เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางไปประเทศจีน
โดยให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่าจะกลับมาเป็น ผบ.ตร.เหมือนเดิม ทั้งนี้ได้ฝากให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้สร้างความรัก-สามัคคีในองค์กร ยืนยันว่าพร้อมจะเข้าชี้แจง ป.ป.ช.เรื่องการสลายชุมนุม 7 ต.ค. พร้อมทั้งปฏิเสธข่าวมีนายพลคนสนิทซื้อขายตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.สามารถทบทวนโผแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ 152 นายได้
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช.
กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ยอมเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 บริเวณหน้ารัฐสภา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันนี้ ทั้งที่ได้นัดหมายเอาไว้แล้ว ว่า ตามปกติหาก พล.ต.อ.พัชรวาท จะไม่เดินทางมา ก็ควรที่จะแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ทราบก่อน ไม่ควรปล่อยให้กรรมการป.ป.ช.ทราบจากข่าว โดยที่ผ่านมาเราพยายามติดต่อกับ พล.ต.อ.พัชรวาท หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม หาก พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่เดินทางมา ก็จะทำหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาส่งไปให้ทางไปรษณีย์ พร้อมนัดหมายวันที่จะให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาอีกครั้ง
เมื่อเวลา 14.00น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม ครม.ถึงการพบกับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร.เมื่อเย็นวันที่ 4 ส.ค.
มีเรื่องหลักๆอยู่ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือคดีที่อยู่ในความสนใจเป็นสิ่งที่ต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตำรวจในการที่จะทำให้มีประสิทธิภาพและความมั่นใจในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นเรื่องที่เป็นที่จับตาอยู่ก็ต้องช่วยอำนวยความสะดวกและให้นโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ที่ทำงานทั้งหมดว่าจะเดินอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เรื่องที่สองคือ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในทางการเมืองซึ่งยังมีอยู่มากก็ได้ทำความเข้าใจในจุดยืนของรัฐบาลที่ต้องการจะให้ทุกฝ่ายสามารถแสดงออก ใช้สิทธิเสรีภาพได้ตามกฎหมาย แต่ถ้ามีอะไรเกินเลยขอบเขตก็ต้องแสดงออกให้เห็นถึงความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ ในส่วนที่สามคือยังมีประเด็นที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงกำลังดูในเรื่องปัญหาของการโยกย้ายแต่งตั้งที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายอยู่ก็จะต้องสะสางโดยเร็ว อีกทั้งยังมีเรื่องการเตรียมการที่จะมีการโยกย้ายแต่งตั้งประจำปีด้วย จึงเป็นภาระใหญ่ 3 ข้อที่ต้องดำเนินการในช่วงนี้ เป็นการมอบนโยบายเฉพาะช่วงที่พล.ต.อ.วิเชียรรักษาการแทน ณ ขณะนี้คำสั่งก็เป็นระหว่างวันที่ 5-14 ส.ค.