"มท.-สว.-ภท."ลุย ผนึกต้านล่าชื่อ แดงย้ำเดินหน้า เตือนอย่าขวาง
 ค้านล่าชื่อ - ป้ายขนาดใหญ่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงหน้าร.พ.วิภาวดี ข้อความให้หยุดล่ารายชื่อถวายฎีกาช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทย ลงทุนทำและติดตั้งตามจุดใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ |
องคมนตรีแถลงไม่ได้ถกฎีกา
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี เผยแพร่เอกสารแถลงข่าวระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนและหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า ในการประชุมคณะองคมนตรี ที่ทำเนียบองคมนตรี เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งมีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธาน ได้ยกประเด็นของกลุ่มคนเสื้อแดงที่รวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาพูดคุยนั้น สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรีขอแจ้งให้ทราบว่า คณะองคมนตรีมิได้นำเรื่องนี้พูดคุยกันตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่ประการใด จึงขอแถลงข่าวมาให้ทราบโดยทั่วกัน
นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่า การประชุมองคมนตรี เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ไม่ได้หยิบยกกรณีกลุ่มเสื้อแดงจะดำเนินการถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขึ้นมาพิจารณาตามข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนการดำเนินการดังกล่าวจะทำได้หรือไม่นั้น ไม่ทราบ ขอให้ไปสอบถามจากนักกฎหมาย แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงกระแสสังคมที่มีการดึงสถาบันมาข้องเกี่ยวกับการเมือง แต่ไม่ขอฝากสิ่งใดไปยังประชาชน ในฐานะตัวแทนองคมนตรี ขณะที่ส่วนตัวยึดถือหลักของพระพุทธศาสนาในเรื่องกฎแห่งกรรม
"ใครทำกรรมไม่ดีก็จะได้ผลลัพธ์ไม่ดี ใครทำกรรมดีก็จะได้ผลดี โดยอาจจะช้า หรือเร็วแตกต่างกันไปบ้าง แต่ผมเชื่ออย่างนั้น ตามหลักนี้ เพราะไม่เช่นนั้นคงเป็นโรคประสาทไปแล้วเหมือนกัน" นายอำพล กล่าว
"บิ๊กป๊อก"ปัด-ไม่ขอแสดงความเห็น
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวใหญ่ขับไล่รัฐบาลอีกครั้งในเดือนส.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแนวทางอะไร และขอไม่แสดงความเห็นกรณีเสื้อแดงล่ารายชื่อถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้ประชาชนแตกแยกมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าคิดอย่างนั้น กองทัพก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องยื่นเรื่องถวายฎีกาหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ไม่มีประโยชน์ ผมไม่พูด" เมื่อถามถึงองคมนตรีเห็นว่าการถวายฎีกาเป็นเรื่องไม่เหมาะสม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การประชุมองคมนตรี ตนจะไปแสดงความเห็นคงไม่ได้ คิดว่าสังคมไทยมันจะไปกันใหญ่ ต้องไปสัมภาษณ์คนที่ประชุม
"ยิ่งลักษณ์"ปัดไม่เกี่ยวชินวัตร
เมื่อถามว่าในฐานะคนไทยมองอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การพูดของตนเป็นประเด็นไปหมด เพราะเป็นผบ.ทบ. ถ้าจะถามคนไทยต้องออกไปข้างนอกถามได้เลย หากถามในฐานะคนไทยต้องเป็นอีกเรื่อง ต้องไม่เป็นประเด็น
เมื่อถามว่าการกระทำของเสื้อแดงมีความเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากเมืองไทยมีความขัดแย้งกันอยู่ กองทัพจะพยายามทำให้สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบสุขโดยจะไม่แสดงความเห็น เพราะการแสดงความเห็นไปในด้านใดด้านหนึ่ง มันจะส่งผล ซึ่งตนไม่อยากมีส่วนด้วย
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งร่วมคณะของนายยงยทุธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร จ.ชลบุรี ให้สัมภาษณ์กรณีองคมนตรีระบุเป็นการไม่บังควรที่เคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณว่า คนในตระกูลชินวัตรไม่ได้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องการให้ความช่วยเหลือพ.ต.ท. ทักษิณ
กมธ.วุฒิสภาเรียก"มาร์ค"ชี้แจง
เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา มีพล.อ.อ.ณพฤษภ์ มัณฑะจิตร ส.ว.สรรหา เป็นประธานที่ประชุม ได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ มาชี้แจงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงรวบรวมรายชื่อเพื่อเตรียมถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ.อ.ณพฤษภ์ พร้อมด้วยนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ส.ว.สรรหา และน.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี แถลงผลการประชุม
นายคำนูณ กล่าวว่า ในการหารือกับนายกฯนาน 1 ชั่วโมง นายกฯเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการว่า ขณะนี้มีการละเมิดสถาบัน โดยมีกลุ่มบุคคลที่ดำเนินการทุกรูปแบบทั้งดึงมวลชน ล่ารายชื่อ การใช้เวทีในรัฐสภา รวมทั้งใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ ซึ่งกรรมาธิการเสนอนายกฯว่ารัฐบาลดำเนินการล่าช้า ตกเป็นฝ่ายรับ จึงอยากให้รัฐบาลเป็นฝ่ายรุกบ้าง โดยนายกฯดำเนินการได้ทันทีผ่านรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" โดยนายกฯต้องพูดชี้แจงว่าสิ่งที่กลุ่มคนดังกล่าวดำเนินการถูกต้องหรือไม่ รัฐบาลควรเร่งบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด คือประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ. ความมั่นคง และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับเหตุการณ์ช่วงเดือนเม.ย.
ปชป.หนุนภท.ต้านถวายฎีกา
เวลา 08.00 น. ที่ขสทบ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยออกมารณรงค์ต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดงลงชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า การถวายฎีกาเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่บังควร และเชื่อว่ามีคนไทยอีกจำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะคนไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ประสงค์ให้ใครไปกระทำการใดๆ ที่กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท ถ้าใครกระทำในลักษณะนี้คนไทยก็ไม่พอใจ เพราะหลายคนไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายไปมากกว่านี้ ความไม่พอใจจึงมีแน่นอน
เมื่อถามว่าแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการรณรงค์ของพรรคภูมิใจไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ใครก็เห็นด้วยทั้งนั้นว่าการถวายฎีกาไม่เหมาะสม ไม่บังควร ซึ่งทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมายหรือไปละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น
นายสุเทพ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า การที่ญาติตนลงสมัคร อบจ.แต่ไม่ได้ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้แพ้เลือกตั้ง 1,000 กว่าคะแนน และเป็นที่วิจารณ์ว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่ที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ทั้งนี้หากมีเวลาตนจะลงไปช่วยหาเสียงมากขึ้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเมืองที่มีการแข่งขันกัน แต่บรรยากาศที่สุราษฎร์ธานีเป็นบรรยากาศของคนที่เข้าใจการเมืองดีทั้งผู้สมัคร ผู้ลงคะแนนเสียง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามประชาธิปไตย ไม่มีปัญหา คนสุราษฎร์ธานีเป็นคนดีไม่นิยมความรุนแรง
รองโฆษกแถลง-ไม่เหมาะสม
เวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคไม่สบายใจเรื่องการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เกี่ยวกับความพยายามล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคขอยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมและทำไม่ได้เนื่องจากขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ผู้ถูกพิพากษาต้องรับโทษทางกฎหมายก่อน แต่พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมหลบหนีความผิดอยู่ เท่ากับไม่ถูกต้องตามกระบวนการ นอกจากนี้ผู้ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นผู้กระทำผิดเอง หรือภรรยา และบุตร ส่วนการล่ารายชื่อประชาชนนั้น ล่าสุดมีกระบวน การหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดในประเด็นการขอพระราชทานอภัยโทษ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่พรรคแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 28 ก.ค.นั้น ไม่น่าจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งหลายองค์กรก็ไม่เห็นด้วยอย่างสภาองคมนตรี รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงมั่นใจว่าการรณรงค์ต่อต้านการถวายฎีกานี้น่าจะได้ผล
"กอร์ปศักดิ์"รับให้น้องดูแลตู้น้ำ
เวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านแฉมีทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงในการจัดซื้อตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว และตนจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบ ซึ่งจะมีการประชุมในต้นสัปดาห์หน้า และจะแถลงให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตรวจสอบเรื่องความโปร่งใสภายในชุมชนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าโทษชุมชน ในอดีตไม่เคยมีโครงการในลักษณะนี้ เพราะโครงการเอสเอ็มแอลไม่เคยมีในพื้นที่กทม. จึงไม่เข้าใจในหลักการที่ให้คน 70% มารวมตัวกัน เมื่อสำนักงานลดเหลือ 50% และต้องดูว่าเมื่อลดแล้วจะยื่นโครงการเข้ามาหรือไม่ เพราะขณะนี้มีเพียง 200 กว่าชุมชนที่ยื่นเข้ามา ส่วนฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไรนั้นตนไม่ขอตอบโต้
เมื่อถามว่ามีการโยงว่าน้องชายของนาย กอร์ปศักดิ์ เข้าไปเกี่ยวข้อง รองนายกฯ กล่าวว่า "ผมยอมรับว่าเป็นน้องผมเอง ผมอุตส่าห์ไปอ้อนวอนให้เขามาช่วยทำงาน เขาเคยเป็นทั้ง ส.ว.และส.ส. แต่คราวนี้มาเป็นตำแหน่งแค่รองผู้อำนวยการเงินเดือน 40,000 กว่าบาท ถ้าหาข้อพิสูจน์มาได้ว่าน้องชายผมเกี่ยวข้อง ผมจะไล่น้องผมออก แต่จริงๆ มันไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้เกี่ยว เขามีประสบการณ์เรื่องชาวบ้าน จึงให้เขามาช่วย เขามีประสบการณ์การันตีได้ 1,000% " นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับการที่ส.ก.และส.ข. ของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งบริษัทตู้น้ำขึ้นมารองรับโครงการนี้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เกี่ยวเรื่องอะไร
เมื่อถามว่านายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุความไม่โปร่งใสโครงการนี้ชัดเจนกว่าเรื่องสปก.4-01 เสียอีก รองนายกฯ กล่าวว่า "เดี๋ยวก็ฟังกัน ชัดหรือไม่ชัดเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์กัน การตัดสินใจจัดซื้อจัดจ้างไม่ใช่หน้าที่ของเรา เรามีหน้าที่อย่างเดียว คือบอกชาวบ้านให้มาตกลงกันให้ดี มีกรอบให้ว่าจะต้องทำเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นหากอยู่ในกรอบก็ทำไป แต่การจัดซื้อจัดจ้างเป็นเรื่องของประชาคม ไม่เกี่ยวกับโครงการ เราไม่ได้เป็นคนอนุมัติว่าให้ไปซื้อตู้น้ำ เขาจะไปซื้อของใครอยู่ที่ประชาคม และสิ่งที่เราจะเร่งทำให้โปร่งใสคือเอาราคากลางส่งไปให้ประชาคมดู หากมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องผมส่งให้ป.ป.ช.สอบ ไม่มีปัญหา ถ้าใครเกี่ยวข้องผมก็ส่งหมด"
"มาร์ค"เชิญ5พรรคร่วมหารือ
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชิญหัว หน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน เพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองและประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายสุวิทย์ คุณกิตติ แกนนำพรรคกิจสังคม โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมหารือด้วย ในส่วนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ไม่ได้ส่งตัวแทนมาหารือ เนื่องจาก น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ใช้เวลาหารือ 45 นาที
นายชาญชัย กล่าวก่อนเข้าหารือว่า จะมีการพูดคุยเรื่องการทำงานในรอบ 6 เดือนของรัฐบาล ซึ่งถือทำงานได้ดีและเร็ว เข้าขากันได้ดี นโยบายที่ผ่านมาก็นำไปสู่การปฏิบัติได้ พรรคเพื่อแผ่นดินก็เป็นมิตรกับทุกพรรค ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคมีจุดยืนอยู่แล้วว่าต้องให้เป็นประชาธิปไตย เบื้องต้นได้คุยกันในกรรม การบริหารพรรคแล้วแต่ยังไม่ตกผลึก ซึ่งจะมีการหารือกันอีกครั้งในการประชุมพรรคอังคารหน้า ส่วนผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องดีที่มีการตั้งโจทย์ขึ้นมา 6 ประเด็น ต้องมาพิจารณาร่วมกันว่าจะตัดหรือเพิ่มประเด็นใดบ้าง เรื่องนี้ก็ต้องฟังเสียงประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศด้วย
โยนสภารับข้อเสนอกก.สมานฉันท์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า การหารือส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ มีการพูดคุยกันว่าแต่ละพรรคคิดและมีจุดยืนอย่างไร ก็มีการคุยกันในหลายๆ ประเด็น โดยสรุปก็เห็นร่วมกันว่าประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา เมื่อสภาเปิดประชุมสมัยสามัญก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรคการเมืองในสภาจะดำเนินการกันอย่างไร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะพูดคุยกันในพรรคก่อน เพราะหลังจากคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ได้ทำข้อเสนอมาพรรคก็ต้องมาคุยกันว่าคิดอย่างไร ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ตรงกับพรรคอื่น ไม่ได้หมาย ความว่าถูกกดดัน เพราะเราเห็นว่าก็เป็นแนว ทางหนึ่งที่สังคมให้ความสนใจ และควรมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายในการคิด
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การหารือกันวันนี้ก็เป็นจุดยืนของรัฐบาลที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา ดังนั้น รัฐบาลจะไม่เป็นหัวหอกหรือเจ้าภาพในการเดินหน้าเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องของสภาที่จะเป็นเจ้าภาพในการที่จะเสนอแก้ไข จากนี้ไปจะเป็นกระบวนการของพรรคการเมืองที่จะกลับไปคุยกัน ไม่ว่าจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรม นูญ เมื่อถามว่าไม่กลัวจะถูกกล่าวหาว่าเตะถ่วงหรือยื้อเวลา นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ามีคนมองได้ทุกด้าน แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรม นูญนั้นประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรย่อมส่งผลกระทบต่อความเห็นของประชาชนโดยรวม การหารือเบื้องต้นของรัฐบาลวันนี้ก็ได้จุดยืนชัดเจนว่าเป็นเรื่องของสภา หลังจากนี้ทุกพรรคต้องกลับไปคุยกัน วันนี้ไม่ได้มีการถามว่าแต่ละพรรคเห็นอย่างไร หลังจากนั้น ทุกพรรคจะกลับมาแลกเปลี่ยนความเห็นอีกครั้ง
อ้างไม่ใช่เรื่องด่วน-ไม่เป็นเจ้าภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องเป็นวาระเร่งด่วนของสมัยประชุมสภานิติบัญญัติหรือไม่ นาย สาทิตย์ กล่าวว่า ยังมีเรื่องอื่นที่ด่วนกว่า เช่น วุฒิสภาก็ต้องประชุมเรื่องพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน สภาผู้แทนราษฎรก็มีเรื่องที่ต้องยืนยันพ.ร.ก.ซึ่งทางวุฒิสภาไม่เห็นด้วย เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าไม่ต้องจำเป็นเร่งด่วน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังมีเวลาที่จะคิดกันและกลับไปสำรวจจุดยืนของตัวเอง วันนี้ก็ไม่ได้พูดถึงเงื่อนไขว่าต้องให้ทันในสมัยประชุมนี้ หรือเรื่องของเวลา เมื่อถามว่าประเด็นที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้พูดกันหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า มีการพูดในรายละเอียดค่อนข้างมาก รวมถึงการทำประชามติเพื่อถามประชาชนในรายมาตรา แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะต้องทำหรือไม่ อย่างไรก็ตามแต่ละพรรคควรกลับไปหารือกันก่อนและรัฐบาลจะไม่เป็นฝ่ายเสนอแก้ ให้เป็นเรื่องของสภา
นายชุมพล ศิลปอาชา กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้รับรายงานจากคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ แล้วได้ส่งให้แต่ละพรรคไปพิจารณา เบื้องต้นเห็นว่าเรื่องนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของรัฐสภา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล นอกจากนั้นได้หารือถึงการทำงานทั่วๆไป ซึ่งเห็นว่าการประชาสัมพันธ์ในส่วนของรัฐบาลและนายกฯ ต้องมีการทำให้มากขึ้น โดยจะให้มหาดไทยไปประสานกับวิทยุชุมชนทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกระจายข่าวเกี่ยวกับรัฐบาลและนายกฯ พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เสนอประเด็นใดๆ เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับครม.
เสื้อแดงยันเดินหน้าถวายฎีกา
เวลา 13.30 น. ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมแถลงถึงจุดยืนในการยื่นถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรายังคงยืนยันในความชอบธรรมในการยื่นถวายฎีกาโดยไม่หวั่นไหวกับระบบอมาตยาธิปไตย ทราบว่ามีความพยายามจะล้มการยื่นถวายฎีกาในครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้ที่มาร่วมลงชื่อถวายฎีกาทะลุ 1 ล้านคนไปแล้ว และคาดว่าจะมีมากกว่านั้น เราจึงขอเดินหน้ายื่นถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาธิการในเร็วๆ นี้ เพราะถือว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน ส่วนการเคลื่อนไหวในเกมล้มการถวายฎีกา ขณะนี้ทราบว่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวจากฝ่ายอำมาตย์ ตั้งแต่เบี้ยยันขุน สะท้อนได้จากข่าวประชุมองคมนตรีที่มีการหารือคัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามปกติ การประชุมองคมนตรีจะเป็นความลับ อีกทั้งยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ที่ประชุมพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้ โดยจะออกมาคัดค้านถวายฎีกาคนเสื้อแดง และทราบว่าพรรคภูมิใจไทยยังเคลื่อนไหวใต้ดิน เพื่อขัดขวางการถวายฎีกา โดยรับลูกจากฝ่ายอำมาตย์ ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดีลมหาประลัย ระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ ภูมิใจไทยและฝ่ายอำมาตย์ เนื่องจากศาลจะตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวิน ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งอาจมีการแลกเปลี่ยน รับงานขัดขวางการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงกับคดีกล้ายาง คนเสื้อแดงขอให้ประชาชนจับตาการตัดสินของศาลในวันที่ 17 ส.ค.นี้ด้วย
เรียกร้อง"บิ๊กเสือ"ชี้แจงฟอกเงิน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้จับตาดูการแถลงผลงานของรัฐบาลวันที่ 3 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ตนจะขอให้คนเสื้อแดงให้ร่วมกันใส่เสื้อสีดำ เพื่อแสดงความไว้อาลัยและเสียใจต่อการบริหารประเทศ ของรัฐบาล และการตกอยู่ภายใต้ระบอบอมาตยาธิปไตยของประเทศ
เมื่อถามว่าขั้นตอนถวายฎีกาของคนเสื้อแดงจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากรวบรวมรายชื่อ และตรวจสอบรายชื่อเสร็จสิ้น เราจะไปถวายฎีกาที่สำนักราชเลขาธิ การ และจะหยุดดำเนินการทุกอย่างในทันที
นายจตุพร กล่าวว่า จากรายงานข่าวในที่ประชุมองคมนตรี ซึ่งมีองคมนตรีคนหนึ่งได้แก่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ระบุมีอดีตนายกฯคนหนึ่งไปฟอกเงินที่เกาะเคย์แมน 1.8 หมื่นล้านบาท ตนไม่ทราบว่าพล.อ.พิจิตร เป็นอัลไซเมอร์หรือไม่ ตนมองว่าข่าวการฟอกเงิน เป็นความพยายามจะโยงให้เห็นว่ามีการนำเงินมาใช้เคลื่อนไหวถวายฎีกา จึงขอเรียกร้องให้บุคคลที่ออกมาพูดรับผิดชอบ
ยันชุมนุมใหญ่สนามหลวง31ก.ค.
นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมที่สนามหลวงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ตนทราบว่ากทม.จะขัดขวางการชุมนุม โดยจัดงานที่ฝั่งวัดพระแก้ว ทางกลุ่มเสื้อแดงยืนยันจะจัดงานอยู่เช่นเดิม คือตั้งแต่ 12.00 น.วันที่ 31 ก.ค. จนถึง 06.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. แต่จะย้ายไปจัดที่ฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้า ส่วนที่มีข่าวระบุการยื่นถวายฎีกาจะใช้ถ้อยคำที่ไม่สมควรนั้น ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงจะไม่มีใครไปเขียนถ้อยคำที่ไม่สมควรอย่างแน่นอน
นายจตุพร กล่าวว่า ขอตั้งคำถามไปยังพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ว่าหากข่าวการประชุมองคมนตรีเป็นจริง และมีความเห็นจะคัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ต้องถามว่าหากพล.อ.เปรมเห็นว่าคนเสื้อแดงถวายฎีกาไม่ได้ และครั้งหนึ่งทำไมให้พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท ไปรับการยื่นถวายฎีกาของนายสนธิ ลิ้มทองกุลได้อย่างไร ส่วนการรับงานของพรรคภูมิใจไทยที่จะออกมาช่วยขัดขวางคนเสื้อแดง เราจะคอยจับตาดูว่าวันที่ 17 ส.ค.นั้น เป็นเรื่องแปลกที่ให้นายแก้วสรร อติโพธิ ซึ่งเคยเป็นคตส. และเป็นโจทก์ฟ้องนายเนวิน ไปเป็นพยานให้นายเนวินในคดีดังกล่าว
นพดลเผยแม้วเร่งทีวีดาวเทียม
ด้านนายวีระ กล่าวว่า หากองคมนตรีไม่รู้หน้าที่ของตน แต่มาพูดจาเลอะเทอะเรื่องการฟอกเงิน โดยไม่มีหลักฐาน ตนอยากจะให้พิจารณาตนเองด้วยการลาออก
นายนพดล ปัททมะ อดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ไม่มีการเคลื่อนไหวด้วยวิธีการฟอกเงิน เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพราะการฟอกเงินผิดกฎหมาย จึงอยากเรียกร้องให้พล.อ.พิจิตร เปิดเผยว่าอดีตนายกฯคนดังกล่าวคือใคร สังคมจะได้หมดความสงสัย เพราะเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ อีกทั้งที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าทำทีวีดาวเทียม เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งท่านบอกว่ากำลังเร่งดำเนินการในเรื่องเนื้อหาของทีวีช่องต่างๆ อยู่ อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเข้ามาร่วมรายการบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจด้วย
มท.-ส.ว.สรรหาแถลงต้านฎีกา
เมื่อเวลา 14.00 น. โรงแรมรัตนโกสินทร์ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ในฐานะโฆษกฝ่ายข้าราชการ ประจำ แถลงข่าวต่อต้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้กับพ.ต.ท. ทักษิณ ร่วมกับ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต สว. สรรหา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ สว.สรรหา ประธานสมาคมนักปกครองแห่งประเทศไทย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย สมาคมรถตู้โดยสารต่างจังหวัดแห่งประเทศไทย สหพันธ์ครูแห่งประเทศไทย สมาคมการศึกษาตลอดชีวิต คาราวานคนจน กลุ่มคาราวานอีสานกับลานนา ชมรมรักในหลวง สมาคมแท็กซี่มิเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการร่วมจรรโลงรักษาแผ่นดินไทย ไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา เพราะการถวายฎีกานับเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสับสนอลหม่านแก่คนในชาติ และส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ เพราะการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับอดีตนักการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น ถือเป็นการสร้างความวุ่นวายที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนและสร้างความแตกแยกในสังคมไทย ผู้เคยมีอัตลักษณ์ของความรักใคร่ปรองดอง การถวายฎีกาดังกล่าวขัดต่อกระบวนการทางกฎหมาย และก้าวล่วงจารีตประเพณี เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ สิ่งที่ทำอยู่นั้นสร้างความไม่เป็นเอกภาพให้ประชาชน การถวายฎีกาจึงไม่ใช่เรื่องของจำนวนประชาชนที่ร่วมลงชื่อ ไม่ว่าจะมีจำนวน 1 ล้าน 2 ล้าน หรือ 3 ล้านคน แต่เป็นเรื่องที่จะต้องสอดคล้องต่อระบบนิติรัฐ ไม่ใช่ประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งแม้แต่พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ก็ยังทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงไม่มีผู้ใดสามารถละเมิดรัฐธรรมนูญได้
ดันอปท.-ครูร่วมต้านแดงล่าชื่อ
พ.ท.กมล กล่าวว่า การขออภัยโทษ จะทำได้ก็ต่อเมื่อคดีสิ้นสุดและมีการจำคุก แต่กรณีนี้ถูกตัดสินเพียง 1 คดี ยังมีอีก 7 คดี ที่จะต้องติดตาม แต่มีการปลุกปั่นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กระทำความผิดแต่ถูกกลั่นแกล้ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรคนที่จะยื่นถวายฎีกาได้มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ และต้องให้เจ้าตัวมาติดคุกก่อนแล้วค่อยมาขอ ตอนนี้จะเอาสิทธิ์อะไรไปขอ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เทศบาล อบต. อบจ. จะร่วมกันแถลงข่าวต่อต้านการยื่นถวายฎีกา ในเวลา 10.00 น. เพื่อบอกให้ประชาชนทั้งประเทศไม่ให้ร่วมเซ็นชื่อเพราะอาจจะเข้าข่ายหมิ่นพระราชอำนาจ หากจงรักภักดีจริงอย่าเซ็น
ม.ร.ว.ปรียนันทนา กล่าวว่า ส.ว.มีความกังวล และไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้เซ็นชื่ออย่าไปเซ็น ส่วนใครที่เซ็นไปแล้วต้องหาทางแก้ไขโดยด้วย เพราะการล่ารายชื่อดังกล่าวเป็นการกดดันในหลวงทำให้พระองค์ไม่สบายพระทัย ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่เกิดประโยชน์ต่อคนเพียงคนเดียว
ผู้แทนจากสมาคมครู กล่าวว่า ครูทั่วประเทศประมาณ 6 แสนคน ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่ไม่ถูกต้องและจะแนะนำนักเรียนให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง
ภท.ขึ้นป้ายคัดค้าน4มุมเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวในครั้งนี้ มีประชาชนมาร่วมรับฟังประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนจากสมาคมที่มาร่วมแถลงข่าว นักศึกษา และผู้ที่อยู่ในละแวกโรงแรมรัตนโกสินทร์ ร่วมถึงผู้ที่เดินสัญจรผ่านไปมา โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยชักชวนให้มาร่วมฟัง พร้อมทั้งแจกสติ๊กเกอร์"หยุดล่าชื่อถวายฎีกา" ตัวหนังสือสีแดง โดยมีพื้นหลังเป็นสีขาว ประมาณ 5 หมื่นแผ่น
วันเดียวกัน นางศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ภายหลังพรรคภูมิใจไทยแสดงจุดยืนคัดค้านการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้พรรคได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ในพื้นที่ 4 มุมเมือง ในกรุงเทพฯ ได้แก่ บริเวณโรงพยาบาลวิภาวดี ซอยรามคำแหง 55 ทางด่วนพระราม 9 (ขาเข้า) และทางด่วนบางนา (ขาออก) ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับในโปสเตอร์รณรงค์ของพรรคที่ว่า "หยุดดึงฟ้าต่ำ หยุดทำหินแตก หยุดแยกประชาชน หยุดล่าชื่อถวายฎีกา" นอกจากนี้ในวันที่ 1 ส.ค. แกนนำพรรคภูมิใจไทย จะแจกสติ๊กเกอร์รณรงค์คัดค้านตามสถานที่ต่างๆ เช่น สวนจตุจักร เป็นต้น
โวยครูหอวังบีบน.ร.ร่วมลงชื่อ
วันเดียวกัน ที่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหอวัง กทม. เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า มีอาจารย์ผู้สอนรายวิชาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แจ้งให้นักเรียนในชั้นเรียนทราบว่า ขณะนี้มีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ และแจ้งเว็บไซต์ให้นักเรียนไปดาวน์โหลดแบบฟอร์ม พร้อมขู่ว่าหากนักเรียนคนไหนไม่ร่วมลงชื่อถวายฎีกาจะมีผลต่อผลการเรียน สร้างความอึดอัดใจให้กับนักเรียนอย่างมาก
เมื่อสอบถามไปยังนายปลองยุทธ อินทพันธ์ ผอ.โรงเรียนหอวัง ชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวขอให้สอบถามไปยังนางสุพัตรา ไผ่แก้ว รองผอ.ฝ่ายวิชาการแทน
ด้านนางสุพัตรา กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องเช่นกัน จากนั้นได้สอบถามรายละเอียดต่างๆ จากผู้สื่อข่าว และจะขอไปตรวจสอบอีกครั้ง
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า การสั่งให้เด็กทำรายงานโดยเข้าไปลงทะเบียนในเว็บไซต์คนเสื้อแดง เพื่อสนับสนุนคนถวายฎีกา ถือว่าไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และการที่เด็กมาบอกผู้ปกครองก็แสดงว่าเด็กเองก็ไม่เห็นด้วย ยิ่งกว่านั้นเรื่องนี้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กจะใช้วิจารณญาณได้เองโดยไม่ต้องไปบังคับ ดังนั้น เป็นเรื่องที่ทางผอ.โรงเรียนหอวัง จะตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากเป็นจริงตามที่ผู้ปกครองร้องเรียนจะต้องตักเตือนและขอฝากถึงโรงเรียนอื่นๆ ว่า อย่าให้เกิดกรณีลักษณะเดียวกันนี้ เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
ย้ำแถลงผลงาน-วันเกิดมาร์ค
เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 6 เดือน ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ว่า อยู่ระหว่างการเชิญรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมงานแถลง แต่ยังติดปัญหาเรื่องวันและเวลา เพราะตรงกับการประชุมวุฒิสภาที่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระ ทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.... ซึ่งยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะปิดการประชุมช่วงไหน จึงต้องจัดสรรเวลาการแถลงนโยบายของนายกฯ อีกครั้ง แต่รัฐบาลอยากให้แถลงในวันที่ 3 ส.ค. ไม่อยากเลื่อนอีกแล้ว เพราะขณะนี้ได้จัดพิมพ์เอกสารเรียบร้อยแล้ว
นายสาทิตย์กล่าวว่า ประเด็นการแถลงของนายกฯ จะพูดถึงนโยบายเร่งด่วนที่ได้ทำมาในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา และแนวนโยบายที่รัฐบาลจะทำในอนาคต จากนั้นช่วงหลังวันที่ 12 ส.ค.ไปแล้วจะพูดถึงนโยบายใน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
