พ.ท.ร้อง ปชช.สอบชวรัตน์

ล้ำเส้นสั่ง ขรก.ตั้งโต๊ะลงชื่อถอน'ถวายฎีกา'ฮึ่มเสื้อแดงห้ามป่วน
            
"เพื่อไทย"ร้อง ป.ป.ช.สอบ"ชวรัตน์"ล้ำเส้นสั่ง ผวจ./นอภ.ตั้งโต๊ะลงชื่อถอนแดงถวายฏีกา"ลุงจิ้น"ไม่หวั่น ยันให้บริการประชาชนตามหน้าที่“เทพเทือก”ขู่ “เสื้อแดง” ถ้าป่วนเมือง เจอใช้กฎหมายสยบแน่ ยืนยันล่าชื่อถวายฎีกาไม่เหมาะสม ภท.ผนึกแรงร่วมต้าน ปูด “แดงกลับใจ” มีเพียบ เผยคนอีสานทยอยถอนรายชื่อ “ณัฐวุฒิ” แฉ “วิษณุ” แอบข้างหลังรัฐบาล ชูถวายฎีกาแย้งคำพิพากษา “เสื้อแดง” ขอเชิญให้แสดงตัว ท้านายกฯ อธิบายใช้อำนาจสั่งการขวางเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างไร “จตุพร” เตือน “มาร์ค” อย่าก้าวก่าย ระวังจะเข้าตัวเอง พท.ตามคุ้ยชุมชน  พอเพียง กดดัน “กอร์ปศักดิ์” โชว์สปิริตลาออกรองนายกฯ รับผิดชอบทุจริตโครงการ ส.ว.คู่คว่ำ พ.ร.บ.เงินกู้ฯ โยงทุจริตชุมชนพอเพียง หวั่น    “เสธ.หนั่น” อวยพรนายกฯ ต้องอดทน ยันไม่ทิ้งกันไปไหน “ธานี” ลงสมัครซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ ปชป.ลั่น “เทพเทือก-บัญญัติ” ไม่แตกแยก สภาสูงแจ้ง “ส.ว.ไรน่าน” เสียชีวิต
   
ขู่ใช้กฎหมายสยบเสื้อแดง
   
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงกรณีที่มีกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การคัดค้านดังกล่าวไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่เหมาะสม ไม่บังควร ไม่สมควรกระทำ เพราะ ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์และกติกาที่กฎหมายกำหนด ไม่ทราบว่าการถวายฎีกาครั้งนี้มีเจตนาอะไร แต่คนไทยจำนวนมากเห็นว่า การถวายฎีกาจะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
   
เมื่อถามว่า มีมวลชนที่ไม่เห็นด้วยและเห็นด้วยจะเกิดการปะทะกันและรัฐบาลจะมีนโยบายแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะไม่พยายามพูดในสิ่งที่แรงกว่านี้ ไม่อยากให้มวลชนไปกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะรัฐบาลไม่ทราบเจตนาของคนยื่นฎีกาว่าเพราะอะไร จึงอยากให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ได้ช่วยกันตระหนักว่าเขากำลังทำอะไร คนทำไม่เหมาะสม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนทั้งประเทศเห็นว่าไม่เหมาะสม แต่ก็ยังดื้อดึงที่จะทำ รัฐบาลไม่ต้องการเห็นคนไทยปะทะกัน ไม่ต้องการเห็นใครไปล่วงละเมิดสถาบัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่กลุ่มเสื้อแดงกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะกระทำตามที่กฎหมายอนุญาตให้รัฐบาลทำได้

ภท.ผนึกแรงค้านถวายฎีกา
    
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช. คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันพิจารณาคดีกล้ายาง ตนจะนำ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ไปร่วมฟังและให้กำลังใจนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคด้วย ซึ่งน่าจะไปกันทั้งพรรค หากคนไหนไม่ติดภารกิจ ส่วนที่มีข่าวว่านายเนวิน หนีไปต่างประเทศ ก็เป็นเพียงข่าวลือที่ปล่อยกันออกมา และพยายามไปโยงกับเรื่องการคัดค้านฎีกา เมื่อถามว่า การนำ ส.ส.ไปศาลจะเป็นการกดดันศาลหรือไม่ นายประจักษ์ กล่าวว่า คงไม่ โดยนอกจากจะมี ส.ส.ของพรรคแล้ว ยังจะมีประชาชนที่รักนายเนวินมาร่วมให้กำลังใจด้วย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ เวลาขึ้นศาล คนก็จะมาฟังและให้กำลังใจเป็นประจำอยู่แล้ว
    
นายประจักษ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการให้ประชาชนมาถอนรายชื่อและคัดค้านการถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศมาลงชื่อคัดค้าน และขอถอนรายชื่อจำนวนมาก เฉพาะใน จ.ขอนแก่น ก็มีร่วม 5 หมื่นคนที่มาลงชื่อคัดค้าน เรื่องนี้ถือเป็นจุดยืนของพรรคตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาลแล้ว เราได้เสนอว่าการปกป้องสถาบันนั้นขอให้รัฐบาลต้องดำเนินการ

“บิ๊กแอ้ด” ชี้ใช้วิจารณญาณ
    
ที่หอศิลปเจ้าฟ้า เวลา 18.00 น. พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นห่วงต่อการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนคงไม่มีอะไรเพิ่มเติมเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว ขอไม่พูดต่อในประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เรื่องนี้จะกระทบกระเทือน ต่อเบื้องสูงหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า สุดแล้วแต่จะคิด ส่วนตนเองคงไม่มีข้อคิดเห็น ตนคิดว่าทางรัฐบาล และประชาชนก็คงใช้วิจารณญาณกันเอง
    
เมื่อถามว่าห่วงกระแสความแตกแยกของคนในชาติหรือไม่ เพราะมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมของเราอยู่แล้ว ก็ไม่อยากให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ส่วนการให้ข้อมูลขั้นตอนทางกฎหมายคง เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว ทางองคมนตรีไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามว่า หากมีการทำหนังสือถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านมาทางองคมนตรีจะให้ผ่านหรือจะสกัด พล.อ. สรยุทธ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ คงเป็นเรื่องที่จะ ให้เกิดขึ้นมาก่อน แล้วค่อยมาดูกันอีกที ส่วนองคมนตรีจะให้ข้อคิดในเรื่องนี้อย่างไรนั้น ตอนนี้ไม่มี เมื่อถามว่าอึดอัดกับสถานการณ์การเมืองตอนนี้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า  เป็นเรื่องธรรมดา ตนไม่อึดอัด

พท.ร้องป.ป.ช.สอบ “ชวรัตน์”
    
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เวลา 09.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มีคำสั่งให้นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาด ไทย ให้ออกคำสั่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ จัดตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการถอดถอนรายชื่อที่เคยลงไว้ในการถวายฎีกา ซึ่งถือเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและถือเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่
    
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นถือว่าการดำเนินการของประชาชนที่อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และเมื่อรัฐบาลออกมาต่อต้าน จะ กลายเป็นการขัดขวางการใช้พระราชอำนาจของ พระองค์ ได้ อีกทั้งทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยกกันมากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ประชาชนดำเนินการไปตามขั้นตอน สุดท้ายเมื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาไปแล้วก็เป็นเรื่องที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งทุกฝ่ายต้องน้อมรับ วันนี้จึงถือว่ากระทรวงมหาดไทยทำเกินหน้าที่

มท.1แจงบริการตามหน้าที่
    
ส่วนนายชวรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาถอนรายชื่อถวายฎีกาและลงคัดค้านถวายการยื่นถวายฎีกาว่า เป็นการกระทำที่มิชอบหรือไม่ คงต้องรอให้ ป.ป.ช. ชี้ขาด ซึ่งตนก็ทำตามหน้าที่ของเจ้ากระทรวงที่ต้อง บริการประชาชน เวลาเขาต้องการแสดงความคิดเห็นจากที่ลงชื่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่เข้าใจในตอนแรกว่าการลงชื่อถวายฎีกามีวัตถุประสงค์อย่างไร และการตั้งโต๊ะหน้าศาลากลางและที่อำเภอเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก นายชวรัตน์ กล่าวว่า คนที่ต้องการคัด ค้านการถวายฎีกา ก็สามารถลงชื่อคัดค้านได้เพราะทุกคนอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ส่วนรายชื่อที่ลงชื่อถอนฎีกาก็จะให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเก็บไว้ ซึ่งตัวเลขขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน  

ตอก “วิษณุ” แอบข้างหลัง
    
ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่ม คนเสื้อแดง ร่วมแถลงถึงกรณีที่มีความเคลื่อนไหวคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตามที่นายสุเทพออกมาอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระดับประเทศคน หนึ่ง บอกว่าพระราชกฤษฎีกา วางระเบียบทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ซึ่งตราขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และยังมีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันว่าการขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษ ต้องไม่ใช่โต้แย้งคำพิพากษาของศาลนั้น
    
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าการ ถวายฎีกาของคนเสื้อแดงไม่มีเนื้อใดตอนใดที่ไปโต้แย้งคำพิพากษา เป็นแต่เพียงถวายฎีกาเพราะมีความทุกข์อันเกิดจากการยึดอำนาจและกระบวนการยุติธรรมที่เป็น 2 มาตรฐานไม่เป็นไปตามธรรมเนียมสากลและหวังใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำความรู้ความสามารถกลับมาช่วยแก้ปัญหาได้ ตนขอถามว่าคนที่นายสุเทพกล่าวอ้าง คือ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ใช่หรือไม่ โดยเป็นเนื้อหาที่นายวิษณุเตรียมนำไปบรรยายที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่นายวิษณุไม่ได้ไปจึงเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอผ่านสื่อแทนใช่หรือไม่

เตือน “มาร์ค” อย่าก้าวก่าย
    
นายจตุพร กล่าวว่า ตามที่นายสนธิ ลิ้ม ทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศระดมคนออกมาชุมนุมในวันที่ 17 ส.ค. เข้าใจว่าเพื่อร่วมกับคนอีกหลายกลุ่มคัดค้านการถวายฎีกานั้น ตนเตือนนายอภิสิทธิ์ว่าถ้าไม่หยุดก้าวก่าย นายกฯ จะถูกข้อหาก้าวล่วงพระราชอำนาจเสียเอง รอไว้หลังวันที่ 17 ส.ค. จะได้เจอคนเสื้อแดงเต็มที่อีกรอบ แต่ในวันที่ 17 ส.ค. นี้ไม่มีอะไร และไม่ว่าใครก็ขัดขวางการถวายฎีกาไม่ได้
    
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากวันที่ 17 ส.ค. เกิดสถานการณ์เปลี่ยนแปลง คนเสื้อแดงจะชุมนุมต่อใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คนเสื้อแดงยึดมั่นในสันติวิธีจะไปมือเปล่า นอบน้อมถวายฎีกาเสร็จก็จะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและแยกย้ายกันกลับ ดังนั้นจึงไม่มีเงื่อนไขใดให้สถานการณ์เปลี่ยน ถ้ารัฐบาลไม่สร้างสถานการณ์แทรกซ้อนหากเป็นเช่นนั้นเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบ

พท.คุ้ยยิบชุมชนพอเพียง
    
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยผลการตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน หรือโครงการชุมชนพอเพียงว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจพอเพียงแม้แต่บาทเดียว แต่เป็นการใช้เงินโครงการในการซื้อ สินค้าอย่างเดียว จากการตรวจสอบบริษัทที่เป็นคู่ค้าของชุมชนนั้นมีด้วยกัน 3 บริษัท ที่ขายตู้ผลิตน้ำดื่มพลังงานแสงอาทิตย์ ขายเครื่องผลิตปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ ขายเครื่องผลิตไบโอดีเซล โดยทั้ง 3 บริษัทเป็นบริษัทลูกของบริษัทใหญ่รายหนึ่ง พบความเชื่อมโยงกันระหว่างคนในโครงการกับความสัมพันธ์บริษัท
    
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจึงขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความเชื่อมโยงต่อกระบวนการนี้อีกประเด็นด้วยหรือไม่ ที่ทำให้กระบวนการทุจริตทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกันโดยการสมรู้ร่วมคิดกันทั้งระบบ อีกทั้งมีความพยายามตัดตอน ให้  ระดับ ผอ.เขต นายอำเภอที่ไปลงนามก่อนหน้านี้ออกมารับผิด และมีรายงานว่าที่ ส.ส. บางคนได้ลงไปเจรจาแต่ไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร จึงอยากให้ข้าราชการ ประธานชุมชน ที่ไม่เกี่ยวข้องได้ออกมาแจ้งความเอาผิดคนทุจริต เพื่อแสดง ความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

บี้ “กอร์ปศักดิ์” สปิริตไขก๊อก
    
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายกอร์ปศักดิ์ ในฐานะประธานบอร์ด สพช.แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดสพช. และปลดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่หากนายกอร์ปศักด์ มีสปิริตแรงกล้าจะลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ด้วยก็ยิ่งดี อย่างไรก็ตามหากผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่แสดงความรับผิด ชอบภายใน 2 วันนี้ พรรคเพื่อไทยจะเข้ายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ให้ปลดนายกอร์ปศักดิ์ ออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดสพช. ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ 
    
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในวันที่ 6 ส.ค. พรรคเพื่อไทยจะยื่นข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และจะยื่นต่อองค์กรอิสระ อาทิ ป.ป.ช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตในโครงการดังกล่าวต่อไป

ส.ว.โยงทุจริตขู่คว่ำพ.ร.บ.กู้
    
ส่วนกรณีที่มีการแต่งตั้งน้องชายนายกอร์ปศักดิ์ เข้ามาดูแลในโครงการนี้นั้น นาย ยุทธนา ระบุว่า ยังไม่มีข้อมูล แต่ต้องตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตามการส่อทุจริตโครงการดังกล่าว อาจส่งผลทำให้รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำถึงกับพังได้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ยึดแนวปรัชญาพอเพียง แต่กลับมีปัญหาเรื่องทุจริตเสียเอง เป็นเรื่องที่ไม่สมควร
    
เมื่อถามว่าปัญหานี้จะส่งผลต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ในวันที่ 10 ส.ค.นี้หรือไม่ นายยุทธนา กล่าวว่า มี ส.ว.หลายคนได้หารือกัน และพูดถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลช่วงที่ผ่านมา พบว่าไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ และอาจมีแนวโน้มที่จะคว่ำร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีประเด็นเรื่องทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เชื่อว่าทางส.ว.คงมีการสอบถามรัฐบาลก่อนที่จะตัดสินใจลงมติ

“เสธ.หนั่น” ให้นายกฯอดทน
    
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำ สำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ก่อนเริ่มการประชุม ครม. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ได้เป็นตัวแทนของครม. ทั้งหมดและข้าราชการที่ร่วมประชุมครม.ในการกล่าวอวยพรให้กับนายกฯ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.สนั่น ได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความอดทน อดกลั้น ต่อความตั้งใจจริงของนายกฯ
    
นายวัชระ กล่าวว่า พล.ต.สนั่นได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่พัทยาและที่กระทรวงมหาด ไทย พร้อมกับบอกว่ามีปัญหาอยู่ 2 เรื่องคือปัญหาภายนอกและปัญหาภายใน ซึ่งปัญหาภายในนั้น พล.ต.สนั่น ได้บอกนายกฯ ว่าอย่าได้เป็นห่วงท่านและพรรคร่วมจะช่วยกันดูแล ทั้งนี้นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณและย้ำว่าท่านเป็นห่วงปัญหาภายใน

“มาร์ค” ปลื้มผลงานวงโยฯย่าโม
    
ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 08.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. ศึกษาธิการนำวงโยธวาทิต โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ “เวิลด์ดิ วิชั่น ประเภทมาร์ชชิ่งและประเภทดิส เพลย์” (WORLD MUSIC CONTEST 2009) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ โอกาสนี้นายกฯ มอบทุนการศึกษา 500,000 บาท พร้อมเสื้อยืดฉันรักประเทศไทยและหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำเลือดใหม่หัวใจผู้กล้า” ให้คณะนักเรียน ก่อนที่จะชมการแสดงดนตรีของวงโยธวาทิตสุรนารีซึ่งได้เล่นเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้นายอภิสิทธิ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมาด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและคนไทยขอแสดงความชื่นชมกับความสำเร็จครั้งนี้
    
จากนั้นเวลา 09.00 น. นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบไปรษณียบัตร “บอกรักแม่” ให้กับนายกฯ และ ครม. โดยนายกฯ เขียนข้อความสั้น ๆ ว่า “ขอขอบคุณในทุก ๆ สิ่ง” จากนั้นได้รับมอบหน้ากากอนามัยจากเด็กนักเรียนอาชีวะเอี่ยมละออ ที่ได้ช่วยผลิตหน้ากากอนามัย ออกมาจำหน่ายในราคาถูกในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

“ธานี”สมัครซ่อมส.ส.สุราษฎร์
    
ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวราย งานบรรยากาศการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่างหลังจากนายสุเทพ ได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ ให้วันที่ 5-9 ส.ค. เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งทำการรับสมัคร ปรากฏว่า วันแรกมีผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ นายธานี เทือกสุบรรณ จากพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและชาวบ้านซึ่งเป็นกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจ เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายธานีเดินทางมาก่อนเวลา 08.30 น. และได้หมายเลข 1 ขณะที่ นายสมพล วิชัยดิษฐ ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คาดว่าจะเดินทางมาสมัครในวันที่ 7 ส.ค.นี้ 
    
นายธานี น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯกล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยเตรียมข่มขวัญด้วยการให้นางเยาวเรศ ชินวัตร นำทีม พรรค เพื่อไทยพานายสมพล วิชัยดิษฐ ไปสมัครรับเลือก ตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 7 ส.ค. ว่า ไม่รู้ว่านางเยาวเรศจะเอาอะไรมาข่มขวัญตน ถ้าจะพูดถึงตระกูลชินวัตร ตนเองก็มีเพื่อนที่นามสกุลชินวัตรอยู่หลายคน และที่สำคัญคนสุราษฎร์ฯ เขาไม่เอาคนตระกูลชินวัตร

วุฒิสภาแจ้ง “ไรน่าน” เสียชีวิต
    
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในช่วงเย็น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แจ้งว่า นายไรน่าน อรุณรังษี ส.ว.สรรหา ภาควิชาชีพ ได้ถึงแก่อนิจกรรมในเวลาประมาณ 16.30 น. ด้วยอาการ ของโรคถุงลมโป่งพอง ที่โรงพยาบาลเลิดสิน กรุงเทพฯ รวมอายุ 67 ปี ทั้งนี้จะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม และฝังศพที่มัสยิดบางชัน มีนบุรี ในวันที่ 6 ส.ค.  เวลา 13.00 น.
    
สำหรับนายไรน่าน เกิดเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2485 มีอาชีพเป็นนักแปลและนักวิชาการ เคยเป็นอาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส.ส.จังหวัดพัทลุง พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่ง  ชาติ พ.ศ. 2516 และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ตะวันใหม่

“สุรสิทธิ์”ลาออกตร.ไปนอก
    
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานว่า ในช่วงค่ำ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหามีความผิดในคดีหวยบนดิน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการตำรวจต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งกองกำลังพล ได้รับเอกสารขอลาออกแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางธุรการ มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ต. สุรสิทธิ์ ได้เดินทางไปต่างประเทศแล้ว โดยมีแผนจะไปทำธุรกิจปักหลักในต่างประเทศ ทั้งนี้อาจเกี่ยวเนื่องกับการตัดสินคดีหวยบนดินที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้.