สนธิ แฉเล่ห์ แม้ว เกาะเก้าอี้นายกฯ รอรับเงินเทมาเส็ก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2549 05:50 น.

"สนธิ" ขึ้นเวทีรับอรุณแฉเลห์แม้วเลือกทางยุบสภา เพราะต้องการซื้อเวลายึดเก้านายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าเทมาเสกจะจ่ายเงินค่าขายหุ้นให้ อีกทั้งหวังโกยค่าหัวคิวจากโครงการเมกะโปรเจ็คอีกมากมาย ก่อนจะลงจากตำแหน่ง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชาเพื่อประชาธิปไตยขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุม ณ ท้องสนามหลวงเมื่อเวลา 04.50 น.ที่ผ่านมาของเช้าวันที่ 6 มี.ค. กล่าวชื่นชมน้ำใจวงดนตรีที่ร่วมต่อสู้กับประชาชน ระบุ น้ำใจเป็นสิ่งที่พรรคไทยรักไทยไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยรู้ว่า "น้ำใจไม่ได้ตัดสินกันที่เม็ดเงิน แต่ตัดสินด้วยจริยธรรม คุณธรรม ความรัก ความบริสุทธิ์ และความจริงใจ" นอกจากนี้พรรคไทยรักไทยยังทำให้สังคมไทยเริ่มกลายเป็นสังคมเลือดเย็น เห็นแก่เงินไปด้วย

แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่า เหตุที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ลงยอมลงจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เพราะว่าขณะนี้บริษัทเทมาเส็กยังจ่ายเงินให้พ.ต.ท.ทักษิณไม่ครบ 73,000 ล้าน เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งจ่ายแล้วที่สิงคโปร์เป็นเงินดอลลาร์ และอีกส่วนที่เหลือราว 2-3 หมื่นล้าน เทมาเส็กตั้งใจจะมากู้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยตั้งบริษัทขึ้นสองบริษัท ให้นายพงส์ สารสิน มาเป็นประธาน

"คุณพงส์ เป็นคนที่น่าจะอับอายขายหน้าชาติตระกูลตัวเอง ทั้งที่ตัวเองมีพ่อ คือ คุณพจน์ สารสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่มีคุณูปการกับแผ่นดิน แต่ทำไมมีลูกที่ไปรับใช้นายทักษิณเช่นนี้ ..น่าอาย.. ผมอยากฝากไปให้ตระกูลสารสิน ไปตักเตือนนายพงศ์ ซึ่งอายุมากแล้ว ให้รู้ว่าอีกไม่กี่ปีก็ต้องตาย ถ้าจะตายทั้งทีก็ควรจะไว้ชื่อไว้เสียง เผื่อลูกเผื่อหลานจะไม่ถูกคนก่นด่า"

นายสนธิระบุว่า บริษัททั้งสองบริษัทที่ตั้งไว้ มีทุนจดทะเบียนราว 400 ล้านบาท แต่กลับไปขอกู้เงิน 2 หมื่นล้านบาทจากธนาคารไทยพาณิชย์ และเมื่อถูกเปิดโปงถึงความไม่ชอบมาพากล ทางธนาคารจึงทบทวนคำขอดังกล่าว และเห็นว่าทางบริษัทจำเป็นต้องเพิ่มทุนอีกหากต้องการขอกู้ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ทางบริษัทเทมาเส็กจึงต้องหาหุ้นส่วนมาหุ้นเพิ่ม

"ติดต่อปูนซีเมนต์ไทย เขาก็ปฏิเสธ ไม่รู้จะทำยังไง เลยติดต่อคุณเจริญ เบียร์ช้างให้เข้ามาร่วม แต่ล่าสุดก็ได้ยินว่าไม่เอาเหมือนกัน สรุปว่า 2 หมื่นล้านนี้ยังไม่ได้จ่าย ที่หน้าด้านอยู่ก็เพราะงกเงิน!"

ทั้งนี้ นายสนธิกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คิดหาทางหนีทีไล่ไว้แล้วสามทาง คือ 1) ลาออก 2) หนีออกนอกประเทศ 3) ยุบสภา โดยแผนยุบสภานี้ถือว่าเป็นการรุกทางการเมือง เป็นการรุกที่เตรียมตัวถอยไปด้วย ระหว่างที่ยังไม่ได้รับเงินจากเทมาเส็ก ส่วนที่ต้องยุบสภากะทันหัน ก็เพื่อเป็นการสั่งสอนสมาชิกพรรคไทยรักไทยบางส่วน ที่เชื่อว่าจะหักหลังด้วยการไปร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

"ทักษิณ ยุบสภาเสร็จกำหนดการเลือกตั้งตามนิสัยที่ชอบเอารัดเอาเปรียบผู้คน รวมทั้งมีกุนซือชื่อนายเนวิน ชิดชอบ แต่คนคำนวนมิสู้ฟ้าลิขิต เมื่อพรรคฝ่ายค้านไม่ลงเลือกตั้งถึงกับทำสติแตก วิ่งพล่านบอกว่าอภิสิทธิ์อยู่ไหนพร้อมจะไปหา เหมือนที่จะมาหาเพื่อนสนธิที่บ้านพระอาทิตย์ และยังไปร่วมมือกับพรรคยิบย่อยๆ ที่ซุกอยู่ตามชื่อ เหมือนพรรคแอมเพิลริช"

นอกจากนี้ นายสนธิยังกล่าวว่า มีกระแสการต่อต้านจากทั้งหมดหมอและนักวิชาการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างรุนแรง จนกระทั่งทนไม่ไหวก็เลยไปตั้งเวทีอีกฝั่งของสนามหลวง ออดอ้อนว่าจะขออยู่แค่ปีเดียวแล้วปฏิรูปการเมือง ปีเดียวเพื่อให้เทมาเสกจ่ายเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ

"ปีเดียวเพื่อให้เมกะโปรเจคมันจบจะได้แดกอีกครั้ง นี่คือเบื้องหน้าเบื้องหลังจองการมาออดอ้อน ใช้เงินภาษีอากรใช้เงินที่โกงกินมาจ้างคนเชียงใหม่ฟังตัวเองพูดที่สนามกีฬาเชียงใหม่ จ้างคนที่ขอนแก่นฟังตัวเองพูด พี่น้องเห็นความเจ้าเลห์แสนกล ทั้งๆ ที่เป็นรัฐบุรุษได้ เห็นแก่เงินทั้งผัวและเมีย เห็นประโยชน์ส่วนตัวมาบังตา โกหกบอกผู้สวื่อข่าวต่าง ประเทศว่าหุ้นชินครอปเป็นของลูก แต่ลูกบอกเองว่าผู้ใหญ่สั่งให้ขาย"

"นายคนนี้ไม่มีระเบียบที่บ้านเป็นคนสกปรก เพราะเป็นคนซุกหุ้น ชอบซุกของใต้พรมใต้เก้าอี้ เลยเป็นเหตุให้ซุกหุ้นด้วย เป็นโชคร้ายเป็นเวรเป็นกรรมของบ้านเมือง ตอนนี้พวกเราต้องใช้เวรใช้กรรมกับนายทักษิณ ชินวัตร หวังว่าอีกไม่กี่วันประเทศไทยจะได้พ้นเวรพ้นกรรมเสียที"

ชีวิตคนเราเกิดมา ถ้าไม่ทำเพื่อชาติ ทำให้ตัวเอง ทุกคนมีสิทธิ์ เราค้าขายเพื่อลูกหลาน ประชาชนทำอาชีพสุจริต ไม่ทำความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน จ่ายเงินให้สรรพกรอย่างซื่อตรง ก็เป็นประชาชนที่สมบูรณ์แบบ แล้วยังมีหน้าที่พ่อ แม่ ลูก ครู ลูกศิษย์ ฯลฯ สำหรับหน้าที่นายกต้องซื่อสัตย์สุจริตก่อน ต้องดูแลแผ่นดินไทย รักคนภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอิสาน ทุกคนเท่าเทียมกัน น้ำตาไหลทางใต้ นายกฯทางเหนือก็ต้องไปซับน้ำตาให้ นี่คือ หน้าที่ข้อแรกของนายกฯ คือให้ความยุติธรรม รักประชาชนเท่าเทียมกันหมด แต่ทักษิณไม่มี นับเป็นคนอำมหิต พอรู้ว่า หลอกคนใต้ไม่ได้ ก็ถีบหัวส่ง พอหลอกคนเหนือได้ คนอิสานได้ ก็แวะเวียนไปพูดที่ภาคอิสาน ที่ภาคเหนือ

คนอำเภอเชียนบุรีซึ่งเป็นบ้านเดียวกับนายสุธรรม แสงประทุม ฝากมาว่า ไม่ต้อนรับนายสุธรรมอีกต่อไป เพราะข้อแรกไม่มีความยุติธรรม ไม่มีเท่าเทียม ข้อสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเช่นเดียวกับนายกฯ ในหลวงมีพระราชโองการในการเป็นผู้นำรับใช้บ้านเมือง ด้านประชาชน 19 ล้านคน ก็ให้สิทธิมาปกครองอย่างซื่อสัตย์ ไม่ได้ให้สิทธิมาโกง แต่ทักษิณพอได้สิทธิมาก็โกง โกงเป็นแสนๆล้าน

ข้อสามเป็นนายกฯต้องมีจริยธรรม เหมือนพระนอนกับสีกาไม่ได้ นายกฯไม่มีธรรมก็เหมือนโจร และข้อสี่ยังเป็นคนสร้างความแตกแยกในศาสนา แทนที่จะสร้างความสมานฉันท์

ส่วนข้อห้าสร้างความแตกแยกเป็นฆาตกร ทำให้พ่อแม่พี่น้องภาคใต้ ตายเป็นเบือ ...ฯลฯ ยังไม่นับจริยธรรมในการเลี้ยงลูก ชาวต่างชาติได้ถามตนว่า ทักษิณเป็นนายกฯได้อย่างไร

นายสนธิกล่าวทิ้งท้าย ว่าตอนนี้ เราจุดเทียนให้สังคมสว่างแล้ว...ด้วยจิตคารวะ ไม่เคยมีประวัติศาสตร์ ที่มีประชาชนชุมนุมประท้วงเต็มสนามหลวงในตอนดึกตอนรุ่งสางเช่นนี้ วันนี้ ตนไม่มีอะไรให้ มีแต่ชีวิต ใจ ขออุทิศชีวิตที่เหลือต่อสู้เพื่อพ่อแม่พี่น้อง ขอโอกาสทำงานทางภาคประชาชน ขอเป็นตัวแทนให้ต่อสู้จนตาย