พท.ขู่ยื่นถอดมาร์คล้วงโผตร.ระงับโยกย้ายรอ ผบ.ตร.คนใหม่ เติ้งเตือนถอยให้สุเทพดูหวั่นตกภาวะลำบาก

พท.อัด"ปชป." ฉวยโอกาสล้วงโผ ระงับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจนกว่าจะมีผบ.ตร.คนใหม่ ขู่ยื่นปธ.วุฒิถอดถอน"อภิสิทธิ์" เติ้ง"ห่วง"มาร์ค " ลำบากหากมีการร้องศาลปกครองแตะโผตร.เตือนให้ถอยปล่อย"สุเทพ"ดูตอนนี้ตำรวจนิ่งแล้วเอาเวลามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า

พท.อัด"ปชป. " ฉวยโอกาสล้วงโผ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวผ่านสื่อมวลชนว่าจะให้มีการระงับโผการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจไว้ก่อนจนกว่าจะมี ผบ.ตร.คนใหม่นั้น พรรคเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำต้องห้ามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ประกอบมาตรา 268 เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบของ ก.ตร.มาแล้ว ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซง

ขู่ยื่นปธ.วุฒิถอดถอน"อภิสิทธิ์"

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์สั่งชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ขอตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นไปเพื่อให้ฝ่ายการเมืองเข้าควบคุมจัดการวางกำลังไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเข้าองค์ประกอบที่จะถูกถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เนื่องจากถือว่านายอภิสิทธิ์มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นประธาน ก.ตร.โดยตำแหน่ง แต่ประธาน ก.ตร.อำนาจคือกำหนดแนวนโยบาย ส่วนการบริหารบุคคลเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ก.ตร. นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองไม่มีอำนาจเข้าไปเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นการเมืองจะเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายได้

"เรื่องดังกล่าวพรรคจะขอตรวจสอบในรายละเอียดก่อนรวบรวมหลักฐานและรายชื่อ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้วุฒิสภามีมติถอดถอนนายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า" โฆษก พท.กล่าว

"ผมทราบข้อมูลมาว่าสาเหตุที่นายกฯไม่แถลงความชัดเจนว่าจะปลดหรือไม่ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วานนี้ อาจเกี่ยวข้องกับที่ผมได้รับร้องเรียนมาว่าเพราะมีคนจากแก๊ง 4 สหายและคนใกล้ชิดนายกฯ เข้าไปเพื่อขอตั๋วทางการเมือง ขอเข้าไปมีส่วนในเรื่องโผโยกย้ายแบบ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยการเมืองขอ 70 และให้ตำรวจจัดการเอง 30 โดยเฉพาะการเข้าควบคุมโผระดับนายพล แต่ ผบ.ตร.คนนี้ยึดมั่นในหลักการจึงนำมาสู่การถูกบีบปลดออกจากตำแหน่ง เรื่องนี้ ผบ.ตร.รู้ดีที่สุด" นายพร้อมพงศ์กล่าว
 
เติ้ง"ห่วง"มาร์ค " ลำบากแตะโผตร.

ที่สุพรรณบุรี นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงความสับสนที่เกิดขึ้นกรณีนายอภิสิทธิ์พูดไม่ตรงกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ทั้งเรื่องคดียิงนายสนธิ และเรื่องชะลอโผแต่งตั้งนายตำรวจที่ผ่านความเห็นชอบ ก.ตร.แล้ว เป็นห่วงนายกรัฐมนตรีมาก  หากมีการฟ้องร้องต่อศาลปกครองแล้วจะทำให้นายกฯต้องประสบกับภาวะลำบากได้

"ผบ.ตร.เป็นตำแหน่งสำคัญ แต่ก็มีอาถรรพ์มักจะอยู่กันไม่ครบวาระ ส่วนตัวรู้จักทั้ง พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.อ.พัชรวาท ทั้งสองคนเป็นคนดี แต่สงสัยว่าทำไมอยู่ในกรมเดียวกันถึงพูดกันไม่รู้เรื่อง ถ้าให้ข้อมูลคนละทางปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน ข้อมูลต่างๆ ต้องชัดเจน ผมฝากตอนนี้น้ำไม่กระเพื่อมแล้ว ตำรวจก็นิ่งแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจมีมาก ปัญหาไข้หวัด 2009 นายกฯควรเอาเวลามาแก้ปัญหาเหล่านี้ ส่วนคดีนายสนธิก็ให้ตำรวจทำไป" นายบรรหารกล่าว

ให้ถอยออกมาปล่อย"สุเทพ" ดู

นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ได้ติติง แต่อยากให้ข้อสังเกตกับนายกรัฐมนตรี ว่าถ้าจะย้าย ผบ.ตร. หรือเปลี่ยนโผ อาจส่งผลกระทบให้เสียงของรัฐบาลตกต่ำลงได้ ควรให้นายสุเทพดำเนินการในฐานะรับผิดชอบเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีควรออกห่างมาเลย จะได้ไม่เสียทำอย่างนี้ดีไม่ดีจะขาดทุน ส่วนกระแสข่าวว่าต้องการปรับเปลี่ยนโผตำรวจเพื่อเป็นฐานอำนาจเตรียมรับการเลือกตั้ง ก็ต้องระวังเพราะอาจถูกมองไปเช่นนั้นได้

นายบรรหารกล่าวว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่ทราบ และหากมี ผบ.ตร.คนใหม่ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกเดือนตามความเหมาะสม ไม่ต้องตามฤดูกาล เรื่องการปลด ย้าย ชะลอ อาจทำให้คนมองได้ว่าเป็นเรื่องต้องการเปลี่ยนแปลงโผนายตำรวจได้ ไม่ใช่เรื่องคดียิงนายสนธิ ถ้านายกฯทำอะไรไปรัฐบาลและนายกฯจะเสีย อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้

"ไม่แน่ใจว่าคดีนายสนธิจะเชื่อมโยงไปถึงระดับใหญ่ ระดับสูงจริงหรือไม่ อาจแค่ระดับกลางหรือมีการสั่งการจากต่างประเทศตามที่มีข่าวก็ได้ จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ ไม่รู้ว่าพูดแรงไปหรือไม่ แต่อยากพูดเหมือนกับอาเตือนหลาน" นายบรรหารกล่าว และว่า ส่วนตัวมีความชอบพอกับนายสนธิ แม้ว่าจะเคยถูกกล่าวพาดพิงถึงแต่ก็ไม่ถือสาและติดตามข่าวเอเอสทีวีทุกคืนทำให้รู้สึกเป็นห่วง เวลานายสนธิกล่าวโจมตีคนอื่นมากมาย เป็นห่วงอนาคตว่าจะมีปัญหาเพราะศัตรูมาก