ทำเนียบฯ 29 ก.ค.- “สาทิตย์” เผยนายกรัฐมนตรีหารือพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมแถลงผลงานรัฐบาล 3 ส.ค.นี้ เผยพูดคุยเรื่องประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายโยนให้สภาฯ ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
หารือร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขาดเพียงหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาที่ติดภารกิจไปต่างประเทศ
นายสาทิตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือถึงการแถลงผลงานรัฐบาลลรอบ 6 เดือน
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญรัฐมนตรีจากพรรคร่วมมาร่วมแถลงด้วย แต่ยังติดปัญหาเงื่อนเวลาในวันเวลาแถลงนโยบาย ที่ตรงกับวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันประชุมวุฒิสภาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ...พ.ศ... ซึ่งยังไม่มีกำหนดเวลาว่าจะปิดการประชุมได้ช่วงไหน ดังนั้น จึงต้องจัดสรรเวลาการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
“ความจริงรัฐบาลอยากจะได้วันที่ 3 สิงหาคม ไม่อยากจะเลื่อนอีกแล้ว แต่คงต้องจัดสรรเวลาให้พอดี เพราะขณะนี้ได้จัดพิมพ์เอกสารเรียบร้อยแล้ว โดยในการแถลงนโยบายของรัฐมนตรีจะพูดถึงนโยบายของรัฐบาลในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงแรกของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และจะมีการพูดถึงนโยบายภาพรวมของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในอนาคตข้างหน้า โดยจะเน้นที่นโยบายไทยเข้มแข็งที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบไปเรียบร้อยแล้วและจะเริ่มเดินเครื่องกลางเดือนสิงหาคม” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอีกเรื่องที่มีการหยิบยกขึ้นมาหารือ
โดยนำข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพูดคุย แต่มีความเห็นที่หลากหลาย และเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องหารือกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พูดคุยกันคือจุดยืนของรัฐบาล และเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา รัฐบาลจึงจะไม่เป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ ฉะนั้นต่อไปนี้จะเป็นกระบวนการของพรรคการเมือง
ส่วนที่ถูกวิจารณ์ว่ารัฐบาลซื้อเวลาในเรื่องนี้นั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีคนมองทั้งสองด้านอยู่แล้ว แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้น แต่ละพรรคต้องนำกลับไปหารือกันก่อน.-สำนักข่าวไทย