.ตร.ไม่รื้อโผ152นายพลให้มีผล16ส.ค.

คมชัดลึก : "สุเทพ"เป็นประธานประชุม ก.ตร. ไม่รื้อโผ"152นายพล"พร้อมเปิดทางแต่งตั้ง "รองผบก."ลงมา ต่อทันที ให้มีผลวันที่ 16 ส.ค.พร้อมโครงสร้างใหม่ ก.ตร.ห่วงซื้อขายตำแหน่งแต่งตั้ง ตร. สั่งมีหลักฐานเมื่อไหร่ค่อยจัดการ


ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา(สบ10)  รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร.และก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

 พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้การประชุมก.ตร.มีเรื่องสำคัญๆที่พิจารณา 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกเป็นการพิจารณาการดำเนินการประกาศพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก.ตร.มีมติยืนยันให้ ตร.เสนอนำส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 15 สิงหาคม และให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปคือวันที่ 16 สิงหาคม ตามกำหนดเดิมที่ได้วางไว้

 พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า เรื่องที่สองเป็นเรื่องรายชื่อนายพล 152 ตำแหน่งที่ก.ตร.ได้อนุมัติแต่งตั้งไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น ก.ตร.ได้มีมติไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งใดๆ ให้นำรายชื่อนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าหลังจาก พรฎ.แบ่งส่วนราชการมีผลบังคับใช้แล้ว และในที่ประชุมไม่มีการทักท้วง หรือเสนอให้รื้อการแต่งตั้งระดับนายพลแต่อย่างใดเพียงแต่ถกเถียงกันเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น

 พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสุดท้ายเรื่องการแต่งตั้ง รองผบก.- ลงมาก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เป็นไปตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง หากบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ได้เป็นไปตามกฎก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง ขาดคุณสมบัติหรือต้องได้รับการยกเว้นต้องเสนอที่ประชุม ก.ตร. พิจารณาเป็นรายๆ ไปซึ่งต้องดูเหตุผลและความจำเป็น เป็นการยกเลิก มติก.ตร.ก่อนหน้านี้ที่ใช้พ.ร.บ.ตำรวจมาตรา 56 ให้ผบ.ตร.มีอำนาจในการแต่งตั้ง ในรูปของคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยรองผบ.ตร.และจเรตำรวจเป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้ง

 “อำนาจการแต่งตั้งระดับรองผบก.ลงมานั้น หากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กลับมาปฎิบัติงานก็เป็นคนทำ แต่หากพล.ต.อ.พัชรวาท ไม่อยู่ก็ให้ รรท.ผบ.ตร.เป็นคนทำซึ่งต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 16 สิงหาคม ส่วนการแต่งตั้งระดับรองผบก. ลงไปนั้นต้องยึดกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งอย่างเคร่งครัดและให้รอบคอบที่สุดซึ่งเป็นปกติที่การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับจะต้องมีผลที่ผิดหวังและสมหวัง”โฆษกตร.กล่าว

 โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รองผบ.ตร.ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีตั้งพล.ต.อ.วิเชียร เป็นรรท.ผบ.ตร.ซึ่งข้ามอาวุโสนั้น ในก.ตร.ไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ในฐานะที่ตนเป็นรองผบ.ตร.บร.ขณะนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกำลังพล ก.ตร.และก.ต.ช.พิจารณาข้อกฎหมายและข้อร้องเรียนของท่าน ให้ประชุมหารือประเด็นต่างๆ โดยยึดตามข้อกฎหมาย ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาทั้งเรื่องของอาวุโสและเรื่องอื่นๆ ที่ร้องเรียนมาซึ่งตนก็ยังไม่ได้ดูว่าร้องเรียนมาในประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ข้อกฎหมายต่างๆก็ระบุไว้ชัดเจนโดยมี ก.ตร.เห็นชอบ

 พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า ส่วนวาระที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ฟ้องร้องพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผช.ผบ.ตร.ทุจริตงบประชาสัมพันธ์ 18 ล้านบาทนั้นก็เป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้นไม่ได้มีการพิจารณาอะไร

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ก.ต.ช. มีการนัดประชุมเพื่อเลือก ผบ.ตร.คนใหม่เมื่อไหร่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ตนเองใน ฐานะเลขา ก.ต.ช.ยังไม่ได้รับคำสั่ง ว่าจะนัดประชุมเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ต.ช.จะเป็นผู้นัดประชุมซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการนัดวันประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เดินทางมาถึง เวลา 12.00 น.โดยมีพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจมาต้อนรับเนื่องจาก พล.ต.อ.วิเชียร ไปพบนายกรัฐมนตรี โดยนายสุเทพ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและเข้าไปรับประทานอาหารกลางวันที่ตร.ด้วยความชื่นมื่น

รายงานข่าวแจ้งว่าคาดว่าวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม นี้จะมีการนัดประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งระดับ รองผบก.-ลงมา ที่มีการยกเว้นคุณสมบัติ ไม่เป็นไปตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งเพื่อให้ก.ตร.พิจารณา ซึ่งต้องจับตาว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท หรือ พล.ต.อ.วีเชียร จะเข้าประชุมพิจารณาคุณสมบัติแต่งตั้ง รองผบก.-ลงมา

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงกรณีการมีกระแสข่าวมีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจว่า เรื่องนี้การพูดคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดย ก.ตร.หลายท่านกังวลและอภิปรายเรื่องนี้ ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานก.ตร.ก็ แจ้งว่าเรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นจริง ทั้งนี้ก็มีการเสนอว่าหากมีพยานหลักฐานเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ก็ต้องดำเนินการทันทีเนื่องจากเป็นเรื่องที่ทำให้ ตร.เสียหาย

"วิเชียร"พบนายกฯก่อนประชุม ก.ตร.

 อย่างไรก็ตามตั้งแต่เวลา 09.50 น. วันที่ 7 สิงหาคม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทนผบ.ตร. เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)  โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ต่อมาในเวลา 11.00 น. นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้หอบเอกสารออกทางหลังตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.วิเชียร  เดินทางออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้น 5 นาที นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี  เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมก.ตร.

 ต่อมาในเวลา 11.45  นายอภิสิทธิ์เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามรักษาความปลอดภัยได้แจ้งสื่อมวลชนว่านายกรัฐมนตรีขอเวลาส่วนตัว ห้ามติดตาม ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพล จำนวน 152 นาย และการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ฃ

"วิเชียร"เผยประชุมก.ตร.พิจารณาคำสั่งตั้ง152นายพล

 พล.ต.อ.วิเชียร  เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ในวันนี้ ว่า จะพิจารณาว่าคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพล 152 ตำแหน่ง ที่ผ่านมติ ก.ตร. ไปก่อนหน้านี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะโครงสร้างใหม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ประกาศใช้ในราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ ซึ่งจากการหารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ไม่มีการกล่าวถึงการทบทวน หรือ เปลี่ยนแปลงตำแหน่งใดๆ ส่วนที่มีผู้ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งให้ตนมารักษาราชการแทนนั้น เห็นว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการพิจารณา และยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด

“สุเทพ”อุบเรื่องโผ 152 นายพล

 ขณะที่นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ว่า คงพูดก่อนไม่ได้ว่าจะมีการคุยเรื่องอะไรกันบ้าง เนื่องจากต้องให้เกียรติกรรมการทุกคนที่มีทั้งผู้ใหญ่ อัยการสูงสุด ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รอง ผบ.ตร. อดีตรมว.มหาดไทยที่อยู่ใน ก.ตร. เป็นต้น ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทบทวนบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ จำนวน 152 นายด้วยหรือไม่นั้น เอาเป็นว่ามีการบรรจุเรื่องบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายไว้ในวาระการประชุมด้วย

 เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ออกมาแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นธรรมดาที่อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครบ้าง ทุกอย่างทำไปตามกฎหมายที่กำหนดกำหนดไว้ ซึ่งระเบียบในการพิจารณาก็ต้องสอดคล้องกับหลักกฎหมาย  ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการขัดต่อประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัตินั้น ขอถามกลับไปว่า ตกลงจะเอาอะไรกันแน่ จะเอาเรื่องธรรมเนียม เรื่องกฎหมาย หรือจะเอาความชอบส่วนตัวเข้ามาพิจารณา

เหน็บกม.ไม่ระบุต้องตั้งญาติ"ทักษิณ"

 อย่างไรก็ตามขอชี้แจงว่า การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ถ้าเป็นตำรวจระดับนายพลก็เป็นอำนาจการพิจารณาของ ก.ตร. แต่ถ้าเป็นการแต่งตั้งตำแหน่งระดับผู้บัญชาการนั้น เป็นอำนาจของ กตช. ที่จะเป็นผู้พิจารณา ส่วนตนเป็นเพียงแค่กรรมการใน ก.ตร. ขณะที่  กตช.นั้นมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเวลาจะแต่งตั้งผู้บัญชาการตามกฎหมายแล้ว กตช.จะเลือกเอา พล.ต.อ.คนใดคนหนึ่งขึ้นมาเป็นก็ได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจ แต่แค่เป็นการตั้งรักษาการ ดังนั้นถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กตช. ที่จะพิจารณาได้  และเมื่อนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งรักษาการแล้วก็จะแจ้งให้ ก.ตร. และ กตช.ทราบ จึงถือว่าขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปนั้น ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

 ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ระบุว่าที่ไม่รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นรักษาการ ผบ.ตร. เพราะเป็นญาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำได้ว่าสมัยรัฐบาลของนายชวน หลีกภัยก็ได้แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งที่นายชวนทราบดีว่า นายสมชายเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ กฎหมายไม่ได้เขียนไว้ว่า ถ้าเป็นญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วจะเป็น ผบ.ตร.ไม่ได้ และกฎหมายก็ไม่ได้บังคับว่า ต้องตั้งญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ผบ.ตร.อย่างเดียว
ชี้เพรียวพันธ์ขอความเป็นธรรมได้

  ส่วนเรื่องที่  พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ระบุว่าโดนการเมืองกลั่นแกล้ง โดนข้ามหัวไม่ให้ได้ทำหน้าที่รักษาการ ผบ.ตร. มาแล้วถึง 2 ครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร. เคยทำหน้าที่รักษาการเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาไปตามเหตุผล ส่วน พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์จะออกมาขอความเป็นธรรมนั้น ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ถ้าจะขอตำแหน่งคงลำบาก เพราะการพิจารณาตำแหน่งขึ้นอยู่กับ กตช.จะพิจารณา ถ้า พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์บอกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้อธิบายเหตุผลมาได้ รัฐบาลพร้อมจะรับฟังและพิจารณา

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าในการพิจารณารายชื่อนั้นมีการซื้อขายตำแหน่ง นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าใครมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ก็พร้อมที่จะดำเนินคดี เพราะก็อยากที่จะสะสางปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่อยากจะบอกว่า เวลาคนที่มีปัญหากัน จะพูดจะลือกันไปเรื่อย ซึ่งคงไม่สามารถไปทำอะไรได้ เนื่องจากการจะไปกล่าวหาใครนั้น ต้องมีข้อมูลหลักฐานที่เพียงพอ เรื่องนี้ยืนยันว่า พยายามติดตามอยู่ตลอด ทำงานมา 6-7 เดือน คิดว่า นายตำรวจทั้งหลายที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถมาบอกให้ฟังได้

ยันนายกฯตั้งรักษาการผบ.ตร.ได้

 วันเดียวกัน นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งรักษาตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า  ต้องเป็นไปตามระเบียบของ ตร. ซึ่งต้องดูในรายละเอียดอีกครั้งว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร  แม้บางคนจะมีอาวุโสอันดับ 1 ก็ตามแต่อาจได้มาด้วยการข้ามหัวคนอื่นมาหลายต่อหลายครั้งพอมาถึงคราวตัวเองโดนคนอื่นข้ามหัวบ้างก็มานั่งบีบน้ำตาร้องไห้   ฉะนั้นหลักเกณฑ์อาวุโสอันดับ 1 หรือการครองยศ พล.ต.อ. ในช่วงระยะเวลาที่นานกว่า คงไม่มีผลต่อการแต่งตั้ง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่ความเหมาะสมของผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งมากกว่า

 นายเสงี่ยมกล่าวต่อว่า  การแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร  ให้รักษาการตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้น ไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำงานของตำรวจแต่อย่างใดเป็นเรื่องของการทำงานมากกว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองหรือเรื่องใด  ๆ เพราะสถานการณ์บางอย่างก็ต้องดูความเหมาะสมเป็นหลักสำคัญด้วย   ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์  จะฟ้องศาลปกครองว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ที่ผ่านมาว่า  เป็นสิทธิของผู้เสียหายผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถฟ้องร้องได้ ไม่ว่าใคร ๆ ก็ตามที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่ากรณีใด ๆ ซึ่งในกรณีนี้แม้ว่า  การแต่งตั้งดังกล่าวของนายกฯจะผ่านขั้นตอนการพิจารณาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก็สามารถร้องขอความเป็นธรรมได้

"เพรียวพันธ์"ยื่นขอความเป็นธรรมแล้ว

 เกี่ยวกับปัญหา และข้อถกเถียงดังกล่าว วันเดียวกัน  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ผ่านเลขา ก.ตร.ไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้คงไม่พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ นายสุเทพ ภายหลังจากการประชุม ก.ตร.เสร็จสิ้น อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็น รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีก เพราะได้ส่งเอกสารต่างๆให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณาแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์