พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 1 (รอง ผบ.ตร.ปป.1)
เปิดห้องทำงาน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม แถลงด้วยเสียงสั่นเครือและนัยน์ตาแดง ร้องขอความเป็นธรรมที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. โดยระบุว่าผิดประเพณีของ ตร. พร้อมจะร้องเรียนและฟ้องร้องตามขั้นตอนหากไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาถูกข้ามหัวไปแล้ว 2 ครั้ง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้นำกำลังไปจับกุมนายเจิม เส้งเอียด หรือไข่หมูก
โจรเรียกค่าคุ้มครองชื่อดังในพื้นที่ภาคใต้ ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพิ่งทราบว่ามีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทน (รรท.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน "เป็นเรื่องที่ผมอึดอัดใจ เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ไม่เข้าใจ จริงๆ ผมอึดอัดใจมาก ที่เอาคนที่ไม่อาวุโสขึ้นมารักษาราชการแทน ผมอาวุโสสูงสุด เคยรักษาราชการแทนท่านพัชรวาทถึง 22 ครั้ง แต่ละครั้งก็เรียบร้อยปกติ การงานผ่านไปด้วยดี แม้ช่วงเหตุการณ์อย่างนี้ก็มีความเหมาะสมทุกอย่าง การเอาคนที่อาวุโสน้อยกว่ามารักษาราชการแทน มันผิดประเพณีปฏิบัติของ ตร.หรือเปล่า มันเป็นการชี้นำให้เห็นอะไรบางอย่างในเรื่องของการจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.ในเร็ววันนี้หรือเปล่า ผมเองเคยได้รับการปฏิบัติที่ผิดกฎหมายจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2549 ครั้งนั้นย้ายผมไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่เป็นธรรม ซึ่งผมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และผมก็ชนะคดี" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า การถูกย้ายไปประจำสำนักนายกฯ ทำให้ขาดโอกาสไปถึง 2 ครั้ง
ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตนอาวุโสกว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. อาวุโสกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ครั้งนี้จะดำเนินการร้องทุกข์ตามระเบียบทุกอย่าง เพราะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยงภัยตลอด ทำงานเต็มที่ทุกอย่าง แต่ว่าอย่างนี้มีการชี้ให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองบางคนกำลังเข้ามาแทรกแซงข้าราชการประจำ
"ผมเคยชอกช้ำมาแล้วถึง 2 ครั้ง ไม่เคยปริปากพูดอะไร ขอบารมีศาล ศาลท่านก็มองเห็นในความไม่ถูกต้อง ก็ตัดสินให้ผมชนะคดี ผมไม่เคยโอ้อวดอะไร แต่ครั้งนี้มันสุดทนแล้วครับ รังแกกันจนเกินไปแล้วครับ" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าว และว่า จะสู้แน่นอน จะสู้ตามกฎหมาย ไม่ได้สู้กับตำรวจ แต่จะสู้กับผู้มีอำนาจทางการเมืองบางคน