คมชัดลึก :“จ.ส.อ.ปัญญา" ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงถล่ม“สนธิ" ส่งทนาย ยื่นฟ้อง“พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์. -พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ปฏิบัติหน้าที่มิชอบกลั่นแกล้งให้รับโทษอาญา ม.157 และ 200 ขณะที่ทนาย ระบุ จ.ส.อ.ปัญญา เตรียมมอบตัวก่อนไต่สวนมูลฟ้อง 5 ต.ค.นี้ ยันถิ่นที่อยู่ขณะเกิดเหตุยิงสนธิ 17 เม.ย. ร่วมเป็นกรรมการงานผ้าป่าสามัคคี จ.ตราด
(3ส.ค.) ศาลอาญา เวลา 10.00 น. จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ลพบุรี
ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ ได้มอบอำนาจให้นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. และ พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น. ) จำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมโดยมิชอบกลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200
โดยคำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.52 เวลา 05.45 น. มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสนธิกับพวกได้รับบาดเจ็บที่ ถ.สามเสน แขวงสามพระยา เขตพระนคร กทม.
ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. ได้ทำบันทึกถึง ผบ.ตร. ผ่าน พล.ต.อ.ธานี รอง ผบ.ตร. จำเลยที่ 1 ขออนุมัติให้ข้าราชการตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุมคดีสำคัญ ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี จำเลยที่ 1 ผู้มีอำนาจหน้าที่ในฐานะปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ได้อนุมัติข้าราชการตำรวจ 10 นาย เป็นคณะทำงานสืบสวนคดี จนกระทั่งได้ตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และคณะรวม 10 นาย ต่อมาวันที่ 22 เม.ย.-13 ก.ค.52 พล.ต.อ.ธานี และ พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ จำเลยที่ 1-2 ร่วมกับข้าราชการตำรวจ ที่มีอำนาจสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
โดยจำเลยทั้งสอง ไม่ได้มุ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องเที่ยงธรรมและยุติธรรม แต่มีเจตนาพิเศษกลั่นแกล้ง
กล่าวหาว่าโจทก์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จากนั้นวันที่ 13 ก.ค. จำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุมัติหมายจับ และเบิกความกล่าวหาว่าโจทก์เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยา ยามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดโดยผิดกฎหมาย พาไปในที่สาธารณะ และสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปทำการเป็นซ่องโจรเพื่อทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จ ทั้งที่ความจริงโจทก์ไม่ได้เป็นคนร้ายหรือเกี่ยวข้องใดๆกับกลุ่มคนร้าย เพราะตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. โจทก์พักอยู่ที่ ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยวันที่ 17 เม.ย. โจทก์ไปร่วมเตรียมการและจัดการเป็นคณะกรรมการการเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณวัดดินแดง ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลและพยานภาพถ่ายที่จะนำส่งศาลในชั้นพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของโจทก์
โดยศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2673/2552 และจะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 5 ต.ค. นี้ เวลา 09.00 น
ขณะที่นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ กล่าวว่า จ.ส.อ.ปัญญา ได้ติดต่อตนผ่านญาติขอให้มาช่วยเป็นทนายความ ซึ่งตนได้พบจ.ส.อ.ปัญญา ที่ร้านอาหาร ย่านประชาชื่น โดยยืนยันว่าจะขอมอบตัวพนักงานสอบสวนแน่นอนก่อนวันไต่สวนมูลฟ้อง อย่างไรก็ดี จ.ส.อ.ปัญญา ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุลอบยิงนายสนธิ จ.ส.อ.ปัญญา เป็นกรรมการงานทอดผ้าป่า ที่มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธานฯ ส่วนสาเหตุที่ยังไม่มอบตัวเพราะเกรงความไม่ปลอดภัย และจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ
นายบัญญัติ ทนายความ กล่าวว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เตรียมนำพยาน 3- 4 ปาก เข้าเบิกความ ซึ่งจะมีจ.ส.อ.ปัญญา และนายทหารที่อยู่ในงานทอดผ้าป่า ที่มีภาพถ่ายบันทึกใน แผ่นวีซีดี เป็นหลักฐาน ยื่นต่อศาลประกอบการพิจารณา