ปชป.เชื่อรัฐบาลจัดฉากม๊อบหน้าบ้านพล.อ.เปรม

คม-ชัด-ลึก

ปชป. เชื่อรบ.จัดฉากม๊อบปหน้าบ้าน ป๋าเปรม โยงใยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารทักษิณ เชื่อปั่นกระแสลอบสังหารเกินจริงหวังผลแง่จิตวิทยา ชี้ไม่ลงพื้นที่ไม่เกี่ยวกับปชป.เพราะวางตารางไว้ต่อเนื่องอยู่แล้ว

(26สค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเรียกตัวเองว่า รากหญ้า เคลื่อนไหวเรียกร้องขอชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษว่า น่าเชื่อได้ว่าเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลอบสังหารนายกฯ เมื่อพิจารณาดูแล้วน่าจะเป็นม็อบที่ทำขึ้นเป็นขบวนการ เริ่มต้นจากการปล่อยข่าวลอบสังหารนายกฯ โดยมีการขานรับจากรมว.มหาดไทย จนกระทั่งถึงแกนนำในคณะรัฐบาลหลายคน จนกระทั่งมีการจับได้ว่าจะมีการลอบสังหารนายกฯ ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นขบวนการที่เกี่ยวข้องกันทั้งทางตรงและทางอ้อม

สิ่งที่น่าสังเกตมากคือทำไมจึงมีการจงใจจัดตั้งม็อบ เพื่อมาขอชีวิตนายกฯจากพล.อ.เปรม มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าต้องการแสดงให้เห็นว่าพล.อ.เปรม เกี่ยวข้องกับการเอาชีวิตพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นที่ม็อบจะมาขอชีวิตพ.ต.ท.ทักษิณ จากพล.อ.เปรม ไม่มีอำนาจหน้าที่ในทางตรง หรืออ้อม ที่จะปกป้องรักษาชีวิตของบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือนายกฯเห็นว่าการกระทำของม็อบเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และเชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ดังนั้น อยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนว่า ใครอยู่เบื้องหลังการจัดม็อบในครั้งนี้

ส่วนกรณีที่นายกฯออกมาแฉว่ามี 4 นายทหาร ทั้งในและนอกราชการ อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร ซึ่งประเด็นนี้เห็นว่า ถ้านายกฯได้รับข้อมูลดังกล่าวก็สั่งให้มีการสืบสวน สอบสวนในทางลับได้ เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาความผิดจากบุคคลเหล่านี้มาลงโทษอย่างจริงจัง เพราะเมื่อใดก็ตามที่นายกฯ ประกาศหรือให้ข่าวนี้ ถ้าเป็นความจริง เชื่อว่า ขณะนี้ 4 นายทหารก็จะพยายามทำลายหลักฐานไปแล้ว เพื่อไม่ให้ตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่เป็นความจริง นายกฯ ก็จะถูกตั้งข้อสังเกต หรือครหานินทาได้ว่าพยายามที่จะให้ข้อมูลข่าวสารเกินความจริง

ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่า นายกฯ พยายามที่จะปั่นกระแสลอบสังหารให้สูงเกินจริง เพื่อหวังผลจิตวิทยาการเมืองหรือไม่ เพราะข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายกฯ ควรจะเป็นข้อมูลในการขยายผลการจัดการผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างจริงจัง มากกว่าจะเป็นข้อมูลที่นำมาเปิดเผยรายวันต่อสาธารณชน และผู้ที่เปิดเผยเป็นถึงนายกฯ ควรจะระวังในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ ยกเว้นนายกฯมีเจตนาอย่างอื่น

ผมคิดว่านายกฯ และบุคลในรัฐบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ พยายามให้ข้อมูล หรือพูดจาขยายเหตุการณ์จนเกินความจริง มาถึงวันนี้บุคคลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ ไม่ควรใช้ข้อมูลข่าวสารเกินความจริง เพราะไม่เป็นผลดีกับการสืบสวน สอบสวนและยังก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในสังคม โดยเฉพาะตัวนายกฯไม่ควรที่จะพูดหรือสร้างความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้นในสังคม แต่ควรพยายามทำให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด อยากตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมนายกฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือในช่วงที่ผ่านมา พยายามปิดปากไม่ยอมพูดกับสื่อในเรื่องการเมือง แต่หลังจากเกิดเหตุ นายกฯกลับใช้ทุกวาระโอกาสในการแสดงความคิดเห็น เรื่องลอบสังหารอย่างละเอียด รวมทั้งการบอกเล่าข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งหลายข้อมูลนายกฯไม่จำเป็นต้องออกมาบอกเล่ากับสื่อ จึงอยากถามว่า ทำไมนายกฯ ถึงพูดเรื่องนี้มากผิดสังเกต หวังผลทางการเมืองอย่างใดหรือไม่ หรือมีเจตนาบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ นายองอาจ กล่าว

ส่วนกรณีที่พี่สาวของร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ ผู้ต้องหาในคดีลอบสังหาร นายกฯออกมาเปิดเผยว่า ภรรยาของ ร.ท.ธวัชชัย เล่าให้ฟังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้เกลี้ยกล่อมสามีให้ออกมารับสารภาพ เพื่อที่ครอบครัวจะได้ไม่เดือดร้อน และถ้าไม่ยอมรับสารภาพก็จะตายในคุกแน่นอนนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คำบอกเล่าของภรรยา ร.ท.ธวัชชัย ถือว่าเป็นคำบอกเล่าที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะชี้ให้เห็นถึงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีความบริสุทธิ์ใจในการทำงานมากน้อยแค่ไหน และได้ทำงานไปตามกระบวนการของการสืบสวน สอบสวน ภายใต้กฎหมายอย่างจริงจังหรือไม่ หรือมีความพยายามกระทำการใด ๆ นอกเหนือกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่ควรสืบสวนสอบสวน ร.ท.ธวัชชัย ภายใต้สิทธิพื้นฐานของรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ไม่ควรใช้วิธีการนอกระบบใด เพื่อนำไปสู้เป้าหมายที่ตนเองวางเอาไว้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรใช้วิธีการเกลี้ยกล่อม และข่มขู่ให้รับสารภาพ การที่บอกว่าถ้าร.ท.ธวัชชัย ไม่รับสารภาพถือว่าเป็นการข่มขู่ ผู้กล่าวหา อย่างไม่ควรเกิดขึ้น ในคดีสำคัญเช่นนี้ ตำรวจควรทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ควรทำงานตามใบสั่งใด ๆ ของผู้มีอำนาจทางการเมือง การรับใช้ผู้มีอำนาจในทางที่ผิด ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง วันหนึ่งความจริงต้องปรากฏ และอยากฝากว่า ผู้มีอำนาจที่พยายามบงการ สั่งการ ไม่สามารถอยู่ค้ำฟ้าได้จนวันตาย วันหนึ่งคนเหล่านี้ก็ต้องหมดอำนาจไป เมื่อถึงวันนั้นความจริงก็ต้องถูกชำระสะสาง และถูกพิพากษากาตามกระบวนการยุติธรรม นายองอาจ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรัฐบาล ภายใต้การดูแลของพ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศไทยจะอยู่ภายใต้ รัฐตำรวจพร้อมที่จะใช้อำนาจ เพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจมากกว่าพี่น้องประชาชน เพราะอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือคนในรัฐบาล ตำรวจก็จะเร่งรัดดำเนินการ แต่อะไรที่เป็นโทษกับคนรัฐบาล หรือนายกฯ ตำรวจก็จะทำงานอย่างเชื่องช้า เช่น กรณีการวางระเบิดที่พรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการสืบสวนแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย และรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีงดลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเป็นสิทธิของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ เราไม่ได้คำนึงถึงผลได้ผลเสียเพราะเป็นคนละเรื่องกัน และไม่ได้อยู่บนพื้นฐานการเคลื่อนไหวของนายกฯเพราะการดำเนินงานการเมืองของพรรคมีกำหนดการอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ลงพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หรือคำนึงถึงเรื่องการเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ ต้องเป็นคนตอบ เพราะมีความสลับซับซ้อน ลับลมคมในเยอะเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะหลายเรื่องมีการวางแผน หรือมีความคิดแอบแฝง หลายครั้งการกระทบอย่างหนึ่ง เพื่อหวังผลอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้น การดำเนินงานของนายกฯ นับจากนี้ เป็นการดำเนินการที่ไม่ตรงไปตรงมา แต่มีผลแอบแฝงอย่างต่อเนื่องและส่งผลต่อการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ลอบสังหาร จะเป็นผลดีต่อพรรคไทยรักไทยหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะออกมาอย่างไร ตราบใดที่ผลการสอบสวนยังไม่ออกมา คงไม่สามารถชี้ชัดเรื่องนี้ได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์