กกต.ประสานดีเอสไอขอตัวประจวบ สังข์ขาว (สอบคดีเงินบริจาคปชป. 258 ล. )
สอบคดีเงินบริจาคปชป. 258 ล. เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนที่ ดีเอสไอ ส่งให้ตรวจสอบการรับเงินบริจาคของ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน 258 ล้านบาท จาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ไปใช้ในการเลือกตั้งปี 2548 รวมทั้งการนำเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนในปี 2548 จำนวน 29 ล้านบาท ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งจะครบกำหนดสรุปผลสอบสวนของอนุกรรมการในสิ้นเดือนก.ค. ก่อนที่ กกต.ชุดใหญ่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป ว่า ดีเอสไอ ยืนยันยังไม่ได้ส่งตัว นายประจวบ สังข์ขาว อดีตผู้บริหารบริษัทเมซไซอะฯ ให้กับกกต. และดีเอสไอจะไม่เป็นผู้เปิดเผยรายละเอียดข้อมูลของคดีนี้ แต่จะให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ในการให้รายละเอียดความคืบหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต.พยายามติดต่อเพื่อให้ดีเอสไอ ติดตามตัวนายประจวบ เข้าให้ข้อมูลภายในเดือนมิถุนายนแต่หนังสือดังกล่าวกลับส่งมาถึงดีเอสไอในเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้นายประจวบ เคยเข้าให้ข้อมูลต่อดีเอสไอ แต่นานมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หากกกต.ต้องการให้ดีเอสไอช่วยตามตัวนายประจวบ ดีเอสไอก็มั่นใจว่าจะได้ตัวมาสอบสวน ส่วนจะเป็นเมื่อใดขึ้นอยู่กับการประสานมาของ กกต. และยังไม่มีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ดีเอสไอยังไม่ส่งสำนวนคดีนี้ให้กกต.แต่อย่างใด ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ได้ตัวนายประจวบ สังข์ขาว อดีตผู้บริหาร บริษัท เมซไซอะ มาแล้ว ซึ่งอยากให้ทางดีเอสไอ ส่งตัวมาให้ กกต. เนื่องจากกกต.ต้องการจะสอบถามเรื่องบริษัท แมซไซอะ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญของเส้นทางการเงินว่าไปถึงตรงไหนและใช้อย่างไร นอกจากนี้จะตรวจสอบว่าการใช้เงินของบริษัท เมซไซอะ ถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกกังวลในเรื่องของระยะเวลาการสอบสวน โดยเฉพาะพยานบุคคลที่อาจกลับคำได้ หากปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ “กกต.อยากให้นายประจวบมายืนยันเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้รับรองสำนวนคำให้การที่เคยให้การกับดีเอสไอไว้ว่า คำให้การนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็จะสามารถนำไปเป็นหลักฐานและใช้ดำเนินการได้ ทั้งนี้หากนายประจวบมาให้การ กกต.คงจะมีการถ่ายวีดีโอเทป ไว้เป็นหลักฐาน”นางสดศรีกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อทางดีเอสไออ้างว่า มีการบันทึกวีดีโอคำให้การของนายประจวบและยืนยันว่า ยังมีตัวตนนั้น กกต.สามารถใช้วีดีโอ เป็นหลักฐานได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ถ้าพูดถึงหลักฐานทางกฎหมายสามารถใช้ได้ในกรณีที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่หากนายประจวบยังมีชีวิตอยู่ ก็ควรจะมาให้การกับ กกต. อย่างไรก็ตามตนจะให้เจ้าหน้าที่ประสานขอวีดีโอคำให้การของนายประจวบจากดีเอสไอ ทั้งนี้กกต.จะตรวจสอบเรื่องเงินกองทุนพรรคการเมือง รวมถึงเงินบริจาคในช่วงปี 2548 ว่าการดำเนินการและรายงานมาให้ กกต.ถูกต้องหรือไม่ เพราะถึงแม้ว่าในปี 2548 จะไม่มีการกำหนดเพดานในการบริจาค แต่การรายงานของพรรคที่ส่งมาให้ กกต.จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย
ขอบคุณเนื้อหาจาก ข่าวสด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
