นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าววันที่ 30 กรกฎาคมถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)
ระบุว่ามีนายทหาร 13 คน และตำรวจ 1 คน ร่วมเป็นทีมสังหารตนเอง ว่า ขอยืนยันว่าไม่ว่าตำรวจจะสืบสาวไปถึงใคร ต่อให้เป็นพล.ต. พล.ท. หรือพล.อ. ก็ออกหมายจับดำเนินการได้ทุกคน เชื่อว่าทหารทั้งกองทัพไม่ได้มายุ่งเกี่ยวด้วย นี่เป็นเรื่องส่วนบุคคล นาย ก นาย ข นาย ค ใครก็ทำผิดได้ แต่อย่าไปโยงว่าทั้งสถาบันทำผิด
ส่วนกรณีที่นายสนธิระบุว่ามีเหตุให้ปลดพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มากมาย
โดยเฉพาะกรณีปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ตนไปประชุมร่วมกับตำรวจที่เมืองพัทยา จ. ชลบุรี ได้รับคำชี้แจงว่าหากไปสกัดกั้นม็อบเสื้อแดงแล้วมีการปะทะบาดเจ็บขึ้นมา ตำรวจจะถูกดำเนินคดีอาญา และมีการยกเหตุการณ์ปิดล้อมีรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ขึ้นมา ตนจึงไปว่าให้เขียนคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรเลยว่าให้ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่ตน แต่ตำรวจบอกว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีข้อกฎหมายรองรับ หรือช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงมายึดสถานที่ต่างๆ จนเกิดจลาจลกลางเมือง ตนได้ขอให้ทหารมาช่วยรักษาความสงบ ก็ต้องขอบคุณที่ทหารช่วยออกมาช่วยทำงานให้
“วันนี้ถ้าใครจะมายุยงปลุกปั่นให้ผมมีปัญหากับคนเหล่านี้ ผมไม่เอาด้วย ผมไม่มีปัญหาด้วย เพราะแยกมิตรแยกศัตรูได้ชัดเจน วันนี้คนในบ้านเมืองหลายคนแยกมิตรแยกศัตรูไม่ชัดเจน รบกันไปหมดทุกคนอย่างนี้ บ้านเมืองก็แย่ ผมไม่เดินด้วยในแนวทางนี้”
เมื่อถามว่า ขณะนี้มิตรเก่าอย่างพธม. ยังเป็นมิตรกับนายสุเทพอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อ่านข่าวเองแล้วกัน ไม่ต้องมาถาม
เมื่อถามว่า คิดว่าใครเป็นมือป่วน หรืออยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ นายสุเทพกล่าวว่า เดี๋ยวประชาชนก็เห็นเอง ไม่มีใครสามารถปิดบังข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด แต่ขอร้องว่าอย่าพยายามทำร้ายตน เพราะกำลังทำงานให้บ้านเมือง และไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหากับนายอภิสิทธิ์ ถ้าเมื่อไรที่สังคมคิด หรือพูดอย่างนั้น หรือตนรู้ตัวเองว่าเป็นอย่างนั้น ตนลาออกทันที แม้แต่สื่อมวลชน 4-5 คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ถ้าเข้าชื่อกัน หรือยกมือกันแล้วบอกให้ตนลาออก ตนก็ไปแล้ว ตนมันประเภทอย่างบาง ไม่ต้องกลัว