อินไซด์ไทยคู่ฟ้า...อาถรรพณ์ เก้าอี้ ผบ.ตร. อภิสิทธิ์ แตกคอสุเทพ เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล?

ข่าวย้ายพลย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กว่าสัปดาห์ที่ผ่าน 

ทำให้ปมความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงมีความเด่นชัดมากขึ้น โดยเฉพาะคดีลอบสังหารนายสนธิ  ลิ้มทองกุลแกนนำพันธมิตรคนสำคัญ ได้กระทบต่อสถียรภาพรัฐบาลอย่างไม่น่าเชื่อ


มีคำถามว่าทำไมนายอภิสิทธิ์  จึงกระโดดลงเล่นเรื่องคดีลอบสังหาร นายสนธิ ด้วยตัวเอง ที่สำคัญเข้ามาดูรายละอียดปลีกย่อย หรือจะหาพยายานหลักฐานเอง เสมือนหนึ่งไม่ไว้วางใจการทำงานของนายสุเทพ เทือกสุบรรณเลย

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ทำไมทั้งสองคนไม่คุยกันอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกับเรื่องอื่นๆ เพราะเป็นที่รู้กันว่า บุคคลทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันและต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ทำไมต้องคุยผ่านสื่อและส่งสัญญาณไปคนละทิศละทาง

สัญญาณที่ส่งจากนายอภิสิทธิ์นั้น คือต้องการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทมาช่วยราชการทีสำนักนายกรัฐมนตรี โดยยกเหตุผลเรื่องปัญหาอุปสรรคในความคืบหน้าของคดีการลอบสังหารนายสนธิ

แต่นายสุเทพ เห็นว่าแย้งว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว ที่สำคัญ พล.ต.อ.พัชรวาทเหลือเวลาในราชการอีกไม่นานก็เกษียณอายุในเดือนกันยายนนี้ ไม่ควรทำอะไรให้ไปกระทบความสัมพันธ์ทางการเมืองในระดับต่างๆ

สัญญาณที่ต่างกันดังกล่าวยิ่งทำให้สงสัยว่าวันนี้นายอภิสิทธิ์ฟังข้อมูลจากใคร และใครมีอิทธิพลเหนือนายอภิสิทธิ์  ?

สิ่งที่น่าสงสัยต่อไปคือ ปมความขัดแย้งในเรื่องคดีลอบสังหารนายสนธิ ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นแรงกดดันทางการเมืองเพื่อเป้าหมายอื่นๆของผู้มีส่วนได้เสียเรื่องนี้ หรือ ว่าเป็นปัญหาหลักที่แท้จริงเพื่อเป็นเหตุผลในการย้ายพล.ต.อ.พัชรวาท

เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้วปัญหาเรื่องการลอบสังหารนายสนธิอาจจะเป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้นที่กดดันให้นายกรัฐมนตรีย้ายพล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งต้องยอมรับว่า ตัวพล.ต.อ.พัชรวาทเอง มีความเกี่ยวพัน ในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาการเมือง เรื่องตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะว่างลงในปลายเดือนกันยายนนี้ 

แม้ว่า ความจริงแล้วฝ่ายการเมืองก็น่าจะเข้ามามีส่วนกำหนดได้ อยู่แล้วว่าจะให้ใครมานั่งในตำแหน่งดังกล่าวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพียงทำไมประเทศนี้ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพียงตำแหน่งเดียวสร้างปัญหาให้กับการเมืองไทยได้ถึงเพียงนี้

คำตอบคือ ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งอื่นๆตามโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและการโยกย้ายตำแหน่งอื่นๆประจำปี

การแต่งตั้งในตำแหน่งเหล่านี้ต่างหาก ที่ทำให้การเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติร้อนแรงแรงขึ้นมา

และมีแรงกดดันต่อนายกรัฐมนตรี จากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯบางคนที่ต้องการให้ย้ายพล.ต.อ.พัชรวาทออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้พล.ต.อ.พัชรวาท เข้ายุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายและผลักดันคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนเพื่อจัดวางคนของสายตัวเองลงไปแทนสายของพล.ต.อ.พัชรวาท


มีการอ้างเหตุผลเรื่องขั้วอำนาจใหม่ในการเมือง เพราะเชื่อว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งเป็นน้อง พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกอธิบายว่า เป็นแกนนำของขั้วอำนาจใหม่

ดังนั้น หากมองในมุมนี้จะเห็นได้ว่า ปัญหาเรื่องความคืบหน้าของคดีนายสนธิ เป็นเพียงเรื่องหนึ่งที่ถูกจุดพลุขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่เรื่องการจัดวางตำแหน่งต่างๆในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่างหาก อาจเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของเบื้องหลังเรื่องนี้

ดังนั้น ไม่ว่า นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ จะตัดสินใจในนี้ จะส่งผลสะเทือนทางการเมืองอย่างแน่นอน

เพราะหากตัดสินใจไม่ย้ายพล.ต.อ.พัชรวาทตามแรงกดดันดังกล่าวก็จะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง จากเครือข่ายแกนนำพันธมิตรฯไม่ว่าเหตุผลเรื่องความเป็นผู้นำ หรือการสร้างภาพให้นายกรัฐมนตรีอยู่ภายใต้ขั้วอำนาจใหม่  รวมทั้งอยู่ภายใต้อำนาจของสีเขียว 

แต่อีกด้านหนึ่งหากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจย้ายพล.ต.อ.ย้ายพัชรวาท  ก็จะเกิดผล สะเทือนทางการเมือง  นั้นคือนายสุเทพ จะอยู่อย่างไรใ พล.อ.ประวิทย์ จะก้มหน้านั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมต่อไปหรือ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ จะเป็นอย่างไร

เพราะพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เสนาธิการกองทัพบกรวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพไว้ใจนายสุเทพและพล.อ.ประวิทย์

รวมทั้งความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ จากพรรคภูมิใจไทย ที่มีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งกับพล.ต.อ.พัชรวาท เพราะการย้ายพล.ต.อพัชรวาท มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีและไม่ยอมบอกความจริงกับนายเนวิน คือเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำให้นายเนวินตัดสินใจแยกทางกับพรรคเพื่อไทยหันมาสนับสนุนนายอภิสิทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คงไม่แตกต่างกันในท่าทีและจุดยืนของนายเนวิน

แม้ว่า ความจริงแล้วนายกรัฐมนตรีมีอำนาจตามกฎหมายที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ เพียงแต่ช่วงเวลาที่มีเหตุผลมากที่สุดที่ต้องย้ายพล.ต.อ.พัชรวาทคือหลังช่วงเหตุการณ์วิกฤตเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาทต้องรับผิดชอบต่อความไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาความสงบภายในประเทศ เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักกมากกว่าดคีลอบสังหารนายสนธิถึงแม้ว่าจะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ก็ตาม

อย่างไรก็ตามไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร ปัญหาพล.ต.อ.พัชรวาทก็ได้เห็นขบวนการตอกลิ่มความขัดแย้ง ความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพได้เกิดขึ้นแล้วและมีวิธีการโยกคลอนความไว้วางใจและให้ความเคารพซึ่งกันระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนาสุเทพที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกัน

เป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างบุคคลทั้งสองคน เกิดขึ้นในจังหวะที่กระแสสีแดงเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีพลังทางการเมืองอยู่มากมายที่สามารถเขย่าความมั่นคงของรัฐบาลได้

ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามเกิดความขัดแย้งและความไม่ไว้วางใจระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพเกิดขึ้นจริง ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อย่างแน่นอน
 
และเข้าทางกลุ่มการเมืองที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์