อ้างพัชรวาทไม่ใช่ตอขวางคดีสนธิ

คมชัดลึก :“สุเทพ” แจงเหตุไม่เสนอปลด“พัชรวาท” เพราะรายงาน 4 ฉบับตรงกันไม่มีระบุ ผบ.ตร.เป็นตอขวางคดียิง"สนธิ" ปัดไม่ใช่เกม ลับ ลวง พราง ฟัดกันเอง โบ้ยสื่อต้นเหตุทำให้สังคมสับสนเพราะหยิบข่าวลือมานำเสนอ

(27ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความขัดแย้งระหว่างนายสุเทพกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ที่เห็นไม่ตรงกันในการเสนอปลดพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า ถามจริงๆเถอะว่าสื่อมวลชนคิดจริงๆ หรือว่าตนจะไปขัดแย้งนายกฯ ถ้าไม่เชื่อมันก็เป็นข่าวลือจะไปขัดแย้งกันทำไม ตนรู้จักกับนายกฯและทำงานร่วมกับนายกฯมาเป็นเวลาร่วม 20 ปี ในชีวิตเพิ่งจะมาเจอกับ ผบ.ตร.เมื่อช่วง 5-6  เดือนนี้เอง ฉะนั้นไม่มีอะไรคุ้มค่าที่จะต้องไปขัดแย้งกัน แต่ในการทำงานเมื่อนายกฯมีบัญชา ให้ตนทำอะไรตนก็ทำตามอย่างนั้น ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานข้อมูล ข้อเท็จจริง และกฎหมาย ตนมีหน้าที่ทำรายงานให้นายกฯ ตนทำส่งไป เราจะไปบริหารบ้านเมืองตามกระแสที่มีการเรียกร้องมาอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไปลงมือทำตามเลย บ้านเมืองก็วุ่นวาย ทุกอย่างนายกฯต้องใช้เหตุและผล ดูข้อเท็จจริง ประเมินทุกอย่างและไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอารมณ์ของใครได้ง่าย ๆ 
 
ต่อข้อถามที่ว่า ปัญหาของเรื่องนี้จริงๆ อยู่ตรงไหนเพราะขณะนี้สังคมมึนงงไปหมดแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า สังคมงงไปหมดก็เพราะสื่อมวลชนเสนอข่าวตามข่าวลือ จึงทำให้สังคมสับสนขึ้น ทุกอย่างตนได้รายงานอยู่ในรายงานที่ได้กราบเรียนนายกฯไปแล้ว 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในรายงานที่พล.ต.อ.ธานีและพนักงานสอบสวนคนอื่นสรุปมีการรายงานหรือไม่ว่าใครเป็นอุปสรรคการทำคดีนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี

ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคดีนั้นตนไม่ได้ถามว่าคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์ แต่รายงานมาว่ามีความคืบหน้าและทำคดีได้เรื่อยๆวันที่ พล.ต.อ.ธานี ถือรายงานมารายงานตน ตนก็ถามว่า นอกจากผู้ต้องหา 2 คนที่ออกหมายจับไปแล้วที่เหลือจะทำอย่างไร พล.ต.อ.ธานี บอกว่ารอให้หลักฐานสมบูรณ์แล้วจะออกหมายจับต่อ ผู้สื่อข่าวถามว่า รายงานที่พล.ต.อ.ธานีและนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอีก 3 นายรายงานถึงท่าน ไม่มีข้อมูลใดที่ระบุชัดใช่หรือไม่ว่ามีบิ๊กตำรวจเป็นอุปสรรค ทำให้ท่านมีความเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปลดผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่มี และตนนำรายงานจาก 4 ฉบับแนบไปในรายงานที่ตนนำเรียนนายกรัฐมนตรีแล้วด้วย  
 

โดยรายงานของพล.ต.อ.ธานีระบุเพียงว่า มีเจ้าหน้าที่ของท่านถูกข่มขู่ แต่ท่านขอไม่บอกว่าผู้ถูกข่มขู่ชื่ออะไร และในรายงานของอีก 3 ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย

โดยได้บอกว่า ไม่มีการแทรกแซง ไม่มีการก้าวก่าย ไม่มีใครสั่งระงับยับยั้งอะไร แต่ก็ไม่เป็นไร ทางฝ่ายตนก็ยังเสาะแสวงหาข้อเท็จจริงโดยทางอื่นอยู่ โดยวิธีการอื่นๆแต่รายงานนี้เป็นรายงานเพียงเบื้องต้นเท่านั้น แต่เวลาที่เขาไปคุยที่อื่น เป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่รายงานเป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบจริง ๆ และตอบไม่ได้ว่านายกฯจะตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างไร จะตัดสินเป็นไปตามอย่างที่ท่านทั้งหลายคาดหวังหรือคิดเอาไว้หรือไม่ ตนตอบไม่ไดด้ว่าตัดสินแล้วผลเป็นอย่างไร 
 
เมื่อถามว่านายกฯแสดงท่าทีขึงขังอยู่ตลอด นายสุเทพ กล่าวว่า แน่นอนนายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ถูกต้อง ท่านก็ต้องพยายามทำให้ทุกคนทำงานให้เต็มที่ก็เท่านั้น    
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วแต่ไม่สามารถจับตัวหรือเชิญตัวบุคคลมาได้แสดงว่ายังมีอิทธิพลคุ้มครองกันอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ คนที่เป็นผู้ต้องหาส่วนใหญ่จะหลบหนีในทุกคดีซึ่งต้องติดตามจับกุมตัว เชื่อว่าในที่สุดจะติดตามจับกุมตัวได้แต่ต้องใช้เวลา ตำรวจทั่วประเทศก็ต้องร่วมมือกันในการติดตามไปอยู่ที่ไหนก็ต้องตามจับให้ได้ ตนให้กำลังใจตำรวจทุกฝ่ายขอให้ทำหน้าที่ตำรวจให้จริงจัง 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่ายังอยู่ในวิสัยที่จะดูแลให้เรียบร้อยได้ไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู นายสุเทพ กล่าวว่า จุดยืนตนคือไม่ไปแทรกแซงไม่ว่าในทางบวกหรือลบ

ไม่ว่าคดีใดถ้าทำผิดกฎหมายตนต้องการให้ตำรวจทำเต็มที่ เอาคนที่ทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทุกคดีที่เข้ามาที่ตนดำรงตำแหน่งตนพยายามให้กำลังใจและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าเป็นฝ่ายไหนก็ตาม แต่ตนจะไปลงลึกไปในรายละเอียดจนจะมีใครมากล่าวหาตนได้ ว่า ตนเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเกมลับ ลวง พราง ขัดแย้งกันเอง

ระหว่างนายอภิสิทธิ์ที่อยู่ข้างสีเหลือง กับนายสุเทพที่อิงข้างขั้วใหม่ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร กลุ่มสีเขียวและกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า โชคดีที่ไม่มากล่าวหาว่าตนไปอยู่สีแดง ไม่เช่นนั้นตนจะหนักกว่านี้ เพราะมีคนบางคนกล่าวหาตนอย่างนั้น 
 
“สื่อมวลชนอย่าไปจับแบ่งข้าง ผมกับนายกฯเดินมาทางเดียวกัน เดินมาด้วยกัน อยู่ ๆ จะมาบอกว่ายืนอยู่คนละมุมมันก็เสร็จล่ะสิ จะทำได้อย่างไร ไม่ใช่เลย ยืนยันว่าคดีนี้ไม่ใช่เกม ลับ ลวง พราง ผมไม่ทำอะไรที่ลับ ลวง พราง อย่ากังวลใจเลย และกลับไปย้อนดูประวัติศาสตร์มันเพิ่งผ่านมาไม่เท่าไหร่เอง ผมช่วยทำงานให้นายกฯ ท่านมีบัญชาอะไรผมก็ทำ เพราะคิดว่านายกฯเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุด ที่จะมาดูแลบริหารบ้านเมืองในภาวะการณ์อย่างนี้ เรามีหน้าที่ช่วยเป็นกำลังใจและช่วยทำงานให้นายกฯ ทำงานให้กับประเะทศได้ ผมเป็นกำลังของท่านนายกฯ อยู่ ๆ จะมาแยกตนออกไป อย่างนี้นายกฯก็ลำบากสิครับ ” นายสุเทพ กล่าว