´ทักษิณ´เครียดลั่น´มันทำกับผมเกินไปแล้ว´

23 สิงหาคม 2549 00:00 น.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "ทักษิณ"เครียดลั่นกลางที่ประชุมพรรค"มันทำกับผมเกินไปแล้ว" ประกาศลงเบอร์หนึ่ง แต่เว้นวรรคเปิดทางหนุนคนหนุ่มให้มาเป็นนายกฯแทน สั่งอดีตส.ส.จัดม็อบชนม็อบ เตือนอดีตสส.กทม. อย่าแทงข้างหลัง ใครจะอยู่-จะไป ให้บอกมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย เดินทางมาเป็นประธานการประชุมพรรคไทยรักไทย โดยมี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เดินทางมาที่พรรคด้วย

รายงานข่าวจากที่ประชุมเปิดเผยว่า ในที่ประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวกับ ส.ส.ของพรรค ว่า กระบวนการยุติธรรมในประเทศขณะนี้มีปัญหา ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากฝ่ายต้าน หรือฝ่ายสนับสนุน มันอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมที่ไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน

แต่เราไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง จะฝ่ายไหนเจ็บก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ยังไงไปบอกพวกเราก่อนก็แล้วกันให้อดทน ถ้ารักผมตอนนี้นิ่งดีที่สุด แล้วไปแสดงออกกันวันเลือกตั้ง ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่รู้จะไปห้ามเขาอย่างไร

แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่จงใจจะให้เกิดเหตุ แล้วทำให้นายกฯและ รัฐบาลเสียหาย ผมจะไม่ยอม และ จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่เหมือนกัน

" วันนี้มาทำกับผมแบบนี้ก็เหนื่อย ท้อเหมือนกัน เจอสถานการณ์อย่างนี้ ถือว่าทำกับผมเกินไป เรื่องเหนื่อยเรื่องท้อมีบ้าง ผมเป็นมนุษย์ แต่เป็นความรู้สึกระยะสั้น ระยะยาวมันอยู่ที่ความรับผิดชอบที่ผมมีต่อพี่น้องประชาชน ถ้าจะถอยบนเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ผมพิจารณาของผมได้ แต่ถ้ามาไล่กันแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้ ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมถอยไม่ได้ จึงต้องต่อสู้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อรักษาระบบ กติกาให้คงอยู่ แต่ผมไม่ถอยหรอก ไม่ต้องกลัว ผมไม่มีทางทิ้งประชาชน ไม่มีทางทิ้งส.ส."

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ทำไมตอนเลือกตั้ง 2 เมษายน ที่นายอภิสิทธิ์ และนายชวน ไปหาเสียงที่เชียงใหม่ แล้วโดนคนที่เชียร์ผมไปไล่ สังคมก็ด่าคนที่เชียร์ผม แต่พอวันนี้ผมโดนคนอื่นเขามาไล่ ไม่เห็นมีใครไปประณามคนที่ไล่เลย สื่อตอนนี้ไม่เป็นกลาง ขนาดสื่อของรัฐเอง ยังไม่เป็นกลางเลย

จากนั้น นายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ อดีตส.ส.เชียงราย ได้ลุกขึ้นบอกว่า เราไม่ยอมให้หัวหน้าถอย อยากให้ประกาศไปเลยว่าไม่เว้นวรรค ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การจะเว้นวรรคหรือไม่ มันมีหลายปัจจัย หลายองค์ประกอบ ผมต้องขอพิจารณาก่อน

แต่ที่แน่นอนคือ จะไม่เว้นวรรคจากการเป็นหัวหน้าพรรค และ จะไม่มีวันทิ้งพรรคไทยรักไทย และ การลงส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 แต่เรื่องเว้นวรรคก็ต้องพิจารณา เพราะแก่แล้ว ใกล้เกษียณแล้ว อยากให้คนใหม่ๆในพรรคที่มีไฟ มีผลงานขึ้นมาเป็นผู้นำบ้าง

ซึ่งหากเห็นว่าใครเหมาะสม ก็พร้อมจะสนับสนุน แต่สิ่งเฉพาะหน้าตอนนี้คือ อยากให้พวกเราเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ซึ่งต้องตั้งเป้าไว้ก่อนว่า จะมีขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แต่ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนออกไปคงไม่เกิน 2-3 สัปดาห์

ทั้งนี้คนที่จะลง ส.ส.เตรียมตัวให้พร้อมไว้ ที่สำคัญต้องระวังเรื่องการโกงการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องการนับคะแนน และเรื่องการขนหีบบัตร ทุกคนต้องส่งคนไปประจำที่หน่วยนับคะแนนให้หมด แต่ห้ามซื้อเสียงเด็ดขาด เพราะอันตรายมาก ค่าใช้จ่ายที่พรรคช่วย ก็เอาไปลงพื้นที่จัดตั้งแกนนำ ไม่ใช่เอาไปซื้อเสียง

" ขอให้ส.ส.เขตทุกคน เตรียมแกนนำไว้เขตละ 3,000 คน ถ้าเป่านกหวีดปรี๊ดเมื่อไหร่ ก็ขอให้มา กทม.ได้ทันที คนแค่ล้านกว่าคน คงไม่เดือดร้อนอะไรมากนักหรอก และ ให้หัวหน้ากลุ่ม คนที่รับผิดชอบเขตเลือกตั้ง ต้องไปจัดทำแผนในการชี้แจงข่าวลือ และ ข่าวปล่อยต่างๆต่อประชาชน วันนี้ข่าวลือมีมาก โดยเฉพาะข่าวลือเกี่ยวกับผม เล่นกันทุกอย่าง วันนี้ผมพูดอะไรในพรรคก็ยังกลัวๆอยู่เลย เพราะมักเอาที่ผมพูดไปเล่าให้นักข่าวฟัง "

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า เดี๋ยวนี้คนที่ตามๆผม คนที่ใกล้ชิดก็ชักออกห่างไป เมื่อก่อนตามจนน่ารำคาญ ผมรู้ เลือกตั้งคราวนี้ อดีต ส.ส.กทม.ใครไม่อยากลงก็บอกเลย ใครจะหนีก็ไปเลย เพราะการเมืองก็เหมือนเกมวัดใจ มันต้องวัดใจกัน ก็ดีเหมือนกันถ้าคิดไม่ตรงกัน ก็ออกห่างไป จะได้รู้ว่าใครเป็นเนื้อแท้บ้าง มาช่วยกันสร้างพรรคต่อ

" พรรคไทยรักไทยจะต้องเป็นสถาบันการเมืองต่อไป สถานการณ์ที่เกิดขึ้นวันสองวันนี้ ปล่อยให้คนที่เกี่ยวข้องเขาจัดการทางกฎหมายไป พวกเราอย่าไปก่อม็อบมาชน เพราะจะเข้าทางผู้ไม่หวังดี คนรักผมก็มี คนชังผมก็มี "พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังการประชุมที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประกาศว่าพร้อมจะสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่แทน ทำให้อดีตส.ส.และแกนนำของแต่ละกลุ่ม ได้แยกประชุมกันอีกต่างหาก ตามห้องต่างๆภายในสำนักงานพรรคไทยรักไทย

โดยอดีตส.ส.หลายคน ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ทั้งหน้าห้องน้ำ บริเวณที่จอดรถ โดยอดีต ส.ส. หลายคน แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

โดยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า คำประกาศครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะชัดเจนว่า หลังการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเว้นวรรคการเมืองแน่นอน และ อดีตส.ส.เขตหลายคน เมื่อเจออดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และผู้รับผิดชอบการทำโผปาร์ตี้ลิสต์ไทยรักไทย ต่างก็สอบถามกันว่าโผปาร์ตี้ลิสต์เสร็จหรือยัง และมีแกนนำคนไหนอยู่ในบัญชีบ้าง

โดยอดีตส.ส.หลายคนได้สอบถามรายชื่อบุคคลที่พ.ต.ท.ทักษิณให้ความไว้วางใจ ว่าจะอยู่ในโผปาร์ตี้ลิสต์หรือไม่ เช่น พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ,นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พรรคได้แจกหนังสือพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งเขียนโดย นายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งแจกซีดี 11 แผ่น ที่เป็นผลงานของพรรค ตั้งแต่ก่อนเป็นและหลังเป็นรัฐบาล ให้กับ ส.ส.ทุกคน

โดยมีเนื้อหาเริ่มตั้งแต่ประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ , ก่อร่างสร้างพรรค , ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ นโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค และบทสุดท้ายเสียสละเพื่อแผ่นดิน

มีรายงานว่า ก่อนการประชุมใหญ่พรรคไทยรักไทย ได้มีการประชุมย่อยของส.ส.แต่ละภาค ที่น่าสนใจคือการประชุมผู้สมัครส.ส.ภาคอีสาน ที่มี นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง อดีต ส.ส.มหาสารคาม เป็นประธาน

โดยมีรายงานว่าอดีตส.ส.หลายคนได้อภิปราย และแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองกันอย่างหนัก หลังจากนั้นที่ประชุมได้มีมติอย่างเป็นทางการ ว่าจะไม่ยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณ เว้นวรรคการเมือง หลังการเลือกตั้งโดยเด็ดขาด และ ได้มอบหมายให้อดีต ส.ส.ของภาคอีสาน ไปแจ้งกับพ.ต.ท.ทักษิณในที่ประชุมด้วย

นายรณฤทธิ์ คานเขต อดีตส.ส.ยโสธร พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ได้มีมติร่วมกันว่า จะสนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งต่อไป

เพราะหาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะประชาชนภาคอีสานที่เลือกไทยรักไทย คงไม่ยอมแน่นอน หากจะต้องเว้นวรรคเพียงเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนไม่กี่คนมากดดันให้เว้นวรรค

" พวกผมคงไม่ยอมให้ท่านเว้นวรรค ผมว่าพวกพันธมิตรมีสิทธิ์อะไรมายื่นคำขาด ในเมื่อประชาชนเขาเลือกไทยรักไทยมาแล้วเราตั้งรัฐบาลได้ แล้วต้องไปฟังคนอื่นทำไม อย่ามาสร้างปัญหา ถ้าเราไปยอมต่อไปบ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้หากให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย" อดีต ส.ส.ไทยรักไทย กล่าว