สัมภาษณ์พิเศษ
วันนี้ พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา วิเคราะห์ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะผู้ปฏิบัติในพื้นที่
ทั้งเรื่องโครงสร้าง การข่าว ที่ทำให้แนวทางการดับไฟใต้ตุปัดตุเป๋จนถึงวันนี้ รวมถึงการไซฟ่อนเงินจากรัฐไปสู่ขบวนการก่อความไม่สงบ
แนวทางการดับไฟใต้
การรักษาความปลอดภัยจากภัยคุกคามของกระบวน การและองค์กรอาชญากรรม ที่ผ่านมาอย่างเหตุที่เกิดขึ้นกับครู เพราะยังมีช่องว่างเรื่องการคุ้มครอง เราทำได้แต่มันตายตัวจนฝ่ายตรงข้ามรู้หมดว่าไปจุดไหน มารับมาส่งเวลาเท่าไหร่ มันต้องประยุกต์ ภาษาอังกฤษใช้ว่า Home Guard คือการมีส่วนร่วมของชุมชน ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลกันเอง ใช้กำลังจากในพื้นที่
สิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้ทำกันคือ การข่าวทางลึก ทุกวันนี้เราเห็นแต่ข่าวพอระเบิดตูมๆ ก็เอาหมอพรทิพย์ (โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์) ลงไป
การทำงานข่าวมันต้องเกาะติด แบบหนังสายลับ ค่อยๆ เก็บหลักฐานทีละน้อย ติดตามแกนนำแต่ละระดับ ปลอมตัว แฝงเข้าไปใกล้ชิด เช่น เป็นคนขับรถ เผลอก็แอบขโมยข้อมูล ถามว่าทำไมเคจีบี (หน่วยข่าวรัสเชีย) ถึงมีเจ้าหน้าที่เป็นคนอเมริกัน เพราะเขารู้ว่าต้องใช้งานใคร ดูแลเจ้าหน้าที่หาข่าวดีมาก มีหนี้สินส่วนตัวยังใช้ให้เลย
การข่าวทางลึกไม่ง่ายบ้านเราคงเกิดยาก เพราะเวลาเกิดเหตุการณ์มีวัฒน ธรรมอย่างหนึ่งคือ ตำรวจก็เร่งจับ เร่งแถลง ไมค์จ่อปาก อย่างนี้ภาษาฝรั่งเรียกว่า "ปีศาจอยู่ในรายละเอียด" ผมเลยไม่ค่อยให้เน้นหนักมากกับการตั้งองค์กรใหม่ที่จะเป็นองค์กรถาวร แต่อยากเน้นให้ทุกฝ่ายที่ทำงานมานั่งคุยกันมากกว่า ว่าแต่ละโปรเจ็กต์ที่ทำกันอยู่นั้นเป็นอย่างไร
ปัญหาที่สำคัญคือ เรื่องเงิน ความจริงที่เกิดขึ้นคือเงินราชการ งบประมาณราชการถูกดูด ถูกไซฟ่อนไปสู่ขบวน การก่อความไม่สงบจำนวนมากโดยไม่มีใครรู้ เช่น งบด้านการศึกษาที่ให้กับโรงเรียนสอนศาสนาต่างๆ
อย่างเรื่องการแจกทุนไปเรียนตะวันออกกลาง หน่วยราชการก็รู้ บางทีจำเป็นจริงๆ แค่ 50 ทุน แต่ขอมา 100 ทุน เงินรัฐบางส่วนจึงถูกดูดออกไปสู่ขบวนการ ต่างจากสมัยเก่าที่ขบวนการอยู่ได้ด้วยค่าคุ้มครอง เรียกค่าคุ้มครอง ไม่ยอมให้ก็ทำร้าย เผา แต่เดี๋ยวนี้ใช้เงินแผ่นดินก็ไม่น้อย บวกกับเงินที่เขาได้รับบริจาคอีกส่วน
ที่มันเละเทะอยู่อย่างนี้เพราะเราคิดแต่จะเอาเงินเข้าไป ปีหนึ่งเป็นแสนล้านบาท แต่ไม่ดูความจริงว่าปีศาจมันอยู่ในรายละเอียด เหมือนกับม้าลำปางที่มองตรง วิ่งตรงอย่างเดียว หน่วยงานความมั่นคงก็มองแต่มิติ ของความมั่นคง เอ็นจีโอก็มองแต่มติศาสนา สังคม วัฒนธรรม
และก็มีปัญหาอีกคือนักการเมืองชอบไปบอกว่าต้องเอาโครงการแบบนั้นแบบนี้ เพราะ 3 เดือนผมจะเลือกตั้งแล้ว อะไรที่ได้ผลเกิน 3-4 ปี นักการเมืองไม่สนเพราะมองเรื่องการตลาด
แนวคิดอย่างหนึ่งของผม พูดไปแล้วเชื่อว่าโดนรุมเหยียบแน่ คือ บางคนมีความคิดว่าถ้าเราไปยอมรับผิด ไปขอโทษแล้วจะแก้ปัญหาได้ ไปบอกว่าในสมัยโบราณตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เราเป็นฝ่ายไปไล่กวาดต้อนเขา สันติวิธีอย่างนั้นไม่ถูกต้อง สันติวิธีที่ดีที่สุดคือต้องอย่าไปสื่อว่าปู่ย่าตายายเราเคยไปรุกราน เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นพัฒนาการของมนุษย์จากจุดเริ่มต้นมาถึงยุคลูกหลาน
เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้ให้รัฐบาลนำไปแก้ไขหรือไม่
หลายคนเข้าใจผิดว่าสมช. คือซีไอเอ มันไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันเป็นการใช้สมช.สนองการเมือง สมช. เป็นหน่วยงานนักคิด แต่สมช.ไม่ใช่หน่วยราชการปกติ มันต้องเป็นหน่วยงาน Think-Tank (คิดและวิจัย) ไม่ใช่หน่วยทำงานประจำ หรือทำแต่งานเอกสาร
แต่เขามองว่ามันต้องยอมรับผิดก่อน คือไปยอมรับความขมขื่นทางประวัติศาสตร์ แต่สันติวิธีแบบนั้น ถ้าไปใช้กับพวกแบ่งแยกดินแดนเข้าทางเลย แต่สมช.เราไม่เดินไปแบบนั้น เขาก็ว่าสมช.ชอบใช้ยุทธวิธีแบบตามแก้ คนในสถาบันพระปกเกล้า อย่าง นายโคทม อารียา นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ก็พูดแบบแนวคลาสสิคของเขา ก็ว่ากันไป แต่เราไม่เดินแบบนั้นหรอก
มองยุทธศาสตร์ด้านการทหาร โดยเฉพาะงบการทหารเรื่องภาคใต้อย่างไร
ต้องดูจากเนื้องาน ถ้างานคุณไม่ส่งผลแสดงว่าเป็นส่วนเกิน ยกเลิกไปก็ได้ ถ้าเราเอาเงินเป็นตัวตั้งเขาก็เขียนโครงการมาเสนอขอเงินได้ตลอด แต่ถามว่าทำไมทหารจึงอยู่ในพื้นที่เยอะผมก็เข้าใจ เพราะเราทำงานแบบตั้งรับ ไม่รุก รู้ว่ามีโจร 2 คนจะปล้นบ้านแต่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ก็ต้องขนทหารไปเฝ้าไว้
เราใช้โมเดลหินทับหญ้าในด้านกำลังทหาร เหมือนกับสงครามในไนจีเรีย ใช้กำลังในอัตรา 11:1 โจรมี 6,000 คน ใช้ทหาร 60,000 คน มันก็เป็นงบจำนวนมหาศาล วิธีแบบนี้จะไปไม่รอด ต้องใช้เวลาค่อยๆ ปรับลดกำลังลง
กลุ่มก่อความไม่สงบตอนนี้มีกี่กลุ่ม
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ก็มีการจับตัวเจ้าเมืองไปขังไว้ที่พิษณุโลก ผลที่เกิดตามมาคือเกิดการซ่องสุมกำลัง เมื่อแกนนำออกมาแล้วมาทำกองกำลังแล้วข้ามไปมาเลเซีย ถึงขนาดมีสายสัมพันธ์ฝากให้รับราชการกันได้ มันมีสายสัมพันธ์กับพรรคปาสในมาเลเซีย ยุคนั้น พัฒนามาจนมีกลุ่ม เช่น จีเอ็มไอพี บีอาร์เอ็นที่เคร่งด้านศาสนา
หลังการก่อการร้ายเริ่มเข้าไปในอัฟกานิสถาน มีการทำจีฮัด (สงครามศาสนา) เริ่มฝึกกองกำลังที่ลิเบีย ช่วงนั้นการก่อการร้ายเริ่มเข้ามามีบทบาทในหลายภูมิภาค มีการอบรมนักรบจากปากีสถาน ตั้งองค์กรที่ใช้กำลังเพื่อมาเรียกร้องจากรัฐไทย จึงมีหลายองค์กรมาร่วมกันตั้งขบวนการเบอร์ซาตู และสถาปนาดร.วัน อับดุลกาเดร์ เจ๊ะมาน เป็นผู้นำเป้าหมายเพื่อแบ่งแยกดินแดน กลุ่มนี้ก็เคลื่อนไหวในไทย
ขณะเดียวกัน ยังมีอีกพวกที่ไม่ต้องการแยกดินแดนแบบขาดออกจากกัน เพราะกลัวเลี้ยงตัวเองไม่ได้ เรียกร้องอีกแบบคือให้ปกครองตัวเอง เลือกตั้งเอง อยากให้ดำรงสถานะเป็นสาธารณรัฐอิสลาม โดยจำลองโมเดลจากการต่อสู้จนเกิดสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
ปัจจุบัน มีหลายกลุ่มยังคงสภาพการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น บีอาร์เอ็น ซึ่งใช้วิธีการความรุนแรงเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มนี้จะก่อเหตุทุกรูปแบบ ส่วนการชักจูงปลุกปั่นเยาวชน จะเป็นฝีมือของพวกพูโลและเบอร์ซาตู
พูโลเกิดจากบีรอ กอตอนีลอ ซึ่งมาจากนักรัฐศาสตร์ จึงเห็นได้ว่าแผนโรดแม็ปต่างๆ ส่วนมากจะมาจากพูโล พูโลในอดีตเขียนแผน เขียนกฎหมายไว้เรียบร้อยหมด เขียนไว้นานแล้ว ผ่านมาก็เกิดพูโลเก่าและใหม่ มีการเดินสายไปตะวันออกกลาง แต่สุดท้ายไปไหนไม่ได้ก็ไปปักหลักแถบสแกนดิเนเวีย ทำเว็บไซต์โจม ตีรัฐบาลไทยอยู่ที่นั่น แล้ว พยายามส่งใครต่อใครมาขอเจรจากับรัฐบาลตลอดเวลา กลุ่มพูโลนี้แหละ ที่มาจูงพล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผบ. ทบ. จนออกมาแถลงข่าว แต่เราเช็กแล้วความจริงเป็นพวก พูโลไม่มีบทบาท
ที่พล.อ.เชษฐา แถลงร่วมกับกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้แสดงว่าไม่ใช่ตัวจริง
ผมถามว่าเมื่อพวกนั้นเป็นเครือข่ายของพูโล และไม่ได้ควบคุมในพื้นที่ มันเก็บค่า หัวคิว ไม่มีอิทธิพลอะไรในพื้นที่เลย
แล้วระดับแกนนำตัวจริงที่คุมการก่อเหตุในพื้นที่ ทางการรู้จักตัวบ้างไหม
เรามีรายชื่อหมดที่เรียกกันว่า Order Of Battle หรือเรียกภาษาทหารว่า "ทำเนียบกำลังรบ" แต่ผมคงเปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลลับมากด้านความมั่นคง แต่หน่วยข่าวจะแยกหมด มีชื่อหมด แต่หาตัวไม่ได้ ไม่รู้อยู่ฝั่งไทยหรือฝั่งโน้น ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถติดตามคนเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
ที่ผ่านมาทางการมาเลเซียให้ความร่วมมือในการรวบตัวแกนนำให้บ้างหรือไม่
มันก็พูดยาก เขาเองก็ต้องคำนึงถึงมุสลิมด้วยกันเองด้วยถ้าทำอะไรลงไป แล้วมีเรื่องฐานเสียงอีกต่างหาก ทำอะไรไปมีหวังคะแนนเสียงจบ
รัฐบาลนี้บอกว่ามาถูกทางแล้ว
มาถูกทางตันมั้ง (หัวเราะ) ที่ว่ามาถูกทางในเรื่องสร้างงานสร้างเงินนั้นใช่ แต่ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วชาวบ้านจะได้ความสงบหรือปลอดภัย ถ้าเราไปทำแบบ Islamization หรือ อิสลามานุวัฒน์ เอาเงินใส่เข้าไป น่าห่วง แล้วถ้าไปใช้วิธีการยอมรับผิดต่อไปมันจะเกิดปัญหา
วันนี้สถานการณ์ภาคใต้รุนแรงมากขึ้น เพราะเราไปทำให้เป็นการเมือง เราไปบอกว่านายกฯ คนนั้นคนนี้ไปพูดว่ายกเลิกหน่วยนั้นหน่วยนี้ แต่ตอนที่ยังมีศอ.บต. มันก็มีเหตุเกิดแล้วยังบริหารแบบมีปีศาจในรายละเอียด
อดีตเป็นสิ่งบ่มเพาะจนมาออกดอกออกผลแล้วในวันนี้ คนบางคนไปว่าเป็นเพราะมีคนไปด่าว่าโจรกระจอก มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่ มันบ่มเพาะกันมา