กรุงเทพฯ 6 ส.ค.-“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขึ้นเบิกความต่อศาลฎีกาฯ คดียึดทรัพย์ 76,000 ล้าน “พ.ต.ท.ทักษิณ” ยืนยันซื้อจากพี่ชายถูกต้อง แต่ในชั้นไต่สวนของ คตส.กลับไม่เคยสอบถามเกี่ยวกับการซื้อขายของหุ้นชินคอร์ป และไม่ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ทรัพย์
องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้าน
ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ร้องขอให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลในครอบครัว มูลค่า 76,000 ล้านบาท ที่ได้จากการขายหุ้นในเครือบริษัทชินคอร์ป ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ
สำหรับในช่วงเช้า นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พยานผู้คัดค้าน
ได้เบิกความในประเด็นที่ศาลสอบถามถึงความแตกต่างในการซื้อขายหุ้นในและนอกตลาดหลักทรัพย์ โดยนายธีรชัย ชี้แจงว่า หากเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์จะได้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษี และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของกฎหมายหลักทรัพย์ ส่วนการซื้อขายนอกตลาดจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ และไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์
นอกจากนี้ ศาลได้สอบถามความเกี่ยวข้องของคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โดยนายธีรชัย ชี้แจงว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้พบข้อมูล ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นการกระทำตามความผิดกฎหมายหลักทรัพย์ จึงได้ส่งเรื่องไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อสอบสวนตามกฎหมาย ส่วนที่มีการสั่งไม่ฟ้องคดีนั้น ตนทราบจากข่าวเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด